In a call to action, Friedman stres

In a call to action, Friedman stresses that we simply cannot do things the same old way anymore and people must be willing to change and adapt. He compares our current crisis to that we faced in competing with the Soviet Union and the launch of Sputnik; the main challenge then came from those who wanted to put up walls while we now have to face those who want to tear them down. Now, as then, we must change our strategy to overcome these issues. He discusses the difficulty in getting America to stand up and take notice of the importance of this issue in a supercharged society where hype and terror are needed to get the public’s attention and support.
Friedman stresses the importance of shoving political barriers aside in what he calls “compassionate flatism” to prepare our country for what lies ahead. He questions leadership and education; who will lead us into the forefront of this new globalized economy? The necessity for lifelong learning and benefits to allow workers to remain mobile and adaptable is very real, though it seems to be at the bottom of our to-do list.
Finally, Friedman examines how companies such as Capital One are working on the lifelong learning objective by providing training and upgrading to employees, increasing their own productivity and bottom line in the process, as he calls for social programs that encourage workers to be creative and hardworking.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการเรียกการดำเนินการ ฟรีดแมนต้องเครียดว่า เราก็ไม่ทำสิ่งเก่าเหมือนอีกและคนยินดีที่จะเปลี่ยนแปลง และปรับ เปรียบเทียบเขาของวิกฤตปัจจุบันที่เราต้องเผชิญในการแข่งขันกับสหภาพโซเวียตและการเปิดตัวของ Sputnik ความท้าทายหลักนั้นมาจากผู้ที่ต้องการวางผนังในขณะที่เราตอนนี้ต้องเผชิญกับผู้ที่ต้องการฉีกพวกเขาลง ตอนนี้ เท่านั้น เราต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ของเราที่จะเอาชนะปัญหาเหล่านี้ เขากล่าวถึงความยากลำบากในอเมริกาการยืนขึ้น และใช้ประกาศความสำคัญของปัญหานี้ในสังคม supercharged ที่ hype และก่อการร้ายจะต้องได้รับความสนใจของประชาชนและสนับสนุนการฟรีดแมนเน้นความสำคัญของการ shoving อุปสรรคทางการเมืองไว้ในสิ่งที่เขาเรียก "สังเวช flatism" เพื่อเตรียมความพร้อมประเทศของเราสำหรับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า เขาถามนำและการศึกษา ที่จะนำเราเข้าไปในส่วนสำคัญของโลกาภิวัตน์นี้ใหม่หรือไม่ ความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้และประโยชน์ให้ผู้ปฏิบัติงานยังคงสามารถปรับเปลี่ยน และเคลื่อนเป็นจริง แม้ว่ามันน่าจะเป็นที่ด้านล่างของรายการของเราสุดท้าย ฟรีดแมนตรวจสอบว่าบริษัทเช่นทุนหนึ่งกำลังทำงานกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้รอง โดยให้การฝึกอบรมและการปรับรุ่นเป็นพนักงาน การเพิ่มประสิทธิภาพและบรรทัดด้านล่างในกระบวนการ ตัวเองเป็นเขาเรียกว่าโปรแกรมทางสังคมที่ส่งเสริมให้คนมีความคิดสร้างสรรค์และทุก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการเรียกร้องให้ดำเนินฟรีดแมนเน้นว่าเราก็ไม่สามารถทำในสิ่งที่วิธีการเดิม ๆ อีกต่อไปและคนที่จะต้องยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงและปรับตัว เขาเปรียบเทียบกับวิกฤตในปัจจุบันของเราที่เราต้องเผชิญในการแข่งขันกับสหภาพโซเวียตและการเปิดตัวของสปุตนิ; ความท้าทายหลักก็มาจากผู้ที่ต้องการที่จะนำขึ้นผนังในขณะที่ตอนนี้เราต้องเผชิญกับผู้ที่ต้องการที่จะฉีกพวกเขาลง ขณะนี้เป็นแล้วเราจะต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ของเราที่จะเอาชนะปัญหาเหล่านี้ เขากล่าวถึงความยากลำบากในการได้รับอเมริกาที่จะยืนขึ้นและจะแจ้งให้ทราบถึงความสำคัญของปัญหานี้ในสังคมซูเปอร์ที่ hype และความหวาดกลัวที่มีความจำเป็นที่จะได้รับความสนใจของประชาชนและการสนับสนุน.
ฟรีดแมนเน้นความสำคัญของการผลักอุปสรรคทางการเมืองกันในสิ่งที่เขาเรียก "ความเห็นอกเห็นใจ flatism" เพื่อเตรียมความพร้อมประเทศของเราสำหรับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า เขาถามความเป็นผู้นำและการศึกษา ผู้ที่จะนำเราไปสู่แถวหน้าของเศรษฐกิจทั่วโลกใหม่นี้? ความจำเป็นในการเรียนรู้ตลอดชีวิตและผลประโยชน์ที่จะอนุญาตให้คนงานที่จะยังคงอยู่ในโทรศัพท์มือถือและการปรับตัวที่เป็นจริงมาก แต่ก็น่าจะเป็นที่ด้านล่างของรายการที่ต้องทำของเรา.
สุดท้ายฟรีดแมนตรวจสอบวิธีการที่ บริษัท ดังกล่าวเป็นทุนหนึ่งกำลังทำงานในการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยมีวัตถุประสงค์ให้การฝึกอบรมและการอัพเกรดให้กับพนักงานเพิ่มผลผลิตของตัวเองและบรรทัดล่างในกระบวนการที่เขาเรียกร้องให้มีโครงการทางสังคมที่ส่งเสริมให้คนงานที่จะสร้างสรรค์และทำงานหนัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการเรียกการกระทำ ฟรีดแมน เน้นที่เราไม่สามารถทำวิธีเดิมอีกต่อไป และประชาชนจะต้องยินดีที่จะเปลี่ยนแปลงและปรับตัว เขาเปรียบเทียบวิกฤตการณ์ในปัจจุบันของเราที่เราเผชิญในการแข่งขันกับสหภาพโซเวียต และการเปิดตัวของเครื่อง ความท้าทายหลักก็มาจากผู้ที่อยากใส่ขึ้นผนังในขณะที่ตอนนี้เราต้องเผชิญหน้ากับคนที่ต้องการฉีกมันลง ตอนนี้เป็นแล้วเราต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ของเราที่จะเอาชนะปัญหาเหล่านี้ เขากล่าวถึงความยากในการอเมริกาที่จะยืนขึ้นและจะแจ้งให้ทราบถึงความสำคัญของปัญหานี้ในสังคม supercharged ที่ hype และความหวาดกลัวที่จำเป็นในการได้รับความสนใจของประชาชน และสนับสนุน .
ฟรีดแมนความสำคัญกดดันทางการเมืองอุปสรรคไปในสิ่งที่เขาเรียก " แผ่เมตตา flatism " เตรียมประเทศของเราสำหรับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า เขาถาม และความเป็นผู้นำทางการศึกษา ที่จะนำเราสู่ระดับแนวหน้าของประเทศเศรษฐกิจใหม่นี้ ความจำเป็นในการเรียนรู้ตลอดชีวิตและผลประโยชน์ที่จะช่วยให้คนยังคงเคลื่อนที่ และปรับตัวมากจริงแต่มันดูเหมือนจะอยู่ที่ด้านล่างของรายการของเรา .
ในที่สุด ฟรีดแมนวิเคราะห์ว่า บริษัท เช่นทุนหนึ่งทำงานกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ตลอดชีวิตโดยการให้การฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน เพิ่มประสิทธิภาพ ของพวกเขาเอง และบรรทัดล่างในกระบวนการที่เขาเรียกโปรแกรมทางสังคมที่ส่งเสริมให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์และขยันหมั่นเพียร .