The success of prevention models, s

The success of prevention models, such as Responsiveness-To-Intervention, hinges on an accurate determination of which children are at risk for future difficulty (e.g., Compton, Fuchs, Fuchs, & Bryant, 2006; Fuchs & Fuchs, 2007; Good, Simmons, & Kame’enui, 2001; MaCardle, Scarborough, & Catts, 2001;VanDerHeyden, Witt, & Gilbertson, 2007). Correct identification of children at risk for reading difficulty (RD) in kindergarten and first grade can trigger early intervention prior to the onset of significant problems, which, in turn, can place children on the path of normal reading development. Universal screening is a principle means of identifying at-risk children (see Glover & Albers, 2007). In both research and practice, it usually involves precursor measures of literacy (e.g., phonemic awareness, letter naming fluency, concepts about print, word reading, oral language ability) and the use of a cut-point to demarcate risk and non-risk (for a review, see Jenkins, Hudson, & Johnson, 2007).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสำเร็จของรูปแบบการป้องกัน เช่นตอบสนองกับแทรกแซง แต่การกำหนดความถูกต้องซึ่งเด็กมีความเสี่ยงสำหรับความยากลำบากในอนาคต (เช่น คอมป์ตัน ฟุคส์ ฟุคส์ และไบร อันท์ 2006 Fuchs และ Fuchs, 2007 ดี ซิมมอนส์ & Kame'enui, 2001 MaCardle สการ์โบโรฮ์ & Catts, 2001 VanDerHeyden วิต & Gilbertson, 2007) รหัสที่ถูกต้องของเด็กที่มีความเสี่ยงสำหรับการอ่านยาก (RD) ในชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษาปีแรกสามารถทริกเกอร์แทรกแซงก่อนก่อนที่จะเริ่มเป็นปัญหาสำคัญ ซึ่ง จะ สามารถวางเด็กบนเส้นทางของการพัฒนาปกติอ่าน คัดกรองสากลเป็นหลักหมายถึงการระบุเด็กที่มีความเสี่ยง (ดูโกลเวอร์ & Albers, 2007) ในการวิจัยและปฏิบัติ มักจะเกี่ยวข้องกับวัดวัด (เช่น จิตสำนึก phonemic จดหมายชื่อแคล่ว แนวคิดเกี่ยวกับการพิมพ์ คำอ่าน ความสามารถในการพูด) สารตั้งต้นและการใช้จุดตัดปักปันความเสี่ยงและไม่ความเสี่ยง (สำหรับการตรวจทาน ดูเจงกินส์ ฮัดสัน Johnson, 2007)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสำเร็จของรุ่นการป้องกันเช่นการตอบสนองต่อการแทรกแซงบานพับบนความมุ่งมั่นที่ถูกต้องของการที่เด็กมีความเสี่ยงสำหรับความยากลำบากในอนาคต (เช่นคอมป์ตัน Fuchs, Fuchs และไบรอันท์ 2006 Fuchs & Fuchs, 2007; ดี ซิมมอนส์และ Kame'enui 2001; MaCardle, Scarborough, และ Catts 2001; VANDERHEYDEN วิตต์และ Gilbertson 2007) บัตรประจำตัวที่ถูกต้องของเด็กที่มีความเสี่ยงสำหรับการอ่านความยากลำบาก (RD) ในโรงเรียนอนุบาลและชั้นประถมศึกษาปีแรกที่สามารถก่อให้เกิดการแทรกแซงต้นก่อนที่จะเริ่มมีอาการของปัญหาที่สำคัญซึ่งในที่สุดก็สามารถวางเด็กบนเส้นทางของการพัฒนาอ่านปกติ การตรวจคัดกรองสากลเป็นวิธีการหลักการของการระบุเด็กที่มีความเสี่ยง (ดูโกลเวอร์และ Albers 2007) ทั้งในการวิจัยและการปฏิบัติก็มักจะเกี่ยวข้องกับมาตรการสารตั้งต้นของความรู้ (เช่นการรับรู้สัทศาสตร์จดหมายคล่องแคล่วตั้งชื่อแนวความคิดเกี่ยวกับการพิมพ์การอ่านคำความสามารถทางภาษาปาก) และการใช้ตัดชี้ไปที่ความเสี่ยงแบ่งแยกและไม่เสี่ยง ( เพื่อตรวจสอบดูเจนกินส์, ฮัดสันและจอห์นสัน, 2007)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสำเร็จของรุ่นป้องกัน เช่น การตอบสนองต่อการแทรกแซง , บานพับในการหาที่ถูกต้อง ซึ่งเด็กมีความเสี่ยงสำหรับปัญหาในอนาคต ( เช่น คอมพ์ตัน ฟุชส์ ฟุคส์ , & , ไบรอัน , 2006 ; ฟุชส์&ฟุชส์ , 2550 ; ดี , ซิมมอนส์ & kame'enui , 2001 ; macardle Scarborough , & catts , 2001 ; vanderheyden ใ & , , เพราะ , 2007 )รหัสที่ถูกต้องของเด็กเสี่ยงอ่านยาก ( RD ) ในระดับอนุบาลและชั้นประถมศึกษาปีแรกสามารถทริกเกอร์การแทรกแซงต้นก่อนที่จะเริ่มมีอาการของปัญหา ความสำคัญ ซึ่ง จะ สามารถวางลูกบนเส้นทางของการพัฒนาการอ่านปกติ สากลการคัดกรองเป็นหลักหมายถึงการระบุกลุ่มเสี่ยง เด็ก ( ดู โกลเวอร์& Albers , 2007 ) ในการปฏิบัติการวิจัยและมันมักจะเกี่ยวข้องกับมาตรการสารตั้งต้นของการรู้ ( เช่นเปรียบเทียบความตระหนัก การตั้งชื่อ ความสามารถ แนวคิดเกี่ยวกับจดหมายพิมพ์ อ่าน คำ ภาษาและการพูด ) ใช้ตัดชี้ความเสี่ยงและความเสี่ยงขององค์กร ( สำหรับรีวิว เห็น เจนกินส์ ฮัดสัน &จอห์นสัน , 2007 )