'I want to be like Caliph Umar said

'I want to be like Caliph Umar said Saladin to his men
when his armies won all of Palestine in the early days of Islam. took Jerusalem peacefully and entered the town like a poor man. on mount foot. The Patriarch Sophronius gave him the keys of the town after they made a peace agreement. It said that the Franks, their houses and churches were sale. and that could pray in the way they wanted. and that no Muslim was going to hurt them or take their money. Then Umar visited tile town with the Ritrianh. When he saw that people used the Holy Mount in the middle of the town as a place for rubbish he started to clean it with his own hands. Then he asked men to build what is now the Al-Aqsa Mosque there. After that. when went with the Patriarch to see the church where the buried les us, il wis time pniu. Umar the dumh to pray outside. He said. I inside the church. then one other Muslims will pray want to make it into a masque" He wits jenerotis to all religions.
'We don't want to hurt people in the town. But the Franks fight to the last man!" Saladin's generals said
When Saladin the ranks, he said. "I think like you met that the City of God. I don't want to attack God's Jerusalem is home. So. if you surrender, then you will all be free to leave it with things. Your churches will be sale. and when people your want to make pilgrimage to the holy places. they can travel a freely into the town at any time

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

'ฉันต้องการที่จะเป็นเหมือนพระเจ้ากาหลิบอูกล่าวว่าศอลาฮุดเพื่อคนของเขา
เมื่อกองทัพของเขาได้รับรางวัลทั้งหมดของปาเลสไตน์ในวันแรกของศาสนาอิสลาม เอาเยรูซาเล็มอย่างสงบและเข้ามาในเมืองเช่นคนยากจน เดินเท้าภูเขา พระสังฆราช Sophronius ให้เขาคีย์ของเมืองหลังจากที่พวกเขาทำข้อตกลงสันติภาพ มันบอกว่าแฟรงค์บ้านของพวกเขาและคริสตจักรมีขาย และที่อาจอธิษฐานในทางที่พวกเขาต้องการ และไม่มีมุสลิมกำลังจะทำร้ายพวกเขาหรือใช้เงินของพวกเขา แล้วอูมาเยือนเมืองกระเบื้องที่มี Ritrianh เมื่อเขาเห็นว่าคนที่ใช้ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ตรงกลางของเมืองเป็นสถานที่สำหรับขยะเขาเริ่มที่จะทำความสะอาดด้วยมือของเขาเอง เขาจึงถามคนที่จะสร้างสิ่งที่เป็นตอนนี้มัสยิดอัลอักซอมี จากนั้น เมื่อไปกับพระสังฆราชเพื่อดูโบสถ์ที่ฝัง les เราอิลลินอยส์ wis pniu เวลา อูมา dumh จะอธิษฐานนอก เขากล่าวว่า ผมเข้าไปในโบสถ์ จากนั้นหนึ่งชาวมุสลิมอื่น ๆ จะอธิษฐานต้องการที่จะทำให้มันกลายเป็นหน้ากาก "เขาปัญญา jenerotis เพื่อทุกศาสนา.
'เราไม่ต้องการที่จะทำร้ายคนในเมือง. แต่แฟรงค์ต่อสู้เพื่อคนสุดท้าย! " นายพลศอลาฮุดกล่าวว่า
เมื่อศอลาฮุดอันดับเขากล่าวว่า "ผมคิดว่าคุณได้พบว่าเมืองของพระเจ้า. ฉันไม่ต้องการที่จะโจมตีกรุงเยรูซาเล็มของพระเจ้าเป็นบ้าน. ดังนั้นถ้าคุณยอมแพ้แล้วคุณจะทั้งหมดเป็นอิสระที่จะปล่อยให้มันเป็นสิ่งที่มี. คริสตจักรของคุณจะขาย. และเมื่อ คนที่ต้องการของคุณเพื่อให้เดินทางไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์. พวกเขาสามารถเดินทางเข้าไปในเมืองได้อย่างอิสระในเวลาใดก็ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฉันอยากจะเป็นเหมือนกาหลิบอุมัรกล่าวว่า ซาลาดินเพื่อคนของเขา
เมื่อกองทัพของเขาจะทั้งหมดของปาเลสไตน์ ในวันแรก ๆของศาสนาอิสลาม เอากรุงเยรูซาเล็มอย่างสงบและเข้าเมืองเหมือนคนจน ติดที่เท้า ประมุขโซโฟรเนียสให้เขาคีย์ของเมืองหลังจากที่พวกเขาทำข้อตกลงสันติภาพ มันบอกว่า แฟรงค์ , บ้านเรือนและโบสถ์ถูกขาย และจะภาวนาในทางที่พวกเขาต้องการและที่ไม่ใช่มุสลิมจะทำร้ายพวกเขาหรือเอาเงินของพวกเขา แล้วมาร์ เยือนเมืองกระเบื้องกับ ritrianh . เมื่อเขาเห็นผู้คนใช้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในกลางของเมืองเป็นสถานที่สำหรับขยะ เขาเริ่มทำความสะอาดมันด้วยมือของเขาเอง แล้วเขาก็ถามคนเพื่อสร้างสิ่งที่ตอนนี้มัสยิดอัล aqsa ที่นั่น หลังจากนั้น เมื่อไปอยู่กับประมุขเห็นโบสถ์ที่ฝังเลสเราอิล WIS เวลา pniu . เนื่องใน dumh อธิษฐานข้างนอก เขากล่าวว่า ฉันอยู่ในโบสถ์ จากนั้นหนึ่งมุสลิมอื่น ๆ จะภาวนาอยากให้มันเข้าไปในมัสยิด " เขาปัญญา jenerotis ทุกศาสนา
' เราไม่อยากทำร้ายผู้คนในเมือง แต่แฟรงค์สู้จนตัวตาย " นายพลซาลาดินก็บอกว่า
เมื่อซาลาดิน อันดับ , เขากล่าวว่า . ผมก็คิดเหมือนคุณ พบว่า เมืองของพระเจ้าฉันไม่ต้องการที่จะโจมตีพระเจ้ากรุงเยรูซาเล็ม คือ บ้าน ดังนั้น ถ้าคุณยอมแพ้ แล้วคุณจะเป็นอิสระที่จะทิ้งมันไว้กับสิ่งต่างๆ คริสตจักรของคุณจะขาย และเมื่อคนของคุณต้องการให้จาริกไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาสามารถเดินทางได้อย่างอิสระในเมืองตลอดเวลา