1. IntroductionOver the last few de

1. Introduction
Over the last few decades, the global warming that has resulted
from the increase in greenhouse gas emissions and the simultaneous
depletion of fossil fuels has necessitate the research of
alternative and clean energy sources. Among the available renewable
fuels, interest in bioethanol has been increasing. The increase
in global bioethanol production between 2000 and 2013 is shown
in Fig. In 2011, bioethanol production reached 3.5 Mm.
The production of biofuels, such as bioethanol, usually involves
starches and simple sugars derived from sources such as sugar cane
and corn. The fermentation of these substrates is highly efficient,
but at the same time it is expensive and non-sustainable because of
the concurrent use of these substrates as essential components of
the food feed chain.
Agro-food residues are the main substrates used as an alternative
for bioethanol production. In the USA and in Brazil, over 87% of
bioethanol is obtained from maize and sugar cane feedstocks,
respectively [4], whereas in China, rice straw is the major substrate
used for ethanol production [5]. These substrates contain high
contents of lignin and cellulose, which show great potential for
ethanol production . Cellulose is a biopolymer that consists of
thousands of glucose units, whereas lignin is a polymer that displays
high molecular weight, insolubility, and chains of complex
carbohydrates . Many studies have focused on using cellulose
and lignin hydrolysates to obtain biofuels, and in particular bioethanol
. The monomers of the glucose contained in the lignin
and cellulose structures can be converted into glycerol through
anaerobic fermentation. Park et al. studied the optimal
concentration of glucose and performed tests with Saccharomyces
cerevisiae batch fermenting glucose contents ranging from 30 to
120 g/L. The optimal glucose concentration for ethanol production
was found to be in the 40e70 g/L range, which corresponds to an
ethanol concentration of 6.9% v/v and an ethanol yield of 88.3%.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทนำช่วงไม่กี่ทศวรรษ ภาวะโลกร้อนที่มีผลจากการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกและการการลดลงของเชื้อเพลิงฟอสซิลมีช่างการวิจัยของแหล่งพลังงานทดแทน และสะอาด ในการใช้ทดแทนเชื้อเพลิง สนใจใน bioethanol ได้เพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นในโลก bioethanol แสดงผลิตระหว่าง 2000 และ 2556ในรูปนี้ ใน 2011 ผลิต bioethanol ถึง 3.5 มม.การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เช่น bioethanol มักจะเกี่ยวข้องกับการแป้งและน้ำตาลอย่างง่ายได้มาจากแหล่งเช่นอ้อยและข้าวโพด การหมักของพื้นผิวเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพสูงแต่ในเวลาเดียวกัน ก็มีราคาแพง และไม่ใช่อย่างยั่งยืนเนื่องจากการใช้งานของวัสดุเหล่านี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอาหารเลี้ยงลูกโซ่เกษตร-อาหารตกค้างเป็นวัสดุหลักที่ใช้เป็นทางเลือกสำหรับผลิต bioethanol ในสหรัฐอเมริกา และ บราซิล กว่า 87% ของได้มาจากข้าวโพดและอ้อยวมวล bioethanolตามลำดับ [4], ในขณะที่ในประเทศจีน ฟางข้าวเป็นพื้นหลักใช้ในการผลิตเอทานอล [5] พื้นผิวเหล่านี้ประกอบด้วยสูงเนื้อหาของลิกนินและเซลลูโลส ซึ่งแสดงศักยภาพที่ดีสำหรับการผลิตเอทานอล เซลลูโลสเป็นเมอร์ที่ประกอบด้วยของหน่วยกลูโคส ในขณะที่ลิกนิเป็นพอลิเมอร์ที่แสดงน้ำหนักโมเลกุลสูง insolubility และโซ่ของคอมเพล็กซ์คาร์โบไฮเดรต หลายการศึกษาเน้นที่การใช้เซลลูโลสและลิกนิ hydrolysates รับเชื้อเพลิงชีวภาพ และเฉพาะ bioethanol. อสามารถของกลูโคสที่มีอยู่ในลิกนิและสามารถแปลงโครงสร้างของเซลลูโลสเป็นกลีเซอรอลผ่านการหมักที่ไม่ใช้ออกซิเจน สวนร้อยเอ็ดศึกษาที่เหมาะสมความเข้มข้นของกลูโคสและดำเนินการทดสอบกับ Saccharomycescerevisiae ชุดหมักกลูโคสเนื้อหาตั้งแต่ 30120 กรัม/ลิตร ความเข้มข้นของกลูโคสที่ดีที่สุดสำหรับการผลิตเอทานอลพบว่าอยู่ในช่วงบัญชี 40e70 ซึ่งสอดคล้องกับการเอทานอลความเข้มข้นของ 6.9% v/v และมีผลผลิตเอทานอล 88.3%

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. บทนำ
ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาภาวะโลกร้อนที่มีผล
มาจากการเพิ่มขึ้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและพร้อมกัน
พร่องของเชื้อเพลิงฟอสซิลมีเลี่ยงการวิจัยของ
แหล่งพลังงานทางเลือกและสะอาด ท่ามกลางทดแทนใช้ได้
เชื้อเพลิงเอทานอลความสนใจในการได้รับการเพิ่ม ที่เพิ่มขึ้น
ในการผลิตเอทานอลทั่วโลกระหว่างปี 2000 และ 2013 แสดงให้เห็น
ในรูป ในปี 2011 การผลิตเอทานอลถึงขนาด 3.5 มม.
การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเช่นเอทานอล, มักจะเกี่ยวข้องกับ
แป้งและน้ำตาลอย่างง่ายได้มาจากแหล่งต่าง ๆ เช่นอ้อย
และข้าวโพด การหมักของพื้นผิวเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพสูง
แต่ในเวลาเดียวกันก็มีราคาแพงและไม่ยั่งยืนเพราะ
การใช้งานพร้อมกันของพื้นผิวเหล่านี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของ
ห่วงโซ่อาหารสัตว์อาหาร.
ตกค้างเกษตรอาหารที่มีพื้นผิวหลักที่ใช้เป็นทางเลือก
สำหรับการผลิตเอทานอล ในประเทศสหรัฐอเมริกาและในบราซิลมากกว่า 87% ของ
เอทานอลจะได้รับจากข้าวโพดและอ้อยวัตถุดิบ,
ตามลำดับ [4] ในขณะที่ในประเทศจีนฟางข้าวเป็นสารตั้งต้นหลัก
ใช้สำหรับการผลิตเอทานอล [5] พื้นผิวเหล่านี้มีสูง
เนื้อหาของลิกนินเซลลูโลสซึ่งจะแสดงศักยภาพที่ดีสำหรับ
การผลิตเอทานอล เซลลูโลสเป็นโพลิเมอร์ชีวภาพที่ประกอบด้วย
หลายพันหน่วยกลูโคสในขณะที่ลิกนินเป็นพอลิเมอที่แสดง
น้ำหนักโมเลกุลสูง, แก้ไม่ตกและโซ่ที่ซับซ้อน
คาร์โบไฮเดรต การศึกษาหลายแห่งได้มุ่งเน้นเกี่ยวกับการใช้เซลลูโลสและลิกนินไฮโดรไลเซจะได้รับเชื้อเพลิงชีวภาพและเอทานอลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โมโนเมอร์ของน้ำตาลกลูโคสที่มีอยู่ในลิกนินเซลลูโลสและโครงสร้างสามารถแปลงเป็นกลีเซอรอลผ่านการหมักแบบไม่ใช้ออกซิเจน พาร์ค, et al การศึกษาที่ดีที่สุดความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคสและทำการทดสอบกับ Saccharomyces cerevisiae ชุดหมักกลูโคสเนื้อหาตั้งแต่ 30 ที่จะ120 กรัม / ลิตร ความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคสที่ดีที่สุดสำหรับการผลิตเอทานอลก็จะพบว่าใน 40e70 กรัม / ลิตรช่วงซึ่งสอดคล้องกับความเข้มข้นของเอทานอล 6.9% v / V และอัตราผลตอบแทนของเอทานอล 88.3%