Many of the properties of cereal st

Many of the properties of cereal starches that determine their
suitability for particular end-uses are dependent upon their amylose/
amylopectin ratios. These properties include gelatinisation and
gelation characteristics, solubility, the formation of resistant starch,
and, for rice, the cooking and textural characteristics of whole
grains.1-5 Thus, the measurement of the amylose content of starches
is an important quality parameter for starch processing.
Amylose is most commonly determined in cereal starches by the
potentiometric, amperometric or colourimetric measurement of the
iodine binding capacity of the amylose with the resultant formation of
amylose-iodine inclusion complexes.6-10 However, these methods are
subject to uncertainties. Amylopectin-iodine complexes also form,
and these reduce the concentration of free iodine measured by the
non-colourimetric methods and may absorb at similar wavelengths
to amylose-iodine complexes in colourimetric methods. These
complexes lead to an over-estimation of the amylose, requiring
corrections to be applied. Many of the other problems experienced
in the use of these methods are detailed by Gibson et al.
11
The specific formation of amylopectin complexes with the lectin
concanavalin A (Con A) offers an alternative approach to amylose
measurement in starches that is not subject to these uncertainties.12,13
Under defined conditions of pH, temperature and ionic strength,
Con A specifically complexes branched polysaccharides based on
α-D-glucopyranosyl or α-D-mannopyranosyl units at multiple nonreducing
end-groups with the formation of a precipitate. Thus, Con
A effectively complexes the amylopectin component of starch but not
the primarily linear amylose component.
The procedure described in this booklet13 is a modification of a
Con A method developed by Yun and Matheson (1990).13 It uses
an ethanol pre-treatment step to remove lipids prior to analysis

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลายคุณสมบัติของแป้งธัญพืชของพวกเขาที่เป็นตัวกำหนดความเหมาะสมสำหรับการสิ้นสุดการใช้-โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะขึ้นอยู่กับอะไมโลส / ของพวกเขาอัตราส่วนamylopectin คุณสมบัติเหล่านี้รวมถึง gelatinisation และลักษณะเจลละลายการก่อตัวของแป้งทน, และสำหรับข้าวปรุงอาหารและลักษณะเนื้อสัมผัสของทั้งgrains.1-5 ดังนั้นการวัดปริมาณอะไมโลสตาร์ชที่เป็นตัวแปรที่มีคุณภาพที่สำคัญสำหรับแป้งการประมวลผล. อมิโลสมีความมุ่งมั่นมากที่สุดในแป้งธัญพืชโดยpotentiometric, amperometric หรือวัด colourimetric ของไอโอดีนกำลังการผลิตที่มีผลผูกพันของอะไมโลสที่มีการก่อตัวของผลรวมอะไมโลสไอโอดีน complexes.6-10 อย่างไรก็ตามวิธีการเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน คอมเพล็กซ์ amylopectin ไอโอดีนยังรูปแบบและสิ่งเหล่านี้ลดความเข้มข้นของไอโอดีนฟรีที่วัดโดยที่วิธีการที่ไม่ใช่colourimetric และอาจดูดซับในช่วงความยาวคลื่นที่คล้ายกันคอมเพล็กซ์อะไมโลสไอโอดีนในวิธีการcolourimetric เหล่านี้คอมเพล็กซ์นำไปสู่การมากกว่าประมาณอะไมโลสที่ต้องแก้ไขจะนำมาใช้ หลายปัญหาอื่น ๆ ที่มีประสบการณ์ในการใช้วิธีการเหล่านี้มีรายละเอียดโดยกิบสันet al. 11 การก่อตัวที่เฉพาะเจาะจงของคอมเพล็กซ์ amylopectin กับเลคตินconcanavalin A (Con A) มีวิธีการเลือกที่จะอะไมโลสวัดในแป้งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การเหล่านี้uncertainties.12,13 ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดค่า pH, อุณหภูมิและความแข็งแรงของอิออนคอนpolysaccharides เฉพาะคอมเพล็กซ์แยกบนพื้นฐานของα-D-glucopyranosyl หรือหน่วยงานα-D-mannopyranosyl ที่หลาย nonreducing ท้ายกลุ่มที่มีการก่อตัวของตะกอน ดังนั้นคอนได้อย่างมีประสิทธิภาพคอมเพล็กซ์องค์ประกอบ amylopectin ของแป้ง แต่ไม่องค์ประกอบเชิงเส้นหลักอะไมโลส. ขั้นตอนที่อธิบายไว้ใน booklet13 นี้คือการเปลี่ยนแปลงของการเป็นนักโทษวิธีการที่พัฒนาโดยยุนและแมธ (1990) 0.13 จะใช้เอทานอลการรักษาก่อนขั้นตอนที่จะเอาไขมันก่อนที่จะมีการวิเคราะห์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายคุณสมบัติของแป้งธัญพืชที่ตรวจสอบความเหมาะสมของตนเอง
ใช้จะขึ้นอยู่กับพวกเขา สิ้นสุดเฉพาะโลส /
มหาภัยต่อ คุณสมบัติเหล่านี้รวมถึง gelatinisation และ
ลักษณะเจลาตินละลาย , การก่อตัวของป้องกันแป้ง
และ ข้าว อาหาร และลักษณะเนื้อสัมผัสของทั้งหมด
grains.1-5 ปานการวัดผลของปริมาณอะไมโลส starches
เป็นพารามิเตอร์คุณภาพที่สำคัญสำหรับการประมวลผลแป้ง
โลสมักกำหนดในธัญพืชแป้งโดยวิธีสำคัญ colourimetric
,
หรือการวัดความจุของปริมาณไอโอดีน ผูกพันกับการก่อตัวของปริมาณไอโอดีนซึ่ง
รวม complexes.6-10 อย่างไรก็ตามวิธีการเหล่านี้
ภายใต้ความไม่แน่นอน .อะไมโลเพคตินสารเชิงซ้อนยังฟอร์ม
และเหล่านี้ช่วยลดความเข้มข้นของไอโอดีนฟรีวัดโดย
ไม่ colourimetric วิธีการและอาจดูดซับความยาวคลื่นที่คล้ายคลึงกับสารประกอบไอโอดีน
โลสในวิธีการ colourimetric . คอมเพล็กซ์เหล่านี้
นำไปสู่ผ่านการประเมินปริมาณที่ต้องการ
กรมราชทัณฑ์จะใช้ . หลายปัญหาอื่น ๆที่มีประสบการณ์
ในการใช้วิธีการเหล่านี้มีรายละเอียดโดย Gibson et al .
9
รูปแบบเฉพาะของอะไมโลเพคตินเชิงซ้อนกับเลคติน
ถูก ( Con A ) มีวิธีการวัดโลส
แป้งที่ไม่อยู่ภายใต้ความไม่แน่นอนเหล่านี้ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ 12 , 13 ‘
ของพีเอช อุณหภูมิ และความแรงของไอออน
โกงโดยเฉพาะกิ่งตาม
ไรด์เชิงซ้อนแอลฟา d-glucopyranosyl หรือแอลฟา d-mannopyranosyl หลายหน่วยที่ nonreducing
สิ้นสุดกลุ่มที่มีการสะสมของตะกอน ดังนั้น , ด้วยการได้อย่างมีประสิทธิภาพส่วนประกอบของแป้งเชิงซ้อนและอะไมโลเพคติน แต่ไม่ใช่ส่วนประกอบหลัก

อาจเป็นเส้นตรง ขั้นตอนที่อธิบายไว้ใน booklet13 นี่คือการปรับเปลี่ยนของ
con วิธีการพัฒนาโดย ยุน และ แมทธีสัน ( 1990 ) มันใช้
เป็นเอทานอลและขั้นตอนที่จะเอาไขมันก่อนการวิเคราะห์