Job Description Pharmacists are he

Job Description
Pharmacists are health professionals who, in addition to dispensing prescription medication to patients, also provide information about the drugs their doctors have ordered for them. They explain doctors' instructions to patients so that these individuals can use these medications safely and effectively.
Employment Facts
Pharmacists held about 275,000 jobs in 2010. Most worked in pharmacies and drug stores.
Others were employed by hospitals and by grocery stores and other retail establishments.
Educational Requirements
To become a pharmacist one must earn a Doctor of Pharmacy degree, known as a Pharm.D. Pharmacy programs are usually four years long and must be accredited by the Accreditation Council for Pharmacy Education (ACPE).
To gain admission one must have at least two years of college study with courses including math, chemistry, biology, physics, humanities and social sciences. Applicants generally have to take the Pharmacy College Admissions Test. Doctor of Pharmacy programs include coursework in pharmaceutics and pharmaceutical chemistry, pharmacology (effects of drugs on the body), toxicology and pharmacy administration.
Other Requirements
All states in the US license pharmacists. While each state has its own requirements, all applicants must pass the North American Pharmacist Exam which the National Association of Boards of Pharmacy (NABP) administers. Most states also require graduates to pass the Multistate Pharmacy Jurisprudence Exam (MPJE), a test of pharmacy law that is also administered by the NABP.
Other states administer another exam that tests knowledge of pharmacy law. Several states also require additional state-specific exams. To learn more about the requirements in the state in which you want to work, you should check with that state's Board of Pharmacy. The NABP maintains a list of Boards of Pharmacy that includes, in addition to US boards, those in Canada, New Zealand and Australia.
Those who want to become pharmacists should bring with them certain qualities that are typically acquired outside the classroom. They should, first of all, have a good aptitude for science. They must also have good communication skills since, in addition to dispensing medication, they also offer advice to customers. Being detail-oriented is imperative since mistakes can endanger people's lives. Pharmacists who run retail pharmacies must have good managerial skills.
Advancement
Pharmacists working in independent pharmacies may become owners or part-owners after they gain experience and secure the necessary capital. Those in chain drugstores may be promoted to pharmacy supervisors or store managers, then to district or regional managers and eventually to executive positions at the company's headquarters. Hospital pharmacists may be promoted to supervisory positions. Those who work in the pharmaceutical industry may advance in areas including marketing, sales, research or quality control.
Job Outlook
Employment of pharmacists is expected to grow faster than the average for all occupations through 2020. This is partly due to an increase in the number of older people who tend to use more medication. New drugs will be introduced to the market also causing a need for more pharmacists. In addition the number of medications individuals are prescribed will call for qualified professionals to make sure they are taken correctly.
Earnings:
Pharmacists earned a median annual salary of $113,390 and median hourly wages of $54.51 in 2011. Use the Salary Wizard at Salary.com to find out how much pharmacists currently earn in your city.

A Day in a Pharmacist's Life:
On a typical day a pharmacist will:
• advise physicians and other health practitioners on the selection, dosages, interactions and side effects of medications
• monitor patients' response to drug therapy
• advise patients and answer their questions about side effects and drug interactions
• provide information and make recommendations about over-the-counter drugs
Pharmacists may also
• give advice about diet, exercise, or stress management;
• help patients manage conditions such as diabetes, asthma, smoking cessation or high blood pressure
• advise patients about durable medical equipment and home healthcare supplies
• complete third-party insurance forms and other paperwork
Pharmacists who own or manage drugstores may supervise personnel, as well as have other general managerial duties.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คำอธิบายงาน เภสัชกรเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่ นอกจากจ่ายยาให้ผู้ป่วย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับยาที่สั่งแพทย์ของพวกเขาสำหรับพวกเขา พวกเขาอธิบายคำแนะนำของแพทย์เพื่อผู้ป่วยเพื่อให้บุคคลเหล่านี้สามารถใช้ยาเหล่านี้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพข้อเท็จจริงของงาน เภสัชกรจัดงานรวมประมาณ 275,000 ใน 2010 ส่วนใหญ่ทำงานในร้านขายยาและร้านขายยาคนถูกว่าจ้าง โดยโรงพยาบาล และร้านขายของชำและร้านค้าปลีกการศึกษาความต้องการ เป็น เภสัชกรหนึ่งต้องได้รับปริญญาแพทย์ร้านขายยา เรียกว่าเป็น Pharm.D โปรแกรมร้านขายยามักยาวนาน 4 ปี และต้องรับรอง โดยสภารับรองสำหรับเภสัชศาสตร์ศึกษา (ACPE) การเข้าเรียนที่หนึ่งต้องมีอย่างน้อย สองปีของวิทยาลัยศึกษากับหลักสูตรคณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ผู้สมัครโดยทั่วไปมีการแพทย์เภสัชศาสตร์วิทยาลัยรับสมัครนักศึกษาทำของร้านขายยา โปรแกรมรวมถึงสอนในเภสัชภัณฑ์ และยาเคมี บริหารร้านขายยาและพิษวิทยา เภสัชวิทยา (ผลของยาเสพติดในร่างกาย)ข้อกำหนดอื่น ๆ ทุกรัฐในสหรัฐอเมริกาใบอนุญาตเภสัชกร ในขณะที่แต่ละรัฐมีความต้องการของตนเอง ผู้สมัครทั้งหมดต้องผ่านการสอบเภสัชกรของอเมริกาเหนือซึ่งดูแลการชาติสมาคมของบอร์ดของร้านขายยา (NABP) อเมริกาส่วนใหญ่ต้องใช้ผู้สำเร็จการศึกษาผ่านการ Multistate ยาฟิกฮสอบ (MPJE), การทดสอบกฎหมายยาที่ยังมีการบริหารจัดการ โดยการ NABP รัฐจัดการสอบอื่นที่ทดสอบความรู้ของกฎหมายยา หลายรัฐยังต้องสอบเฉพาะสถานะเพิ่มเติม เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความต้องการในสถานะที่คุณต้องการ คุณควรตรวจสอบกับคณะเภสัชศาสตร์ของรัฐ NABP การเก็บรายการของบอร์ดของร้านขายยาที่มี นอกเหนือจากบอร์ดสหรัฐอเมริกา แคนาดา นิวซีแลนด์ และออสเตรเลียใน ผู้ที่ต้องการเป็น เภสัชกรควรนำกับคุณภาพบางอย่างที่ซื้อมามักจะอยู่นอกห้องเรียน ก่อนอื่น ควร มีความถนัดดีสำหรับวิทยาศาสตร์ พวกเขาต้องมีทักษะการสื่อสารที่ดีตั้งแต่ นอกจากจ่ายยา พวกเขายังมีคำแนะนำแก่ลูกค้า มีการเน้นรายละเอียดเป็นความจำเป็นเนื่องจากความผิดพลาดสามารถเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้คน เภสัชกรที่ร้านขายยาขายปลีกต้องมีทักษะการบริหารจัดการที่ดีความก้าวหน้า เภสัชกรที่ทำงานในร้านขายยาอิสระอาจเป็น เจ้าของหรือเจ้าของส่วนหนึ่งหลังจากได้รับประสบการณ์ และปลอดภัยหลวงจำเป็น ในร้านขายยาเชนอาจเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้างานเภสัชกรรม หรือผู้จัดการ แล้ว การเขตหรือผู้จัดการระดับภูมิภาค และในที่สุดตำแหน่งที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทร้านค้า เภสัชกรโรงพยาบาลอาจสามารถเลื่อนขั้นไปกำกับตำแหน่ง ผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมเภสัชกรรมอาจล่วงหน้าในพื้นที่รวมถึงการตลาด การขาย วิจัย หรือการควบคุมคุณภาพงาน Outlook งานของเภสัชกรที่คาดว่าจะเติบโตได้เร็วกว่าค่าเฉลี่ยทุกอาชีพผ่าน 2020 นี่คือส่วนหนึ่งเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มการใช้ยาเพิ่มเติม ยาใหม่ที่จะนำการตลาดยัง ทำให้ต้องเภสัชกรเพิ่มเติม นอกจากนี้ จำนวนของยาที่มีกำหนดบุคคลที่จะเรียกสำหรับอาชีพการตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขาจะดำเนินการอย่างถูกต้องกำไร: เภสัชกรได้รับเงินเดือนประจำปีค่าเฉลี่ยของค่าจ้างรายชั่วโมง $113,390 และมัธยฐานของ $54.51 2554 ใช้ตัวช่วยสร้างเงินเดือนที่ Salary.com เพื่อหาจำนวนเภสัชกรในขณะนี้ได้รับในเมืองของคุณวันในชีวิตของเภสัชกร:ในวันโดยทั่วไป เภสัชกรจะ:•แนะนำแพทย์และสุขภาพอื่น ๆ เลือก โด การโต้ตอบ และผลข้างเคียงของยา•จอภาพของผู้ป่วยตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา•แนะนำให้ผู้ป่วย และตอบคำถามของพวกเขาเกี่ยวกับยาและผลข้างเคียง•ให้ข้อมูล และให้คำแนะนำเกี่ยวกับยาเสพติดเภสัชกรอาจจะ•ให้คำแนะนำ เกี่ยวกับอาหาร ออกกำลังกาย ความ เครียด•ช่วยให้ผู้ป่วยจัดการเงื่อนไขเช่นเบาหวาน หอบหืด การเลิกบุหรี่ หรือความดันโลหิตสูง•ให้คำแนะนำผู้ป่วยเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทนทาน และอุปกรณ์การดูแลสุขภาพที่บ้าน•กรอกแบบฟอร์มประกันภัยบุคคลที่สามและเอกสารอื่นเภสัชกรที่เป็นเจ้าของ หรือจัดการร้านขายยาอาจดูแลบุคลากร ตลอดจนมีหน้าที่บริหารอื่น ๆ ทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รายละเอียดของงาน
เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่นอกเหนือไปจากการจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์กับผู้ป่วยที่ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดแพทย์ของพวกเขาได้สั่งซื้อสำหรับพวกเขา พวกเขาอธิบายคำแนะนำของแพทย์ให้แก่ผู้ป่วยเพื่อให้บุคคลเหล่านี้สามารถใช้ยาเหล่านี้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ.
ข้อเท็จจริงการจ้างงาน
เภสัชกรจัดขึ้นประมาณ 275,000 งานในปี 2010 ส่วนใหญ่ทำงานในร้านขายยาและร้านขายยา.
คนอื่น ๆ ถูกจ้างมาจากโรงพยาบาลและร้านขายของชำและสถานประกอบการค้าปลีกอื่น ๆ .
ความต้องการการศึกษา
ที่จะกลายเป็นเภสัชกรหนึ่งจะต้องได้รับปริญญาเภสัชศาสตร์ที่รู้จักในฐานะ Pharm.D โปรแกรมร้านขายยามักจะสี่ปีที่ยาวนานและจะต้องได้รับการรับรองโดยสภารับรองสำหรับการศึกษาเภสัช (ACPE).
เพื่อให้ได้รับการเข้าศึกษาหนึ่งจะต้องมีอย่างน้อยสองปีของการศึกษาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรรวมทั้งคณิตศาสตร์, เคมี, ชีววิทยา, ฟิสิกส์, มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ . สมัครโดยทั่วไปต้องใช้การรับสมัครทดสอบเภสัชกรรมวิทยาลัย หมอของโปรแกรมร้านขายยารวมถึงการเรียนการสอนในเภสัชกรรมและยาเคมีเภสัชวิทยา (ผลกระทบของยาเสพติดในร่างกาย), พิษวิทยาและการบริหารงานร้านขายยา.
อื่น ๆ ที่ต้องการ
ทุกรัฐในสหรัฐอเมริกาเภสัชกรใบอนุญาต ในขณะที่แต่ละรัฐมีความต้องการของตัวเองสมัครทุกคนจะต้องผ่านการสอบนอร์ทอเมริกันเภสัชกรซึ่งสมาคมแห่งชาติของบอร์ดเภสัชกรรม (NABP) บริหารจัดการ รัฐส่วนใหญ่ยังต้องการผู้สำเร็จการศึกษาที่จะผ่านการสอบนิติศาสตร์ Multistate เภสัชศาสตร์ (MPJE) การทดสอบของกฎหมายร้านขายยาที่ยังบริหารงานโดย NABP.
รัฐอื่น ๆ ที่ดูแลการทดสอบการทดสอบความรู้ของกฎหมายร้านขายยาอีก หลายรัฐยังต้องสอบรัฐเฉพาะเพิ่มเติม ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดในรัฐที่คุณต้องการที่จะทำงานที่คุณควรตรวจสอบกับของรัฐที่คณะเภสัชศาสตร์ NABP เก็บรายการวิชาชีพเภสัชกรรมที่มีนอกเหนือไปจากบอร์ดของสหรัฐผู้ที่อยู่ในแคนาดานิวซีแลนด์และออสเตรเลีย.
ผู้ที่ต้องการที่จะกลายเป็นเภสัชกรควรมากับพวกเขาคุณสมบัติบางอย่างที่ได้มามักจะนอกห้องเรียน พวกเขาควรแรกของทุกคนมีความถนัดที่ดีสำหรับวิทยาศาสตร์ พวกเขายังต้องมีทักษะในการสื่อสารที่ดีตั้งแต่นอกเหนือไปจากการจ่ายยาที่พวกเขายังให้คำแนะนำกับลูกค้า เป็นรายละเอียดที่มุ่งเน้นการมีความจำเป็นเนื่องจากข้อผิดพลาดที่สามารถเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้คน เภสัชกรที่ทำงานร้านขายยาค้าปลีกจะต้องมีทักษะการบริหารจัดการที่ดี.
ก้าวหน้า
เภสัชกรที่ทำงานในร้านขายยาอิสระอาจจะกลายเป็นเจ้าของหรือบางส่วนเจ้าของหลังจากที่พวกเขาได้รับประสบการณ์และความปลอดภัยของเงินทุนที่จำเป็น ผู้ที่อยู่ในร้านขายยาโซ่อาจจะเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้างานร้านขายยาหรือผู้จัดการร้านแล้วไปยังอำเภอหรือในระดับภูมิภาคและในที่สุดผู้จัดการให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารที่สำนักงานใหญ่ของ บริษัท เภสัชกรโรงพยาบาลอาจจะเลื่อนตำแหน่งให้เป็นตำแหน่งหัวหน้างาน ผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมยาอาจล่วงหน้าในพื้นที่รวมทั้งการตลาด, การขาย, การวิจัยหรือการควบคุมคุณภาพ.
แนวโน้มงาน
การจ้างงานของเภสัชกรที่คาดว่าจะเติบโตได้เร็วขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับการประกอบอาชีพตลอดปี 2020 นี้เป็นส่วนหนึ่งเนื่องจากการเพิ่มขึ้นในจำนวน คนสูงอายุที่มีแนวโน้มที่จะใช้ยามากขึ้น ยาเสพติดใหม่จะได้รับการแนะนำให้รู้จักกับตลาดยังก่อให้เกิดความจำเป็นในการเภสัชกรมากขึ้น นอกจากนี้จำนวนของบุคคลที่ยามีกำหนดจะเรียกผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการอย่างถูกต้อง.
รายได้:
เภสัชกรได้รับเงินเดือนประจำปีมัธยฐานของ $ 113,390 และค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยของ $ 54.51 ในปี 2011 ใช้ตัวช่วยสร้างเงินเดือนที่ Salary.com ไป หาวิธีเภสัชกรมากในขณะนี้ได้รับในเมืองของคุณ. วันหนึ่งในชีวิตของเภสัชกร A: ในวันปกติเภสัชกรจะ A: •แพทย์ให้คำแนะนำและผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพอื่น ๆ ในการเลือกโดปฏิสัมพันธ์และผลข้างเคียงของยา•ตรวจสอบการตอบสนองของผู้ป่วย ต่อการรักษาด้วยยาเสพติด•ผู้ป่วยที่ให้คำแนะนำและตอบคำถามของพวกเขาเกี่ยวกับผลข้างเคียงและปฏิกิริยาระหว่างยา•ให้ข้อมูลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการมากกว่าที่เคาน์เตอร์ยาเภสัชกรอาจ•ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาหาร, การออกกำลังกายหรือการจัดการกับความเครียด; •ช่วยเหลือผู้ป่วยในการจัดการเงื่อนไขดังกล่าว โรคเบาหวาน, โรคหอบหืดการเลิกสูบบุหรี่หรือความดันโลหิตสูงผู้ป่วย•ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพที่บ้านคงทนวัสดุ•รูปแบบการประกันภัยบุคคลที่สามที่สมบูรณ์และเอกสารอื่น ๆ ที่เภสัชกรที่เป็นเจ้าของหรือบริหารจัดการร้านขายยาอาจควบคุมดูแลบุคลากรตลอดจนมีหน้าที่ในการบริหารจัดการอื่น ๆ ทั่วไป .