Background: A study was undertaken

Background: A study was undertaken to determine the relation between urinary cadmium levels and lung
function in a nationally representative cohort of current, former, and never smokers in the US. Urinary
cadmium levels reflect the total body burden of cadmium.
Methods: The following data from the Third National Health and Nutrition Examination Survey were
analysed: urinary cadmium (adjusted for urinary creatinine), lung function, sex, race/ethnicity, age,
education level, job category, body mass index, serum cotinine level, and smoking history. Linear
regression models were developed to predict lung function using urinary cadmium as the main predictor,
adjusting for other covariates and stratified by smoking status.
Results: Data were available on 16 024 adults. Current smokers had higher mean (SE) urinary cadmium/
creatinine levels (0.46 (0.01) mg/g) than former (0.32 (0.01) mg/g) or never smokers (0.23 (0.01) mg/g).
Higher levels of urinary cadmium were associated with significantly lower forced expiratory volumes in
1 second (FEV1) in current (22.06%, 95% confidence interval (CI) –2.86 to 21.26 per 1 log increase in
urinary cadmium) and former smokers (21.95%, 95% CI –2.87 to 21.03) but not in never smokers
(20.18%, 95% CI –0.60 to 0.24). Similar results were obtained for forced vital capacity (FVC) and FEV1/
FVC.
Conclusions: Cadmium, which is known to cause emphysema in occupational settings, may also be
important in the development of tobacco related lung disease.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: การศึกษาได้ดำเนินการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างระดับแคดเมียมท่อปัสสาวะและปอดฟังก์ชันใน cohort พนักงานผลงานปัจจุบัน อดีต และไม่มีผู้สูบบุหรี่ในสหรัฐอเมริกา ท่อปัสสาวะระดับแคดเมียมสะท้อนภาระร่างกายทั้งหมดของแคดเมียมวิธีการ: ข้อมูลต่อไปนี้จากสามชาติสุขภาพและโภชนาการตรวจสอบสำรวจได้analysed: แคดเมียมท่อปัสสาวะ (ที่ปรับปรุงสำหรับท่อปัสสาวะ creatinine), ทำงานของปอด เพศ เชื้อชาติ/แข่งขัน อายุระดับการศึกษา ประเภทงาน ดัชนีมวลกาย เซรั่ม cotinine ระดับ และประวัติการสูบบุหรี่ เชิงเส้นแบบจำลองถดถอยถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทำนายการทำงานของปอดโดยใช้แคดเมียมท่อปัสสาวะจำนวนประตูหลักการปรับปรุงสำหรับ covariates อื่น ๆ และ stratified ตามสถานะการสูบบุหรี่ผล: ข้อมูลใช้ในผู้ใหญ่ 16 024 ผู้สูบบุหรี่ปัจจุบันมีราคาสูงเฉลี่ย (SE) แคดเมียมท่อปัสสาวะ /ระดับ creatinine (0.46 (0.01) mg/g) กว่าเดิม ((0.01) $ 0.32 mg/g) หรือผู้ไม่สูบบุหรี่ (0.23 (0.01) mg/g)ระดับสูงของแคดเมียมที่ท่อปัสสาวะถูกเชื่อมโยงกับไดรฟ์ข้อมูล expiratory บังคับต่ำใน1 วินาที (FEV1) ในปัจจุบัน (22.06% ช่วงความเชื่อมั่น 95% (CI) –2.86 กับ 21.26 ต่อล็อก 1 เพิ่มขึ้นแคดเมียมท่อปัสสาวะ) และอดีตผู้สูบบุหรี่ (21.95%, 95% CI –2.87 ถึง 21.03) แต่ไม่ใช่ ในผู้สูบบุหรี่ไม่(20.18%, 95% CI –0.60 ถึง 0.24) ผลคล้ายได้รับสำหรับบังคับชีพกำลัง (FVC) และ FEV1 /FVCบทสรุป: แคดเมียม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทำให้เกิดภาวะอวัยวะในการตั้งค่าอาชีพ อาจจะสำคัญในการพัฒนายาสูบเกี่ยวกับโรคปอด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง: การศึกษาได้ดำเนินการเพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างระดับแคดเมียมปัสสาวะและปอด
ฟังก์ชั่นในการศึกษาเป็นตัวแทนของชาติในปัจจุบันของอดีตและไม่เคยสูบบุหรี่ในสหรัฐอเมริกา ปัสสาวะ
ระดับแคดเมียมสะท้อนให้เห็นถึงภาระร่างกายรวมแคดเมียม.
วิธีการ: ข้อมูลต่อไปนี้จากสุขภาพแห่งชาติที่สามและสำรวจตรวจสอบโภชนาการได้รับการ
วิเคราะห์: แคดเมียมในปัสสาวะ (ปรับปัสสาวะ creatinine) การทำงานของปอด, เพศ, เชื้อชาติ / อายุ
ระดับการศึกษา ประเภทงานที่ดัชนีมวลกายระดับ cotinine ในซีรั่มและประวัติศาสตร์การสูบบุหรี่ เชิงเส้น
ถดถอยรุ่นได้รับการพัฒนาที่จะคาดการณ์การทำงานของปอดโดยใช้แคดเมียมปัสสาวะเป็นปัจจัยบ่งชี้หลัก
ปรับตัวแปรอื่น ๆ และแบ่งจากการสูบบุหรี่สถานะ.
ผลข้อมูลที่มีอยู่ในวันที่ 16 ผู้ใหญ่ 024 สูบบุหรี่ในปัจจุบันมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้น (SE) ปัสสาวะแคดเมียม /
ระดับ creatinine (0.46 (0.01) mg / g) กว่าอดีต (0.32 (0.01) mg / g) หรือไม่เคยสูบบุหรี่ (0.23 (0.01) mg / g).
ระดับที่สูงขึ้นของทางเดินปัสสาวะ แคดเมียมมีความสัมพันธ์กับปริมาณที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญหายใจบังคับใน
1 วินาที (FEV1) ในปัจจุบัน (22.06%, 95% confidence interval (CI) -2.86 ไป 21.26 ต่อ 1 เพิ่มขึ้นในการเข้าสู่ระบบ
ทางเดินปัสสาวะแคดเมียม) และสูบบุหรี่ในอดีต (21.95%, 95% CI เพื่อ -2.87 21.03) แต่ไม่ได้อยู่ในที่ไม่เคยสูบบุหรี่
(20.18%, 95% CI -0.60 0.24) ผลที่คล้ายกันที่ได้รับความสำคัญสำหรับความจุบังคับ (FVC) และ FEV1 /
FVC.
สรุป: แคดเมียมซึ่งเป็นที่รู้จักกันที่จะทำให้เกิดถุงลมโป่งพองในการตั้งค่าการประกอบอาชีพก็อาจจะเป็น
สิ่งสำคัญในการพัฒนาของโรคปอดที่เกี่ยวข้องกับยาสูบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลัง : การศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระดับแคดเมียมในปัสสาวะ และสมรรถภาพปอด
ในประเทศตัวแทนหมู่คนปัจจุบัน อดีต และไม่สูบบุหรี่ในสหรัฐอเมริกา ระดับแคดเมียมในปัสสาวะ
สะท้อนร่างกายรวมภาระของแคดเมียม .
วิธีการ : ข้อมูลต่อไปนี้จากสามในการสำรวจสุขภาพและโภชนาการ คือ การตรวจวิเคราะห์
:แคดเมียม ( ปรับในปัสสาวะ creatinine ) ฟังก์ชันปอด เพศ เชื้อชาติ / ชาติพันธุ์ อายุ ระดับการศึกษา ประเภทของงาน
, ดัชนีมวลกาย ระดับโคตินินในซีรัม และประวัติการสูบบุหรี่ ตัวแบบการถดถอยเชิงเส้น
ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทำนายสมรรถภาพปอดโดยใช้ปัสสาวะแคดเมียมเป็นตัวแปรหลักสำหรับการอื่น ๆและมีความรู้

ผลการสูบบุหรี่สถานะข้อมูลที่มีอยู่ในผู้ใหญ่ 16 024 . ผู้สูบบุหรี่ในปัจจุบันสูงกว่าค่าเฉลี่ยของแคดเมียม ( SE ) /
creatinine ระดับ ( 0.46 ( 0.01 มิลลิกรัม / กรัม ) กว่าเดิม ( 0.32 ( 0.01 มิลลิกรัม / กรัม ) หรือเคยสูบบุหรี่ ( 0.23 ( 0.01 mg / g )
ระดับที่สูงขึ้นของทางเดินปัสสาวะแคดเมียมต่ำกว่ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใน
1 เล่ม วินาที ( fev1 ) ปัจจุบัน ( 22.06 % , ช่วงความเชื่อมั่น 95% ( CI ) - 2.86 ต่อ 21เพิ่ม
+ แคดเมียม 26 ต่อ 1 ) และอดีตผู้สูบบุหรี่ ( 21.95 % , 95 % CI ( 2.87 เพื่อ 21.03 ) แต่ไม่เคยสูบบุหรี่
( 20.18 % , 95 % CI – 0.60 0.24 ) ผลที่คล้ายกันได้รับบังคับความจุปอด ( FVC ) และพบ fev1 /
.
สรุป แคดเมียม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันเพื่อทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพองในการตั้งค่าการอาจ
ที่สำคัญในการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับยาสูบ โรคปอด