Born: 30 September 1928, Sighet, Ro

Born: 30 September 1928, Sighet, Romania
Residence at the time of the award: USA
Role: Chairman of "The President's Commission on the Holocaust"
Field: human rights, humanitarian work
Prize share: 1/1
Eye-Witness and Messenger
The Jewish author, philosopher and humanist Elie Wiesel has made it his life's work to bear witness to the genocide committed by the Nazis during World War II. Today he is the world's leading spokesman on the Holocaust.
After Hitler's forces had moved into Hungary in 1944, the Wiesel family was deported to the Auschwitz extermination camp in Poland. Elie Wiesel's mother and younger sister perished in the gas chamber there. In 1945 Elie and his father were sent on to Buchenwald, where his father died of starvation and dysentery. Seventeen-year-old Elie was still alive when American soldiers opened the camp.
For the world to remember and learn from the Holocaust is not Elie Wiesel's only goal. It is equally important to fight indifference and the attitude that "it's no concern of mine". Elie Wiesel sees the struggle against indifference as a struggle for peace. In his words, "The opposite of love is not hate, but indifference".

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกิด: 30 1928 กันยายน Sighet โรมาเนียอาศัยเวลาของรางวัล: สหรัฐอเมริกาบทบาท: ประธาน "คณะกรรมการประธานฮอโลคอสต์"ฟิลด์: สิทธิมนุษยชน งานด้านมนุษยธรรมรางวัลหุ้น: 1/1ตาพยานและ Messengerชาวยิวผู้เขียน นักปราชญ์ และ humanist Elie Wiesel ได้ทำงานของชีวิตพยานถึงการพันธุฆาตมุ่งมั่น โดย Nazis ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง วันนี้เขาเป็นโฆษกชั้นนำของโลกในฮอโลคอสต์หลังจากกองทัพของฮิตเลอร์ได้ย้ายเข้าไปในฮังการีในปี 1944 ครอบครัว Wiesel ถูก deported กับค่ายมรณะ Auschwitz ในโปแลนด์ แม่และน้องสาว Elie Wiesel perished ในห้องก๊าซมี ในปีค.ศ. 1945 Elie และบิดาได้ส่ง Buchenwald ที่พ่อเสียความอดอยากและโรคบิด Elie seventeen ปียังมีชีวิตอยู่เมื่อทหารอเมริกันเปิดค่ายสำหรับโลกการจดจำ และเรียนรู้จากฮอโลคอสต์ได้ Elie Wiesel เป้าหมายเท่านั้น มันเป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้ท่านและทัศนคติที่ว่า "มันเป็นความกังวลของฉัน" Elie Wiesel เห็นการต่อสู้กับท่านเป็นการดิ้นรนต่อสู้เพื่อสันติภาพ ในคำพูดของเขา "ตรงกันข้ามของความรักไม่ได้เกลียด แต่ท่าน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกิด: 30 กันยายน 1928, Sighet, โรมาเนีย
Residence ในขณะที่ได้รับรางวัล: สหรัฐอเมริกา
Role: ประธานกรรมการของ "ประธานคณะกรรมการเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"
สนาม: สิทธิมนุษยชนการทำงานด้านมนุษยธรรม
รางวัลหุ้น: 1/1
พยานและ Messenger ของ
ชาวยิว ผู้เขียนนักปรัชญามนุษยนิยมและเอลีวีเซลได้ทำให้มันเป็นชีวิตการทำงานของเขาที่จะเป็นประจักษ์พยานถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่กระทำโดยพวกนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง วันนี้เขาเป็นโฆษกชั้นนำของโลกในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์.
หลังจากที่กองกำลังของฮิตเลอร์ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในฮังการีในปี 1944 ครอบครัววีเซลถูกเนรเทศไปที่ค่ายขุดรากถอนโคน Auschwitz ในโปแลนด์ แม่ของเอลีวีเซลและน้องสาวเสียชีวิตในห้องแก๊สมี ในปี 1945 เอลีและพ่อของเขาถูกส่งไปยัง Buchenwald ที่พ่อของเขาเสียชีวิตจากความอดอยากและโรคบิด เจ็ดปีเอลีก็ยังคงมีชีวิตอยู่เมื่อทหารอเมริกันเปิดค่าย.
สำหรับโลกที่จะจดจำและเรียนรู้จากความหายนะที่ไม่ได้เป็นเป้าหมายเดียวของเอลีวีเซล มันเป็นสิ่งสำคัญอย่างเท่าเทียมกันที่จะต่อสู้กับความไม่แยแสและทัศนคติที่ว่า "มันเป็นความกังวลของฉันไม่" เอลีวีเซลเห็นการต่อสู้กับความไม่แยแสการต่อสู้เพื่อความสงบสุข ในคำพูดของเขา "ตรงข้ามของความรักไม่ได้เกลียด แต่ไม่แยแส"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกิด : 30 กันยายน ปี 1928 sighet , โรมาเนีย
ที่อยู่อาศัยในเวลาของการได้รับรางวัลบทบาทสหรัฐอเมริกา
: ประธาน " ประธานของคณะกรรมการในความหายนะ "
สนาม : สิทธิมนุษยชน , แบ่งปัน
รางวัลผู้มีมนุษยธรรม 1 / 1
พยานและ Messenger
นักเขียนชาวยิว นักปรัชญาและมนุษยนิยมเอลีวีเซลได้ทำผลงานเพื่อเป็นพยานในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กระทำโดยนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองวันนี้เขาเป็นชั้นนำของโลกโฆษกบนความหายนะ .
หลังจากที่ฮิตเลอร์บังคับย้ายเข้าไปในฮังการีใน 1944 , ครอบครัว wiesel ถูกเนรเทศไปจัดค่าย Auschwitz ในโปแลนด์ ของเอลีวีเซลแม่และน้องสาวเสียชีวิตในห้องรมแก๊สมี ใน ค.ศ. 1945 Elie และบิดาของเขาถูกส่งไปยังค่ายกักกันบูเคนวัลด์ ที่พ่อของเขาเสียชีวิตจากความอดอยาก และโรคท้องร่วงสิบเจ็ดปี เอรี่ ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อทหารอเมริกันมาเปิดค่าย
ให้โลกได้จดจำและเรียนรู้จากความหายนะ ไม่ใช่เป้าหมายเดียวของเอลีวีเซล . มันเป็นสิ่งสําคัญเพื่อต่อสู้กับความไม่แยแสและทัศนคติที่ " มันไม่เกี่ยวกับผม " เอลีวีเซลเห็นการต่อสู้กับความเฉยเมยที่ต่อสู้เพื่อสันติภาพ ในคำพูดของเขา " สิ่งที่ตรงข้ามกับความรักไม่ใช่ความเกลียดแต่ไม่สนใจ "
.