AbstractIn this study, the toxiciti

Abstract
In this study, the toxicities of four pesticides (the herbicides atrazine, terbuthylazine, metolachlor and the insecticide chlorpyrifos) previously detected in the Alqueva reservoir/dam (south of Portugal) were evaluated individually and in binary combinations of the herbicides and the insecticide using fourth-instar larvae of the aquatic midge Chironomus riparius. Chlorpyrifos induced toxicity to midges in all the 48 h toxicity bioassays performed. The swimming behaviour of the larvae was impaired, with EC50 values ranging from 0.15 to 0.17 μg/L. However, neither s-triazine (atrazine and terbuthylazine) herbicides nor metolachlor alone at concentrations up to 200 μg/L caused significant toxicity to C. riparius. When combined with both s-triazine herbicides, chlorpyrifos toxicity was enhanced by approximately 2-fold when tested in a binary mixture experimental setup, at the 50% effective concentration levels. To evaluate how chlorpyrifos toxicity was being increased, the cholinesterases (ChE) were characterized biochemically using different substrates and selective inhibitors. The results obtained suggested that the main enzyme present in this species is acetylcholinesterase (AChE) and therefore it was assayed upon C. riparius exposures to all pesticides individually and as binary mixtures. Although atrazine and terbuthylazine are not effective inhibitors of AChE, the potentiation of chlorpyrifos toxicity by the two s-triazine herbicides was associated with a potentiation in the inhibition of AChE in midges; both s-triazine herbicides at 200 μg/L increased the inhibition of the AChE activity by 7 and 8-fold, respectively. A strong correlation was observed between swimming behaviour disturbances of larvae and the inhibition of the AChE activity. In contrast, metolachlor did not affect chlorpyrifos toxicity at any of the concentrations tested. Therefore, the herbicides atrazine and terbuthylazine can act as synergists in the presence of chlorpyrifos, increasing the toxicity and consequently underestimating risk based on single chemical levels.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อIn this study, the toxicities of four pesticides (the herbicides atrazine, terbuthylazine, metolachlor and the insecticide chlorpyrifos) previously detected in the Alqueva reservoir/dam (south of Portugal) were evaluated individually and in binary combinations of the herbicides and the insecticide using fourth-instar larvae of the aquatic midge Chironomus riparius. Chlorpyrifos induced toxicity to midges in all the 48 h toxicity bioassays performed. The swimming behaviour of the larvae was impaired, with EC50 values ranging from 0.15 to 0.17 μg/L. However, neither s-triazine (atrazine and terbuthylazine) herbicides nor metolachlor alone at concentrations up to 200 μg/L caused significant toxicity to C. riparius. When combined with both s-triazine herbicides, chlorpyrifos toxicity was enhanced by approximately 2-fold when tested in a binary mixture experimental setup, at the 50% effective concentration levels. To evaluate how chlorpyrifos toxicity was being increased, the cholinesterases (ChE) were characterized biochemically using different substrates and selective inhibitors. The results obtained suggested that the main enzyme present in this species is acetylcholinesterase (AChE) and therefore it was assayed upon C. riparius exposures to all pesticides individually and as binary mixtures. Although atrazine and terbuthylazine are not effective inhibitors of AChE, the potentiation of chlorpyrifos toxicity by the two s-triazine herbicides was associated with a potentiation in the inhibition of AChE in midges; both s-triazine herbicides at 200 μg/L increased the inhibition of the AChE activity by 7 and 8-fold, respectively. A strong correlation was observed between swimming behaviour disturbances of larvae and the inhibition of the AChE activity. In contrast, metolachlor did not affect chlorpyrifos toxicity at any of the concentrations tested. Therefore, the herbicides atrazine and terbuthylazine can act as synergists in the presence of chlorpyrifos, increasing the toxicity and consequently underestimating risk based on single chemical levels.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อในการศึกษานี้เป็นพิษในสี่ของสารกำจัดศัตรูพืช (คนอาทราซีนสารเคมีกำจัดวัชพืช terbuthylazine metolachlor และ chlorpyrifos ยาฆ่าแมลง) ตรวจพบก่อนหน้านี้ในอ่างเก็บน้ำ Alqueva / เขื่อน (ตอนใต้ของโปรตุเกส) ได้รับการประเมินรายบุคคลและในชุดไบนารีของสารเคมีกำจัดวัชพืชและยาฆ่าแมลงที่ใช้ ตัวอ่อนวัยที่สี่ของ Chironomus สัตว์เล็กสัตว์น้ำ riparius
Chlorpyrifos เหนี่ยวนำให้เกิดพิษต่อริ้นในทุก bioassays พิษ 48 ชั่วโมงดำเนินการ พฤติกรรมการว่ายน้ำของตัวอ่อนที่ถูกบกพร่องที่มีค่า EC50 ตั้งแต่ 0.15-0.17 ไมโครกรัม / ลิตร แต่ไม่ s-triazine (อะทราซีนและ terbuthylazine) สารเคมีกำจัดวัชพืชหรือ metolachlor อยู่คนเดียวที่มีความเข้มข้นถึง 200 ไมโครกรัม / ลิตรทำให้เกิดความเป็นพิษที่สำคัญในซี riparius เมื่อรวมกับทั้ง S-triazine สารเคมีกำจัดวัชพืชเป็นพิษ chlorpyrifos ได้เพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าเมื่อทดสอบในส่วนผสมไบนารีการติดตั้งการทดลองที่ 50% ระดับความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพ เพื่อประเมินความเป็นพิษวิธี chlorpyrifos ถูกเพิ่มขึ้น cholinesterases นี้ (เจ๊) มีลักษณะทางชีวเคมีโดยใช้พื้นผิวที่แตกต่างกันและยับยั้งการคัดเลือก ผลที่ได้ชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันเอนไซม์หลักในสายพันธุ์นี้เป็นสาร (เจ็บ) และดังนั้นจึงได้รับการวิเคราะห์ความเสี่ยงเมื่อซี riparius สารกำจัดศัตรูพืชทั้งหมดเป็นรายบุคคลและผสมไบนารี แม้ว่าอาทราซีนและ terbuthylazine ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจ็บที่ potentiation ของความเป็นพิษ chlorpyrifos โดยทั้งสอง S-triazine สารเคมีกำจัดวัชพืชที่เกี่ยวข้องกับ potentiation ในการยับยั้งการเจ็บในริ้น; ทั้ง s-triazine สารเคมีกำจัดวัชพืชที่ 200 ไมโครกรัม / ลิตรเพิ่มขึ้นของกิจกรรมการยับยั้งการเจ็บโดย 7 และ 8 เท่าตามลำดับ ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งเป็นที่สังเกตพฤติกรรมการรบกวนระหว่างว่ายน้ำของตัวอ่อนและการยับยั้งการกิจกรรมที่ปวด ในทางตรงกันข้าม metolachlor ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเป็นพิษ chlorpyrifos ที่ใด ๆ ของความเข้มข้นที่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอาทราซีนและสารเคมีกำจัดวัชพืช terbuthylazine สามารถทำหน้าที่เป็น synergists ในการปรากฏตัวของ chlorpyrifos เพิ่มความเป็นพิษและการประเมินความเสี่ยงจึงขึ้นอยู่กับระดับของสารเคมีเดียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
ในการศึกษานี้ ความเป็นพิษของสารเคมี ( สารกำจัดวัชพืชอาทราซีน 4 terbuthylazine เมโทลาคลอร์ , , และยาฆ่าแมลง chlorpyrifos ) ก่อนหน้านี้ตรวจพบในอ่างเก็บน้ำเขื่อน / ลคีวา ( ตอนใต้ของโปรตุเกส ) ประเมินเป็นรายบุคคลและในชุดไบนารีของสารกำจัดวัชพืชและยาฆ่าแมลงใช้สี่ของน้ำๆ หนอนแดง riparius .คลอร์ไพริฟอส เกิดความเป็นพิษกับเหลือบในทั้งหมด 48 ชั่วโมงพิษละเอียดในการปฏิบัติ ว่ายน้ำที่พฤติกรรมของหนอนคือความบกพร่องกับ ec50 ค่าตั้งแต่ 0.15 0.17 μกรัม / ลิตร อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะคือ ( สารกำจัดวัชพืชอาทราซีน และ terbuthylazine ) และเมโทลาคลอร์คนเดียวที่ความเข้มข้นไม่เกิน 200 μกรัม / ลิตร ทำให้ความเป็นพิษที่สำคัญกับ c riparius .เมื่อรวมกับทั้ง คือ สารกำจัดวัชพืช คลอร์ไพริฟอส พิษเพิ่มขึ้นโดยประมาณถึงเมื่อทดสอบในไบนารีผสมทดลองติดตั้งที่ระดับความเข้มข้น 50 % ที่มีประสิทธิภาพ . เพื่อประเมินว่า chlorpyrifos พิษถูกเพิ่มขึ้น เอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส ( CHE ) มีลักษณะ biochemically โดยใช้พื้นผิวแตกต่างกันและการเลือกผลที่ได้พบว่า เอนไซม์ชนิดนี้เป็นหลัก ปัจจุบันลาสิกขา ( ปวด ) และดังนั้นจึงถูก assayed เมื่อ C riparius ชมทั้งหมดเป็นรายบุคคลและเป็นยาฆ่าแมลงผสมไบนารี และถึงแม้ว่าอาทราซีน terbuthylazine ไม่มีประสิทธิภาพของการปวดส่วนของเอ็น - พิษจากสารคลอร์ไพริฟอส สองคือมีความสัมพันธ์กับเอ็น - ในการยับยั้งอาการปวดในเหลือบ ทั้งสองคือ สารกำจัดวัชพืชที่ 200 μกรัม / ลิตรเพิ่มการยับยั้งปวดกิจกรรมโดย 7 และ 8-fold ตามลำดับ ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมแปรปรวนพบว่ายน้ำของตัวอ่อนและการยับยั้งอาการปวดต่างๆในทางตรงกันข้าม , เมโทลาคลอร์ไม่มีผลต่อความเป็นพิษ chlorpyrifos ใด ๆปริมาณความเข้มข้นที่ทดสอบ ดังนั้น สารกำจัดวัชพืชอาทราซีน และ terbuthylazine เป็น synergists ต่อหน้าคลอร์ไพริฟอส เพิ่มความเป็นพิษและจากนั้นให้ประเมินความเสี่ยงตามระดับทางเดียว