Open main menu EditWatch this pageC

Open main menu

Edit
Watch this page
Corporate tax in the United States
Corporate tax is imposed in the United States at the federal, most state, and some local levels on the income of entities treated for tax purposes as corporations. Federal tax rates on corporate taxable income vary from 15% to 39%. State and local taxes and rules vary by jurisdiction, though many are based on federal concepts and definitions. Taxable income may differ from book income both as to timing of income and tax deductions and as to what is taxable. Corporations are also subject to a federal Alternative Minimum Tax and alternative state taxes. Like individuals, corporations must file tax returns every year. They must make quarterly estimated tax payments. Controlled groups of corporations may file a consolidated return.


Some corporate transactions are not taxable. These include most formations and some types of mergers, acquisitions, and liquidations. Shareholders of a corporation are taxed on dividends distributed by the corporation. Corporations may be subject to foreign income taxes, and may be granted a foreign tax credit for such taxes.

Shareholders of most corporations are not taxed directly on corporate income, but must pay tax on dividends paid by the corporation. However, shareholders of S Corporations and mutual funds are taxed currently on corporate income, and do not pay tax on dividends.

The United States has the third highest general top marginal corporate income tax rate in the world at 39.1 percent (consisting of the 35% federal rate and a combined state rate), exceeded only by Chad and the United Arab Emirates .[1] However, the average corporate tax rate in 2011 dipped to 12.1%, its lowest level since before World War I, largely due to the great recession and a bonus depreciation tax break.[2]

Overview Edit


Corporate income tax as a share of GDP, 1946–2009.
Corporate income tax is imposed at the federal level[3] on all entities treated as corporations (see Entity classification below), and by 47 states and the District of Columbia. Certain localities also impose corporate income tax. Corporate income tax is imposed on all domestic corporations and on foreign corporations having income or activities within the jurisdiction. For federal purposes, an entity treated as a corporation and organized under the laws of any state is a domestic corporation.[4] For state purposes, entities organized in that state are treated as domestic, and entities organized outside that state are treated as foreign.[5]

Some types of corporations (S corporations, mutual funds, etc.) are not taxed at the corporate level, and their shareholders are taxed on the corporation's income as it is recognized.[6] Corporations which are not S Corporations are known as C Corporations.

Domestic corporations are taxed on their worldwide income at the federal and state levels.[7] Corporate income tax is based on net taxable income as defined under federal or state law. Generally, taxable income for a corporation is gross income (business and possibly non-business receipts less cost of goods sold) less allowable tax deductions. Certain income, and some corporations, are subject to a tax exemption. Also, tax deductions for interest and certain other expenses paid to related parties are subject to limitations.

State and local income taxes

Edit

See also: State income tax
Nearly all of the states and some localities impose a tax on corporation income. The rules for determining this tax vary widely from state to state. Many of the states compute taxable income with reference to federal taxable income, with specific modifications. The states do not allow a tax deduction for income taxes, whether federal or state. Further, most states deny tax exemption for interest income that is tax exempt at the federal level.

Most states tax domestic and foreign corporations on taxable income derived from business activities apportioned to the state on a formulary basis. Many states apply a "throw back" concept to tax domestic corporations on income not taxed by other states. Tax treaties do not apply to state taxes.

Under the U.S. Constitution, states are prohibited from taxing income of a resident of another state unless the connection with the taxing state reach a certain level (called “nexus”).[13] Most states do not tax non-business income of out of state corporations. Since the tax must be fairly apportioned, the states and localities compute income of out of state corporations (including those in foreign countries) taxable in the state by applying formulary apportionment to the total business taxable income of the corporation. Many states use a formula based on ratios of property, payroll, and sales within the state to those items outside the state.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เปิดเมนูหลัก แก้ไขดูหน้านี้ภาษีนิติบุคคลในประเทศสหรัฐอเมริกาชำระภาษีนิติบุคคลในไทยที่รัฐบาลกลาง รัฐมากที่สุด และระดับรายได้ของหน่วยงานปฏิบัติทางภาษีเป็นองค์กรท้องถิ่น อัตราการเสียภาษีรายได้ของบริษัทต้องเสียภาษี 15% 39% แตกต่างกันไป ภาษีท้องถิ่น และรัฐและกฎแตกต่างกันตามอำนาจศาล แม้ว่าหลายคนเป็นไปตามข้อกำหนดและแนวคิดของรัฐบาลกลาง รายได้ที่ต้องเสียภาษีอาจแตกต่างจากหนังสือทั้ง เป็นช่วงเวลาของการหักเงินได้และภาษี และต้องเสียภาษีคือ นอกจากนี้บริษัทยังมีภาษีขั้นต่ำทางเลือกของรัฐบาลกลางและภาษีของรัฐอื่น เช่นบุคคล องค์กรต้องส่งภาษีทุกปี พวกเขาต้องทำการชำระภาษีโดยประมาณรายไตรมาส กลุ่มควบคุมบริษัทอาจแฟ้มส่งคืนรวมธุรกรรมบางอย่างของบริษัทไม่ต้องเสียภาษี เหล่านี้รวมถึงหินส่วนใหญ่และบางชนิดของการควบรวมกิจการ ซื้อ และ liquidations ผู้ถือหุ้นของบริษัทภาษีเงินปันผลที่แจกจ่าย โดยบริษัท บริษัทอาจจะ มีภาษีรายได้ต่างประเทศ และจะได้รับเครดิตภาษีต่างภาษีดังกล่าวผู้ถือหุ้นของบริษัทส่วนใหญ่ไม่ได้คิดภาษีโดยตรงรายได้ของบริษัท แต่ต้องจ่ายภาษีเงินปันผลจ่าย โดยบริษัท อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นของบริษัท S และกองคิดขณะนี้รายได้ของบริษัท และจ่ายภาษีเงินปันผลไทยมีสามอัตราทั่วไปด้านกำไรภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุดในโลกที่ร้อยละ 39.1 (ประกอบด้วยราคากลาง 35% และอัตราการรวมรัฐ), เกิน โดยชาดและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เท่านั้น [1] อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีเฉลี่ยในจิ้ม 12.1% ระดับต่ำสุดตั้งแต่ก่อนฉันสงครามโลก ส่วนใหญ่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ดีและพักผ่อนภาษีค่าเสื่อมราคาโบนัส [2]แก้ไขภาพรวมภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นส่วนแบ่งของ GDP, 1946 – 2009ชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลในระดับรัฐบาลกลาง [3] บนเอนทิตีทั้งหมดถือว่า เป็นบริษัท (ดูเอนทิตี้ประเภทด้านล่าง), และ 47 รัฐและเมืองโคลัมเบีย นอกจากนี้บางท้องถิ่นยังกำหนดภาษีเงินได้นิติบุคคล ชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลบริษัทภายในประเทศทั้งหมด และบริษัทต่างประเทศที่มีรายได้หรือกิจกรรมภายในเขตอำนาจ สำหรับวัตถุประสงค์ของรัฐ หน่วยงานถือว่าเป็นบริษัท และระเบียบกฎหมายของรัฐใดเป็นบริษัทในประเทศ [4] สำหรับรัฐ หน่วยงานที่จัดอยู่ในสถานะที่จะถือว่าเป็นประเทศ และเอนทิตีที่จัดนอกรัฐจะถือว่าเป็นต่างประเทศ [5]ไม่คิดบางชนิดบริษัท (บริษัท S กอง ฯลฯ) ในระดับองค์กร และผู้ถือหุ้นของพวกเขาคิดจากรายได้ของบริษัทมีการรับรู้ [6] องค์กรซึ่งไม่ใช่บริษัท S จะเรียกว่าบริษัท Cบริษัทภายในประเทศภาษีในรายได้ทั่วโลกในระดับรัฐบาลกลาง และรัฐ [7] ภาษีเงินอิงตามรายได้สุทธิที่ต้องเสียภาษี ตามกฎหมายรัฐบาลกลาง หรือรัฐ โดยทั่วไป ต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับบริษัทที่มีรายได้รวม (ธุรกิจและรับ-ธุรกิจอาจจะน้อยกว่าต้นทุนขาย) หักหักภาษีได้ รายได้แน่นอน และบางองค์กร มีการยกเว้นภาษี ยัง หักภาษีสำหรับดอกเบี้ยและค่าอื่น ๆ บางที่จ่ายแก่กิจการที่เกี่ยวข้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดรัฐและภาษีท้องถิ่น แก้ไขดู: เงินภาษีรัฐเกือบทั้งหมดของรัฐและท้องถิ่นบางอย่างกำหนดภาษีรายได้บริษัท กฎสำหรับการกำหนดภาษีนี้แตกต่างกันจากรัฐ หลายของอเมริกาคำนวณรายได้ที่ต้องเสียภาษีโดยอ้างอิงของรัฐบาลกลางรายได้ที่ต้องเสียภาษี ด้วยการปรับเปลี่ยนเฉพาะ อเมริกาไม่ได้อนุญาตให้มีการหักภาษีสำหรับภาษีเงินได้ ว่ารัฐบาลกลาง หรือรัฐ เพิ่มเติม อเมริกาส่วนใหญ่ปฏิเสธยกเว้นภาษีสำหรับดอกเบี้ยที่ยกเว้นภาษีในระดับรัฐบาลกลางอเมริกาส่วนใหญ่ภาษีองค์กรภายในประเทศ และต่างประเทศที่มาจากกิจกรรมทางธุรกิจที่แบ่งรัฐยาตามรายได้ที่ต้องเสียภาษี หลายรัฐใช้แนวคิด "โยนกลับ" ภาษีบริษัทภายในประเทศที่รายได้ไม่คิด โดยอเมริกาอื่น ๆ สนธิสัญญาภาษีใช้ภาษีของรัฐภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา อเมริกาจะห้าม taxing รายได้ถิ่นที่อยู่รัฐอื่นยกเว้นการเชื่อมต่อกับรัฐ taxing ถึงระดับ (เรียกว่า "nexus") [13] อเมริกาส่วนใหญ่ภาษี-ธุรกิจรายได้จากองค์กรรัฐ เนื่องจากภาษีต้องแบ่งค่อนข้าง อเมริกาและมาคำนวณรายได้จากรัฐ (รวมทั้งในต่างประเทศ) บริษัทเสียภาษีในรัฐ โดยใช้ยาจัดสรรเงินรายได้ที่ต้องเสียภาษีธุรกิจทั้งหมดของบริษัท ในอเมริกาใช้สูตรตามอัตราส่วนของทรัพย์สิน ค่าจ้าง และขายภายในรัฐเพื่อสินค้านอกรัฐ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เปิดเมนูหลักแก้ไขดูหน้านี้ภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศสหรัฐอเมริกาภาษีเงินได้นิติบุคคลจะเรียกเก็บในสหรัฐอเมริกาที่รัฐบาลกลาง, รัฐมากที่สุดและบางระดับท้องถิ่นกับรายได้ของหน่วยงานที่ได้รับการรักษาเพื่อการเสียภาษีเป็น บริษัท อัตราภาษีของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับการที่ต้องเสียภาษีรายได้ขององค์กรแตกต่างกันไปจาก 15% เป็น 39% ของรัฐและภาษีท้องถิ่นและกฎระเบียบที่แตกต่างกันตามเขตอำนาจแม้หลายคนจะขึ้นอยู่กับแนวคิดของรัฐบาลกลางและคำจำกัดความ ที่ต้องเสียภาษีรายได้อาจแตกต่างจากหนังสือรายได้ทั้งระยะเวลาของการหักเงินรายได้และภาษีและเป็นสิ่งที่จะต้องเสียภาษี บริษัท ยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลกลางภาษีต่ำทางเลือกและทางเลือกที่ภาษีของรัฐ เช่นเดียวกับประชาชน บริษัท ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีทุกปี พวกเขาจะต้องทำให้ไตรมาสจ่ายภาษีประมาณ กลุ่มควบคุมของ บริษัท อาจยื่นผลตอบแทนรวม. บางรายการของ บริษัท ไม่ได้ที่ต้องเสียภาษี เหล่านี้รวมถึงการก่อตัวมากที่สุดและบางชนิดของการควบรวมกิจการและ Liquidations ผู้ถือหุ้นของ บริษัท จะหักภาษีเงินปันผลจัดจำหน่ายโดย บริษัท บริษัท อาจจะภาษีรายได้ต่างประเทศและอาจจะได้รับเครดิตภาษีต่างประเทศสำหรับภาษีดังกล่าว. ผู้ถือหุ้นของ บริษัท ส่วนใหญ่จะไม่เก็บภาษีต่อรายได้ของ บริษัท แต่ต้องจ่ายภาษีเงินปันผลที่จ่ายโดย บริษัท อย่างไรก็ตามผู้ถือหุ้นของ บริษัท เอสและกองทุนรวมจะหักภาษีในขณะนี้ภาษีเงินได้นิติบุคคลและไม่ต้องจ่ายภาษีเงินปันผล. สหรัฐอเมริกามีที่สามทั่วไปนิติบุคคลบนขอบอัตราภาษีที่สูงที่สุดในโลกที่ร้อยละ 39.1 (ประกอบด้วย 35% อัตราของรัฐบาลกลางและอัตราที่รัฐรวม) เกินโดยเฉพาะชาดและสหรัฐอาหรับเอมิ. [1] อย่างไรก็ตามอัตราภาษีเฉลี่ยในปี 2011 ลดลงเป็น 12.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งส่วนใหญ่เนื่องจากการที่ดี ภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการลดหย่อนภาษีค่าเสื่อมราคาโบนัส. [2] ภาพรวมแก้ไขภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นหุ้นของ GDP 1946-2009. ภาษีเงินได้นิติบุคคลจะเรียกเก็บในระดับชาติ [3] ในทุกหน่วยงานที่ถือว่าเป็น บริษัท (ดูจำแนกนิติบุคคลด้านล่าง) และ 47 รัฐและ District of Columbia เมืองบางชนิดยังกำหนดภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้นิติบุคคลจะเรียกเก็บใน บริษัท ภายในประเทศและในต่างประเทศที่มี บริษัท รายได้หรือกิจกรรมที่อยู่ในเขตอำนาจ สำหรับวัตถุประสงค์ของรัฐบาลกลางนิติบุคคลที่ได้รับการรักษาเป็น บริษัท และการจัดระเบียบภายใต้กฎหมายของรัฐเป็น บริษัท ในประเทศ. [4] สำหรับวัตถุประสงค์ของรัฐหน่วยงานที่จัดในสถานะที่จะถือว่าเป็นประเทศและหน่วยงานที่จัดนอกรัฐที่จะถือว่าเป็นชาวต่างชาติ . [5] บางชนิดของ บริษัท (บริษัท เอสกองทุนรวมและอื่น ๆ ) จะไม่เก็บภาษีในระดับองค์กรและผู้ถือหุ้นของพวกเขาจะเก็บภาษีกับรายได้ของ บริษัท ตามที่ได้รับการยอมรับ. [6] บริษัท ที่ไม่ได้ S เป็น บริษัท ที่รู้จักกันเป็น บริษัท ซี. บริษัท ในประเทศจะหักภาษีกับรายได้ทั่วโลกของพวกเขาในระดับรัฐบาลกลางและรัฐ. [7] ภาษีเงินได้นิติบุคคลจะขึ้นอยู่กับรายได้ที่ต้องเสียภาษีสุทธิตามที่กำหนดภายใต้กฎหมายของรัฐบาลกลางหรือรัฐ โดยทั่วไปรายได้ภาษีสำหรับ บริษัท ที่เป็นรายได้รวม (ธุรกิจใบเสร็จรับเงินและอาจไม่ใช่ธุรกิจค่าใช้จ่ายที่น้อยลงของสินค้าที่ขาย) การหักภาษีน้อยกว่าที่อนุญาต รายได้บางอย่างและบาง บริษัท อาจมีการได้รับการยกเว้นภาษี นอกจากนี้ยังมีการหักภาษีดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จ่ายให้กับกิจการที่เกี่ยวข้องกันภายใต้ข้อ จำกัด . รัฐและภาษีท้องถิ่นแก้ไขดูเพิ่มเติม: รัฐภาษีรายได้เกือบทั้งหมดของรัฐและท้องถิ่นบางกำหนดภาษีรายได้ บริษัท กฎระเบียบสำหรับการกำหนดภาษีนี้แตกต่างกันจากรัฐเพื่อให้รัฐ หลายรัฐคำนวณภาษีรายได้มีการอ้างอิงถึงรายได้ภาษีของรัฐบาลกลางด้วยการปรับเปลี่ยนที่เฉพาะเจาะจง รัฐไม่อนุญาตให้มีการหักภาษีสำหรับภาษีรายได้ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาลกลางหรือรัฐ นอกจากนี้รัฐส่วนใหญ่ปฏิเสธการได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับรายได้ดอกเบี้ยที่ได้รับยกเว้นภาษีในระดับชาติ. รัฐส่วนใหญ่ บริษัท ที่เสียภาษีในประเทศและต่างประเทศในรายได้ภาษีที่ได้มาจากกิจกรรมทางธุรกิจจัดสรรให้กับรัฐในแต่ละสูตร หลายรัฐใช้ "โยนกลับ" แนวคิดในการเก็บภาษีจาก บริษัท ในประเทศเกี่ยวกับรายได้ไม่เก็บภาษีจากรัฐอื่น ๆ สนธิสัญญาภาษีไม่สามารถใช้กับภาษีของรัฐ. ภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ได้รับอนุญาตจากภาษีรายได้ของผู้มีถิ่นที่อยู่ของรัฐอื่นเว้นแต่การเชื่อมต่อกับเข้าถึงสภาวะเดินทางโดยรถแท็กซี่ในระดับหนึ่งที่ (เรียกว่า "การเชื่อมต่อ"). [13] รัฐส่วนใหญ่ทำ ไม่เก็บภาษีรายได้ที่มิใช่การดำเนินธุรกิจของ บริษัท ออกจากรัฐ เนื่องจากภาษีที่ต้องได้รับการจัดสรรอย่างเป็นธรรมรัฐและท้องถิ่นคำนวณรายได้จากองค์กรของรัฐ (รวมทั้งผู้ที่อยู่ในต่างประเทศ) ที่ต้องเสียภาษีในรัฐโดยการใช้สูตรการแบ่งปันกับธุรกิจรวมรายได้ภาษีของ บริษัท หลายรัฐใช้สูตรขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของทรัพย์สินเงินเดือนและการขายที่อยู่ในรัฐที่จะรายการที่อยู่นอกรัฐ