This is the major drivingforce for

This is the major driving
force for applying HPP on fruit products specifically due to their high nutritional
benefit. HPP treatment also has the potential for sterilization of
food products if applied at elevated temperatures (60 to 90 °C) along
with the temperature increase due to adiabatic compression. By
choosing the appropriate process conditions, it is possible to completely
inactivate both vegetative cells as well as microbial spores in order to
obtain food products that are shelf-stable (Black et al., 2007; Matser,
Krebbers, van den Berg, & Bartels, 2004).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี่คือหลักการขับขี่แรงสำหรับการใช้ HPP ผลิตภัณฑ์ผลไม้เนื่องจากความสูงโดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการประโยชน์ของการ HPP รักษายังมีศักยภาพในการฆ่าเชื้อโรคผลิตภัณฑ์อาหารถ้าใช้ตามที่อุณหภูมิ (60-90 ° C)ด้วยการเพิ่มอุณหภูมิเนื่องจากอัดการอะเดียแบติก โดยเลือกเงื่อนไขกระบวนการที่เหมาะสม มันเป็นไปอย่างสมบูรณ์ยกทั้งเซลล์ผักเรื้อรังตลอดจนเพาะเฟิร์นจุลินทรีย์เพื่อรับผลิตภัณฑ์อาหารที่คอกชั้น (สีดำและ al., 2007 MatserKrebbers แวนเดนเบิร์กลักซ์เชอรี่ และ Bartels, 2004)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นี่คือการผลักดันที่สำคัญ
สำหรับการใช้แรง HPP เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ผลไม้โดยเฉพาะเนื่องจากทางโภชนาการสูงของพวกเขา
ได้รับประโยชน์ การรักษา HPP ยังมีศักยภาพในการฆ่าเชื้อของ
ผลิตภัณฑ์อาหารถ้าใช้ที่อุณหภูมิสูง (60 ถึง 90 ° C) พร้อม
กับการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเนื่องจากการบีบอัดอะเดียแบติก โดย
การเลือกเงื่อนไขกระบวนการที่เหมาะสมก็เป็นไปได้ที่จะสมบูรณ์
ยับยั้งเซลล์พืชทั้งสองเป็นสปอร์ของเชื้อจุลินทรีย์ในการที่จะ
ได้รับผลิตภัณฑ์อาหารที่มีการเก็บรักษาที่มีเสถียรภาพ (สีดำ, et al, 2007;. Matser,
Krebbers, แวนเดนเบิร์กและ Bartels , 2004)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นี่เป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการ
เอชพีผลิตภัณฑ์ผลไม้โดยเฉพาะเนื่องจากประโยชน์ทางโภชนาการ
ของพวกเขาสูง เอชพี การรักษาก็มีศักยภาพในการฆ่าเชื้อของ
ผลิตภัณฑ์อาหารถ้าใช้ที่อุณหภูมิสูง ( 60 ถึง 90 ° C ) ตาม
ด้วยอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากสำหรับการบีบอัด โดย
เลือกเงื่อนไขกระบวนการที่เหมาะสมก็เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์
ทำให้ทั้งเซลล์พืชรวมทั้งจุลินทรีย์สปอร์เพื่อ
ขอรับผลิตภัณฑ์อาหารที่ชั้นมั่นคง ( สีดำ et al . , 2007 ; matser krebbers
, , van den Berg , &บาร์เทิลส์ , 2004 )