The general perception is that the

The general perception is that the electron double-slit experiment has already been
performed. This is true in the sense that J¨onsson demonstrated diffraction from single, double,
and multiple (up to five) micro-slits [2], but he could not observe single particle diffraction,
nor close individual slits. In two separate landmark experiments, individual electron detection
was used to produce interference patterns; however, biprisms were used instead of doubleslits
[3, 4]. First, Pozzi recorded the interference patterns at varying electron beam densities.
Then, Tonomura recorded the positions of individual electron detection events and used them
to produce the well known build-up of an interference pattern. It is interesting to point out that
the build up of a double-slit diffraction pattern has been called ‘The most beautiful experiment
in physics’ [5, 6], while the build-up for a true double-slit has, up to now, never been reported.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การรับรู้ทั่วไปเป็นที่ทดลองสลิตคู่อิเล็กตรอนแล้วได้การดำเนินการ นี้เป็นจริงในแง่ที่ว่า J¨onsson แสดงให้เห็นกระจายจากเดี่ยว คู่และ (5) ไมโครสลิต [2] ที่หลาย แต่เขาอาจสังเกตการกระจายอนุภาคเดี่ยวหรือปิดแต่ละสลิต ในแลนด์มาร์คแยกทดลอง การตรวจจับอิเล็กตรอนแต่ละตัวใช้ในการผลิตรบกวนรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ใช้ biprisms แทน doubleslits[3, 4] ครั้งแรก Pozzi บันทึกรูปแบบการรบกวนที่แตกต่างกันความหนาแน่นของลำแสงอิเล็กตรอนแล้ว Tonomura บันทึกตำแหน่งของอิเล็กตรอนแต่ละกิจกรรมการตรวจสอบ และใช้งานในการผลิตเกิดรู้จักกันดีของรูปแบบการรบกวน เป็นที่น่าสนใจชี้ให้เห็นว่าสร้างค่าของรูปแบบการเลี้ยวเบนของสลิตคู่ที่มีการเรียก ' ทดลองสวยฟิสิกส์ของ [5, 6], ขณะเกิดสำหรับร่องคู่แท้จริงได้ ถึงตอนนี้ ไม่เคยรับรายงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การรับรู้ทั่วไปคืออิเล็กตรอนทดลองดับเบิลร่องได้รับการ
ดำเนินการ นี่คือความจริงในความรู้สึกที่แสดงให้เห็นถึงจอนส์จากเลนส์เดี่ยว
และหลาย ๆ (ถึงห้า) ไมโครกรีด [2] แต่เขาไม่สามารถสังเกตการเลี้ยวเบนของอนุภาคเดี่ยว
มิได้กรีดบุคคลใกล้ชิด ในสองการทดลองสถานที่สำคัญที่แยกจากการตรวจสอบของแต่ละบุคคลอิเล็กตรอน
ถูกนำมาใช้ในการผลิตรูปแบบการรบกวน; แต่ biprisms ถูกนำมาใช้แทนการ doubleslits
[3, 4] แรก Pozzi บันทึกรูปแบบการรบกวนที่แตกต่างกันมีความหนาแน่นลำแสงอิเล็กตรอน.
จากนั้น Tonomura บันทึกตำแหน่งของเหตุการณ์การตรวจสอบอิเล็กตรอนแต่ละบุคคลและใช้พวกเขา
ในการผลิตที่รู้จักกันดีสร้างขึ้นจากรูปแบบการรบกวน เป็นที่น่าสนใจที่จะชี้ให้เห็นว่า
การสร้างขึ้นของรูปแบบการเลี้ยวเบนดับเบิลร่องได้รับการเรียกว่า 'การทดลองที่สวยที่สุด
ในฟิสิกส์' [5, 6] ในขณะที่สร้างขึ้นสำหรับความจริงสองครั้งที่กรีดได้ถึงตอนนี้ ไม่เคยได้รับรายงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การรับรู้ทั่วไปคือว่าอิเล็กตรอนคู่ทดลองกรีด แล้วแสดง นี่เป็นความจริงในความรู้สึกว่า เจ ตั้ง onsson แสดงการเลี้ยวเบนจากเดี่ยว , คู่และหลาย ๆ ( ถึงห้า ) ไมโครช่อง [ 2 ] แต่เขาอาจไม่ได้สังเกตอนุภาคเดี่ยวเลี้ยวเบนของแสงหรือปิดช่องของแต่ละบุคคล ในทั้งสองการทดลองตรวจจับอิเล็กตรอนแต่ละสถานที่แยกต่างหากใช้ผลิตลวดลายการแทรกสอด อย่างไรก็ตาม biprisms ถูกใช้แทน doubleslits[ 3 , 4 ] แรก pozzi บันทึกรูปแบบการรบกวนที่แตกต่างกันเมื่อลำแสงอิเล็กตรอนแล้วโทโนมูระบันทึกตำแหน่งของอิเล็กตรอนของแต่ละบุคคลและเหตุการณ์การใช้พวกเขาผลิต ที่รู้จักกันดี สร้างรูปแบบการแทรกแซง . มันน่าสนใจที่จะชี้ให้เห็นว่าสร้างขึ้นจากคู่กรีดเรไรถูกเรียกว่า " การทดลองที่สวยงามที่สุดในฟิสิกส์ " [ 5 , 6 ] , ในขณะที่สร้างขึ้นสำหรับจริงคู่เชือดได้ จนถึงตอนนี้ ไม่เคยมีรายงานมาก่อน