The standard deviation of all nanop

The standard deviation of all nanoparticle sizes in a size
distribution is the error in d, which is stated in the text and the
figures of this paper. The number density of the particles was calculated from the total amount of gold used for the synthesis,the measured particle diameter, and the volume of the solution
in which they were synthesized. Thus, the synthesis reactions
were assumed to be complete, since excess amounts of reducing
agent were used. This assertion was consistent with UV-vis
spectroscopy in the wavelength range of 200-300 nm where no
residues of H4AuCl4 could be detected.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานทุกข nanoparticle ขนาดกระจายอยู่ใน d ซึ่งระบุไว้ในข้อความข้อผิดพลาดและตัวเลขของเอกสารนี้ หมายเลขความหนาแน่นของอนุภาคถูกคำนวณจากยอดรวมของทองคำที่ใช้ในการสังเคราะห์ เส้นผ่าศูนย์กลางวัดอนุภาค และปริมาณของการแก้ปัญหาซึ่งพวกเขาถูกสังเคราะห์สิ่ง ดังนั้น ปฏิกิริยาสังเคราะห์ก็ถือว่าสมบูรณ์ ตั้งแต่ส่วนเกินจำนวนที่ลดลงใช้แทน นี้ไม่สอดคล้องกับ UV-visกในช่วงความยาวคลื่น 200-300 nm ไม่พบการตกค้างของ H4AuCl4

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เบี่ยงเบนมาตรฐานของทุกขนาดอนุภาคนาโนในขนาด
การกระจายเป็นข้อผิดพลาดในวันที่มีการระบุไว้ในข้อความและ
ตัวเลขของบทความนี้ ความหนาแน่นของจำนวนของอนุภาคที่คำนวณได้จากจำนวนทั้งหมดของทองที่ใช้ในการสังเคราะห์อนุภาคขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางวัดและปริมาณของการแก้ปัญหา
ที่พวกเขาถูกสังเคราะห์ ดังนั้นปฏิกิริยาการสังเคราะห์
ถูกสันนิษฐานว่าจะแล้วเสร็จเนื่องจากปริมาณส่วนเกินของการลด
ตัวแทนถูกนำมาใช้ ยืนยันนี้สอดคล้องกับ UV-Vis
สเปกโทรสโกในช่วงความยาวคลื่น 200-300 นาโนเมตรที่ไม่มี
สารตกค้างของ H4AuCl4 สามารถตรวจพบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของขนาดอนุภาคนาโนในขนาด
กระจายความผิดพลาดใน D ซึ่งจะระบุในข้อความและตัวเลข
กระดาษนี้ จำนวนความหนาแน่นของอนุภาคคำนวณจากยอดรวมของทองที่ใช้ในการสังเคราะห์ , วัดอนุภาคขนาดและปริมาณของสารละลาย
ที่พวกเขาได้ . ดังนั้น ปฏิกิริยาการสังเคราะห์
สมมติให้สมบูรณ์ เนื่องจากยอดเงินส่วนเกินลด
แทนการใช้ ความเชื่อนี้สอดคล้องกับ UV VIS
สเปกโทรสโกปีในช่วงความยาวคลื่นของ 200-300 นาโนเมตรที่สามารถตรวจพบสารตกค้างของ h4aucl4
.