วิกฤตเศรษฐกิจยุโรปเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นในยุโรป เมื่อ พ.ศ. 2552โดยมีประเทศกรีซเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤต ในครั้งนี้ และสาเหตุสำคัญมาจากประเทศมีการก่อหนี้สาธารณะในสัดส่วนที่สูง มีอัตราหนี้สินต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (Gross Debt to GDP Ratio) ประมาณกว่า 100% ใน พ.ศ. 2552 อันเป็นผลมาจากการกู้ยืมเพื่อชดเชยงบประมาณขาดดุลของรัฐบาล โดยจุดเริ่มต้นของวิกฤตได้ก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่การปฏิรูประบบเศรษฐกิจใน พ.ศ. 2545 และกรีซประกาศยกเลิกการใช้เงินสกุลดั้งเดิมหันไปใช้เงินสกุลยูโรของกลุ่มสหภาพยุโรปแทน ส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของประเทศดีขึ้นสามารถกู้ยืมเงินได้อย่างสะดวกสบาย ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจึงมีการกู้ยืมเงินจำนวนมากเพื่อมาใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ ปัญหาหนี้สาธารณะสูงยังก่อตัวขึ้นในหลายประเทศของยูโรโซน อาทิ ไอร์แลนด์ และอิตาลี เป็นต้น จากการติดต่อระหว่างกันในระบบการเงินโลกนั้น การที่ประเทศหนึ่งผิดนัดชำระหนี้สาธารณะหรือเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ย่อมทำให้หนี้เอกชนภายนอกบางส่วนอยู่ในความเสี่ยงของ รวมทั้งระบบสถาบันการเงินของประเทศเจ้าหนี้ก็เผชิญความสูญเสีย ผลกระทบจึงส่งผ่านกันไปเป็นวงกว้าง ประเทศในยุโรปที่มีปัญหาของการขาดดุลงบประมาณและมีหนี้สาธารณะสูง ความไม่เชื่อมั่นในมาตรการกู้วิกฤตกรีซเริ่มสะท้อนให้เห็นเมื่อตลาดหุ้นในภูมิภาคต่างๆไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา และเอเชีย ต่างตกต่ำลง เนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นและเทขายหุ้นออกมา นอกจากนี้ตราสารทางการเงินที่ออกโดยประเทศต่างๆในยุโรปก็ถูกลดความน่าเชื่อถือลง ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งของรัฐบาลกรีซ ทำให้การระดมเงินในอนาคตมีความยากลำบากมากขึ้น รวมทั้งมีต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากยุโรปและค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงผลของวิกฤตในครั้งนี้นำไปสู่ปัญหาสภาพคล่องและการว่างงาน กำลังซื้อลดลงและเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ผลกระทบที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้เศรษฐกิจในยุโรปและภูมิภาคอื่นๆตกต่ำลงอย่างชัดเจน