MacEwan finds the essence of neolib

MacEwan finds the essence of neoliberalism to be the doctrine that economic growth is maximized when movements of goods, services and capital, but not labour, are unimpeded by governmental regulations. MacEwan traces this position to the Ricardian notion that countries gain (i.e. have growing economies) by specializing on goods for which they have the greatest comparative advantage (as with Britain producing cloth and Portugal wine in the eighteenth century), or least comparative disadvantage and trading these goods freely. This static theory of trade was made into a dynamic growth model by adding a sequence of further arguments. Economies growing through trade have higher levels of savings and, when turned into investments, these increase productivity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

MacEwan ค้นหาสาระสำคัญของ neoliberalism เป็น หลักคำสอนที่เติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุดเมื่อเคลื่อนไหวของสินค้า บริการ และ ทุน แต่ไม่แรง จะไม่มีข้อจำกัด โดยระเบียบของรัฐ MacEwan ร่องรอยความคิด Ricardian ที่ประเทศได้รับตำแหน่งนี้ (เช่นมีการเติบโตเศรษฐกิจ) โดยเชี่ยวชาญในสินค้าที่มีการเปรียบเทียบมากที่สุดได้เปรียบ (เช่นเดียวกับราชอาณาจักรผลิตผ้าและไวน์โปรตุเกสในศตวรรษที่สิบแปด), หรือเปรียบเทียบอย่างน้อยข้อเสียและการซื้อขายสินค้าเหล่านี้ได้อย่างอิสระ ทฤษฎีนี้คงการค้าทำเป็นแบบจำลองการเติบโต โดยการเพิ่มลำดับของอาร์กิวเมนต์เพิ่มเติม เศรษฐกิจที่เติบโตผ่านการค้ามีระดับที่สูงขึ้นของการออม และ เมื่อกลายเป็นเงินลงทุน เหล่านี้เพิ่มผลผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

MacEwan พบว่าสาระสำคัญของลัทธิเสรีนิยมใหม่ที่จะเชื่อว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะขยายเมื่อเคลื่อนไหวของสินค้าบริการและเงินทุน แต่ไม่ได้ใช้แรงงานจะไม่มีข้อ จำกัด โดยกฎระเบียบของรัฐ MacEwan ร่องรอยตำแหน่งนี้ไปคิด Ricardian ว่าประเทศที่ได้รับ (เศรษฐกิจเช่นมีการเจริญเติบโต) โดยมีความเชี่ยวชาญในสินค้าที่พวกเขามีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (เช่นเดียวกับการผลิตผ้าสหราชอาณาจักรและไวน์โปรตุเกสในศตวรรษที่สิบแปด) หรือข้อเสียเปรียบเทียบน้อยและการค้า สินค้าเหล่านี้ได้อย่างอิสระ ทฤษฎีนี้คงที่ของการค้าที่ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบการเจริญเติบโตแบบไดนามิกโดยการเพิ่มลำดับของการขัดแย้งต่อไป เศรษฐกิจที่เติบโตผ่านการค้ามีระดับที่สูงขึ้นของเงินฝากออมทรัพย์และเมื่อหันไปลงทุนเหล่านี้จะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต