SpywareSpyware is software that aid

Spyware
Spyware is software that aids in gathering information about a person or organization without their knowledge and that may send such information to another entity without the consumer's consent, or that asserts control over a computer without the consumer's knowledge.[1]
"Spyware" is mostly classified into four types: system monitors, trojans, adware, and tracking cookies.[2] Spyware is mostly used for the purposes such as; tracking and storing internet users' movements on the web; serving up pop-up ads to internet users.
Whenever spyware is used for malicious purposes, its presence is typically hidden from the user and can be difficult to detect. Some spyware, such as keyloggers, may be installed by the owner of a shared, corporate, or public computer intentionally in order to monitor users.
While the term spyware suggests software that monitors a user's computing, the functions of spyware can extend beyond simple monitoring. Spyware can collect almost any type of data, including personal information like Internet surfing habits, user logins, and bank or credit account information. Spyware can also interfere with user control of a computer by installing additional software or redirecting Web browsers. Some spyware can change computer settings, which can result in slow Internet connection speeds, un-authorized changes in browser settings, or changes to software settings.
Sometimes, spyware is included along with genuine software, and may come from a malicious website. In response to the emergence of spyware, a small industry has sprung up dealing in anti-spyware software. Running anti-spyware software has become a widely recognized element of computer security practices for computers, especially those running Microsoft Windows. A number of jurisdictions have passed anti-spyware laws, which usually target any software that is surreptitiously installed to control a user's computer.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สปายแวร์
สปายแวร์เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือองค์กรที่ไม่มีความรู้ของพวกเขาและที่อาจส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังหน่วยงานอื่นโดยปราศจากความยินยอมของผู้บริโภคหรือที่อ้างควบคุมคอมพิวเตอร์โดยปราศจากความรู้ของผู้บริโภค. [1]
"สปายแวร์ "ส่วนใหญ่จัดเป็นสี่ประเภทจอภาพระบบโทรจันแอดแวร์และการติดตามคุกกี้[2] สปายแวร์ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อวัตถุประสงค์เช่นนั้นการติดตามการจัดเก็บและการเคลื่อนไหวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนเว็บนั้นให้บริการขึ้นโฆษณาป๊อปอัพให้กับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
เมื่อใดก็ตามที่สปายแวร์ที่ใช้สำหรับวัตถุประสงค์ที่เป็นอันตรายแสดงตนมักจะถูกซ่อนจากผู้ใช้และอาจเป็นเรื่องยากในการตรวจสอบ สปายแวร์บางอย่างเช่น keyloggers, อาจจะติดตั้งโดยเจ้าของขององค์กรที่ใช้ร่วมกันหรือคอมพิวเตอร์สาธารณะโดยเจตนาเพื่อที่จะตรวจสอบผู้ใช้.
ในขณะที่สปายแวร์คำแนะนำซอฟต์แวร์ที่ตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ฟังก์ชั่นของสปายแวร์สามารถขยายเกินการตรวจสอบง่าย สปายแวร์ที่สามารถเก็บเกือบทุกประเภทใด ๆ ของข้อมูลรวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเช่นพฤติกรรมการท่องอินเทอร์เน็ตเข้าสู่ระบบของผู้ใช้และข้อมูลธนาคารหรือบัญชีบัตรเครดิตสปายแวร์ยังสามารถรบกวนการควบคุมผู้ใช้คอมพิวเตอร์โดยการติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมหรือเปลี่ยนเส้นทางเว็บเบราเซอร์ สปายแวร์บางตัวสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตช้าการเปลี่ยนแปลงยกเลิกการอนุญาตในการตั้งค่าเบราว์เซอร์หรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าซอฟต์แวร์.
บางครั้งสปายแวร์จะรวมพร้อมกับซอฟต์แวร์ของแท้และอาจมาจากเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายในการตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินของสปายแวร์, อุตสาหกรรมขนาดเล็กที่ได้ผุดขึ้นมาในการซื้อขายซอฟต์แวร์ป้องกันสปายแวร์ การใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันสปายแวร์ได้กลายเป็นองค์ประกอบที่ยอมรับอย่างกว้างขวางของการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์สำหรับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานของ Microsoft Windows จำนวนเขตอำนาจศาลได้ผ่านกฎหมายป้องกันสปายแวร์ซึ่งมักจะกำหนดเป้​​าหมายซอฟต์แวร์ใด ๆ ที่มีการติดตั้งอย่างซ่อนเร้นในการควบคุมคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สปายแวร์
สปายแวร์คือ ซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล หรือองค์กรไม่ มีความรู้และอาจส่งข้อมูลไปยังเอนทิตี้อื่นโดยความยินยอมของผู้บริโภค หรือที่ยืนยันควบคุมคอมพิวเตอร์โดยไม่รู้ตัวของผู้บริโภค[1]
"สปายแวร์" เป็นส่วนใหญ่แบ่งได้ 4 ประเภท: ระบบจอภาพ โทรจัน แอดแวร์ และการติดตามคุกกี้[2] สปายแวร์ส่วนใหญ่ใช้สำหรับวัตถุประสงค์เช่น ติดตาม และเก็บความเคลื่อนไหวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนเว็บ บริการค่าโฆษณาแบบผุดขึ้นกับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
เมื่อสปายแวร์จะใช้สำหรับวัตถุประสงค์ที่เป็นอันตราย สถานะของตนมักจะถูกซ่อนจากผู้ใช้ และสามารถยากที่จะตรวจสอบ บางสปายแวร์ keyloggers เช่นอาจติดตั้ง โดยเจ้าของร่วม องค์กร หรือคอมพิวเตอร์สาธารณะโดยเจตนาเพื่อให้ผู้ใช้ได้
ขณะระยะสปายแวร์แนะนำซอฟต์แวร์ที่ตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ หน้าที่ของสปายแวร์สามารถขยายเกินตรวจสอบง่ายขึ้น สปายแวร์สามารถเก็บรวบรวมข้อมูล รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลเช่นอินเทอร์เน็ตท่องนิสัย ล็อกอินของผู้ใช้ และข้อมูลบัญชีสินเชื่อหรือธนาคารเกือบทุกชนิด สปายแวร์ยังอาจรบกวนตัวควบคุมผู้ใช้ของคอมพิวเตอร์ โดยการติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม หรือเปลี่ยนทิศทางเว็บเบราว์เซอร์ สปายแวร์บางสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถทำให้ Internet ช้าเชื่อมต่อความ เร็ว การเปลี่ยนแปลงในการตั้งค่าเบราว์เซอร์ ไม่ได้รับอนุญาต หรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าซอฟต์แวร์ได้
บาง สปายแวร์มาพร้อมกับซอฟต์แวร์แท้ และอาจมาจากเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายได้ ในการตอบสนองที่เกิดขึ้นของสปายแวร์ อุตสาหกรรมขนาดเล็กมีผุดขึ้นจัดการซอฟต์แวร์ป้องกันสปายแวร์ เรียกใช้โปรแกรมป้องกันสปายแวร์ได้กลายเป็น องค์ประกอบอย่างกว้างของปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์สำหรับคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เรียกใช้ Microsoft Windows จำนวนเขตพื้นที่ที่ดูแลได้ผ่านกฎหมายต่อต้านสปายแวร์ ซึ่งโดยปกติเป้าหมายซอฟต์แวร์ใด ๆ ที่ได้ติดตั้ง surreptitiously เพื่อควบคุมคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สปายแวร์
สปายแวร์คือซอฟท์แวร์ที่โรคเอดส์ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือองค์กรโดยไม่ต้องได้ความรู้และอาจส่งข้อมูลไปยังเครื่องอื่นบุคคลโดยไม่ให้ ผู้บริโภค ได้รับความยินยอมของ,หรือที่รับรองการควบคุมมากกว่าที่คอมพิวเตอร์โดยไม่ให้ ผู้บริโภค ของความรู้.[ 1 ],
"สปายแวร์"นั้นส่วนใหญ่จะเป็นแบ่งออกเป็นสี่ ประเภท :ระบบจอมอนิเตอร์,โทรจัน,แอดแวร์,และการติดตามการใช้งานคุกกี้.[ 2 ]สปายแวร์คือใช้สำหรับการใช้งานได้เช่นการตรวจสอบการจัดเก็บและการเคลื่อนไหวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนเว็บที่จัดให้บริการได้โฆษณาที่แสดงขึ้นเพื่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นส่วนมาก
ทุกครั้งเมื่อสปายแวร์คือใช้สำหรับการใช้งานที่เป็นอันตรายการมีอยู่ของมันถูกซ่อนอยู่จากการที่ผู้ใช้โดยปกติแล้วจะสามารถเป็นไปได้ยากที่จะตรวจพบ สปายแวร์บางรายการเช่น keyloggers อาจได้รับการติดตั้งโดยเจ้าของของบริษัทที่ใช้ร่วมกันหรือคอมพิวเตอร์สาธารณะโดยเจตนาในการสั่งซื้อในการตรวจสอบผู้ใช้.
ในขณะที่สปายแวร์ระยะสั้นแนะนำให้ซอฟท์แวร์ที่ติดตามตรวจสอบการใช้งานคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่หน้าที่ของสปายแวร์จะสามารถขยายเกินกว่าการตรวจสอบแบบเรียบง่าย สปายแวร์สามารถเก็บข้อมูลเกือบทุก ประเภท ของข้อมูลรวมถึงข้อมูลส่วนตัวเช่นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตการท่องโลกอินเทอร์เน็ตการล็อกอินเข้าสู่ระบบการศึกษานิสัยผู้ใช้และข้อมูลบัญชีบัตรเครดิตธนาคารหรือสปายแวร์จะสามารถเข้าไปแทรกแซงพร้อมด้วยการควบคุมของผู้ใช้ในคอมพิวเตอร์ที่โดยการติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมหรือเปลี่ยนทิศทางเบราเซอร์ผ่านเว็บ สปายแวร์บางรายการสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าของคอมพิวเตอร์ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตช้าการเปลี่ยนแปลงไม่ได้รับอนุญาตในการตั้งค่าเบราเซอร์หรือการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าซอฟต์แวร์.
บางครั้งสปายแวร์จะรวมอยู่พร้อมด้วยซอฟท์แวร์ของแท้และอาจได้มาจากเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายในการตอบกลับในการขึ้นมาของสปายแวร์ในอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่มีขึ้นมาการจัดการในซอฟต์แวร์ป้องกันสปายแวร์ ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันสปายแวร์กลายเป็นส่วนที่การยอมรับของการปฏิบัติการด้านการรักษาความ ปลอดภัย คอมพิวเตอร์สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Microsoft Windows จำนวนของเขตอำนาจศาลได้ผ่านกฎหมายต่อต้านการ - สปายแวร์ซึ่งโดยปกติแล้วเป้าหมายซอฟต์แวร์ใดๆที่ได้รับการติดตั้งในการควบคุมคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ที่.

ปกปิด