Yellow River ขอใฝ่ฝันถึงวันที่ไร้ซึ่ง ‘สงคราม’ (เขียนถึงบทเพลงในความทรงจำ)
Yellow River ขอใฝ่ฝันถึงวันที่ไร้ซึ่ง ‘สงคราม’
ถึงแม้ตัวผมเองจะไม่ใช่คอเพลงสากลแบบแฟนขนานแท้แต่อย่างใด แต่ ‘Yellow River’ ก็เป็นบทเพลงร็อกสากลยุคเก่าที่ผมชื่นชอบมากเป็นพิเศษ ซึ่งก็น่าจะคล้ายๆ กับใครอีกหลายคนนั่นเอง
เนื่องด้วยพื้นฐานส่วนตัวที่ชมชอบ นิยม ‘เพลงเพื่อชีวิต’ อยู่แล้ว พอมาเจอะเจอเพลงฝรั่งที่มีท่วงทำนอง ลีลา และจังหวะโจ๊ะ ครึกครื้น ร้องตามแสนง่ายได้ขนาดนี้ บทเพลง Yellow River จึงติดหูผมแบบสนิทแนบจริงๆ
Yellow River เป็นบทเพลงดัง และยังคงความอมตะตลอดมาของวงร็อกจากฝั่งอังกฤษแห่งยุคเซเว่นตี้ที่ชื่อ ‘Christie’ (คริสตี้) ที่ดังกระหึ่ม สร้างชื่ออยู่ในราวต้นทศวรรษ 1970s แต่จะเรียกว่าเพลงๆ นี้ดัง และเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมากกว่าตัววงก็ย่อมได้ สำหรับผม ครั้งแรกที่ได้ยินได้ฟังชื่อเพลงก็ให้พาลเข้าใจผิด นึกไปว่า วงร็อกอังกฤษวงนี้เขาแต่งเพลงเพื่อคารวะ สดุดี ‘แม่น้ำเหลือง’ หรือ ‘แม่น้ำฮวงโห’ ของแผ่นดินจีนหรืออย่างไรกัน ? แต่แท้จริงแล้วหาได้เป็นเช่นนั้นเลยครับ
เพราะ ‘Jeff Christie’ หนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งวง Christie และเป็นผู้สร้างสรรค์เพลงนี้ขึ้นมา ได้รับแรงบันดาลใจ และต่อยอดจิตนาการมาจากการอ่าน และซึมซับวรรณกรรมยุคคาวบอยของอเมริกันชน แห่งสมัยของสงครามกลางเมืองในสหรัฐอเมริกา และแม่น้ำที่เขากล่าวถึงในบทเพลงนี้ก็คือสายน้ำเล็กๆ สายหนึ่งที่ไหลรินอยู่ในผืนแผ่นดินอเมริกานั่นเอง
ประวัติสั้นๆ กล่าวว่า หลังจากที่ Jeff Christie แต่งเพลงนี้เสร็จ เขาจึงเสนอผลงานนี้ให้กับวง The Tremeloes เป็นผู้บันทึกเสียง แต่ผลปรากฏว่า วง The Tremeloes ได้ตัดเพลงนี้ออกจากอัลบั้มของตัวเองในนาทีสุดท้าย นั่นจึงทำให้ Jeff Christie ซึ่งขณะนั้นมีสถานะเป็นทั้งนักแต่งเพลง และนักดนตรีมากฝีมือ ตัดสินใจร่วมกับพรรคพวกฟอร์มวงดนตรีของตนขึ้นมาเองซะเลย โดยใช้ชื่อง่ายๆ ว่า Christie และนำบทเพลง Yellow River มาบันทึกเสียง และออกวางตลาดปรากฏโฉมสู่วงการในปี 1970 จนทำให้เกิดกระแสตอบรับจากแฟนเพลงไปทั่ว Yellow River ได้กลายเป็นบทเพลงยอดฮิต จนกระทั่งไต่อันดับขึ้นสู่ชาร์ตเพลง UK ครองบัลลังก์อันดับ 1 ของปี 1970 ได้อย่างสง่างาม ซึ่งแม้กระทั่งเพลงไทยในอดีตราว 30 กว่าปีที่แล้วยังได้หยิบยืมท่วงทำนองสุดไพเราะของ Yellow River ไปเป็นแรงบันดาลใจ สร้างเพลง ‘เนื้อไทย – ทำนองฝรั่ง’ แบบทั้งดุ้นกันเลยทีเดียว !!
ความหมาย และเนื้อหาง่ายๆ ที่พูดถึงในบทเพลง Yellow River นี้ ได้เล่าถึงแง่มุมความคิดของ ทหารหนุ่ม ที่ต้องร่วมรบอยู่ในสงครามกลางเมือง และเฝ้ารอคอยที่จะได้เห็นฉากอันโหดร้ายของสงครามสงบ และยุติลงเสียที ทหารหนุ่มในบทเพลงนี้กำลังเฝ้ารอที่จะเดินทางกลับไปหาสายน้ำ ธรรมชาติ และบ้านหลังอบอุ่นของตนที่ได้จากมาเป็นเวลาแสนนาน ซึ่งแม้ว่าเนื้อหาของเพลงนั้นจะไม่ได้ระบุเล่าถึงเหตุการณ์สงครามในหน้าประวัติศาสตร์ใดๆ ลงไปอย่างเฉพาะเจาะจงก็ตามที แต่นี่ก็ได้ทำให้ Yellow River กลายมาเป็นบทเพลงแห่งการป่าวร้องต่อต้าน ‘สงคราม’ ที่กลายสถานะเป็นเพลงแห่งโลกสากล ที่ก้าวพ้นพรมแดนทุกชาติ ภาษา และมีเนื้อหาความไพเราะจับใจข้ามกาลเวลาตลอดมา
ความรู้สึกของตัวละครในบทเพลงผู้ผ่านสงครามอันโหดร้ายมาหมาดๆ นี้ ย่อมสะท้อนได้ถึงภาวะความไร้ซึ่งแก่นสารของการทำสงครามระหว่างมนุษยชาติด้วยกันได้เป็นอย่างดี และคงไม่มีสิ่งใดในชีวิตที่น่าโหยหาเท่ากับสุนทรียะแห่งความงาม และความสงบของชีวิตท่ามกลางอ้อมกอดธรรมชาติ ที่มีแต่ ‘ความสันติสุข’ อีกแล้วล่ะครับ.
So long boy you can take my place ,
Got my papers , got my pay
So pack my bags and I’ll be my way
To yellow river
Put my guns down , the war is won
Fill my glass high , the time has come
I’m going back to the place that I love
Yellow river
Yellow river yellow river
Is in my mind and in my eyes
Yellow river yellow river
Is in my blood
It’s the place I love
Got no time for explanation got no time to lose
Tomorrow night you’ll find me
Sleeping underneath the moon at yellow river
Cannon fire lingers in my mind
I’m so glad that I’m still alive
And I’ve been gone for such a long time
From yellow river
I remember the nights were cool
I can still see the water pool
And I remember the girl that I knew
On yellow river