The second approach to the cache co

The second approach to the cache coherence problem uses signals passed among the caches whenever there is a write to a memory location. Consider a Simple system with two processors sharing one memory bus. Suppose that P1 writes to memory location M, which was already cached in C1. As a result of the write, a new value for M is cached in C1. Cache C1 sends a “โหลลลลลล" signal along with the memory address (and, possibly, the value written) to all other cache in the system. What does C2 do when it receives the โหลลลลลล signal? Certainly no action is required within C2 unless it also holds a copy of M. So C2 must determine whether M is cached within itself. This requires an associative search for address M. If the search succeeds, C2 must either update its copy of M or mark its previous copy invalid. If there are several caches in the system, the need for each one to make an associative search for every other write in the system can become a huge burden. A designer could alleviate the burden by providing additional copies of the search logic just to handle the search requests required for writes at other processors.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีที่สองปัญหาศักยภาพแคใช้สัญญาณที่ส่งผ่านระหว่างแคชมีเขียนไปยังตำแหน่งหน่วยความจำ พิจารณาระบบง่ายกับตัวประมวลผลสองที่หนึ่งบัสหน่วยความจำที่ใช้ร่วมกัน สมมติว่า P1 เขียนหน่วยความจำตำแหน่ง M ที่ถูกแคชไว้ใน C1 แล้ว จากการเขียน M ค่าใหม่ถูกแคใน C1 แค C1 ส่งสัญญาณ "โหลลลลลล" อยู่หน่วยความจำ (และ อาจจะ ค่าเขียน) แคชอื่น ๆ ทั้งหมดในระบบ ไม่ C2 อย่างไรเมื่อได้รับสัญญาณโหลลลลลล แน่นอนไม่มีการกระทำจำเป็นภายใน C2 ยกเว้นจะเก็บสำเนาของ M ดังนั้น C2 ต้องกำหนดว่า M ถูกเก็บไว้ภายในตัวเอง ต้องการค้นหาที่เกี่ยวข้องที่อยู่ M ถ้าการค้นหาสำเร็จ C2 ต้องปรับปรุงสำเนาของเมตร หรือทำเครื่องหมายเป็นสำเนาก่อนหน้านี้ที่ไม่ถูกต้อง ถ้ามีแคชหลายในระบบ ความต้องการสำหรับแต่ละคนต้องหาทุกเขียนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในระบบสามารถเป็น ภาระใหญ่ นักออกแบบสามารถบรรเทาภาระ โดยให้สำเนาเพิ่มเติมของตรรกะค้นหาเพียงเพื่อจัดการการร้องขอการค้นหาที่จำเป็นสำหรับการเขียนข้อมูลที่ประมวลผลอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แนวทางที่สองเพื่อแก้ไขปัญหาการเชื่อมโยงกันแคชใช้สัญญาณผ่านไปท่ามกลางแคชเมื่อใดก็ตามที่มีการเขียนไปยังสถานที่หน่วยความจำ พิจารณาระบบที่เรียบง่ายด้วยสองหน่วยประมวลผลหน่วยความจำที่ใช้ร่วมกันรถบัสหนึ่ง สมมติว่า P1 เขียนไปยังที่ตั้งหน่วยความจำ M ซึ่งถูกเก็บไว้แล้วใน C1 อันเป็นผลมาจากการเขียน, ค่าใหม่สำหรับ M แคชใน C1 แคช C1 ส่ง "โหลลลลลล" สัญญาณพร้อมกับหน่วยความจำที่อยู่ (และอาจจะเป็นค่าที่เขียน) ทุกแคชอื่น ๆ ในระบบ. C2 ทำอะไรเมื่อได้รับโหลลลลลลสัญญาณ ? แน่นอนว่าการกระทำที่ไม่จำเป็นต้องมีภายใน C2 เว้นแต่จะยังถือสำเนาของ M. ดังนั้น C2 จะต้องตรวจสอบว่า M อยู่ในแคชภายในตัวเอง. นี้ต้องมีการค้นหาเชื่อมโยงสำหรับที่อยู่ M. ถ้าการค้นหาประสบความสำเร็จ, C2 จะต้องปรับปรุงสำเนาของ M หรือทำสำเนาก่อนหน้านี้ที่ไม่ถูกต้อง. หากมีแคชในหลายระบบที่จำเป็นสำหรับแต่ละคนที่จะทำให้การค้นหาเชื่อมโยงทุกเขียนอื่น ๆ ในระบบสามารถกลายเป็นภาระใหญ่. นักออกแบบสามารถแบ่งเบาภาระโดยการให้สำเนาเพิ่มเติมของ ตรรกะการค้นหาเพียงเพื่อจัดการการร้องขอการค้นหาที่จำเป็นสำหรับการเขียนที่ประมวลผลอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีที่สองเพื่อการใช้สัญญาณที่ส่งผ่านระหว่างปัญหาแคชแคชเมื่อใดก็ ตามที่มีเขียนไปยังตำแหน่งหน่วยความจำ พิจารณาระบบง่าย กับสองแบบแชร์หน่วยความจำบัส สมมติว่า P1 เขียน M ตำแหน่งหน่วยความจำที่ถูกเก็บไว้แล้วใน C1 . ผลของการเขียนค่าใหม่สำหรับ M เป็นแคชในเครื่อง .แคช C1 ส่ง " โหลลลลลล " สัญญาณพร้อมกับหน่วยความจำที่อยู่ ( และอาจค่าเขียน ) แคชอื่น ๆทั้งหมดในระบบ แล้ว C2 ทำเมื่อได้รับสัญญาณโหลลลลลล ? แน่นอนไม่มีการกระทำเป็นสิ่งจำเป็นภายใน C2 ถ้ามันยังเก็บสำเนาของม. ดังนั้น C2 ต้องตรวจสอบว่า M เป็นแคชภายในตัวเอง นี้ต้องใช้การเชื่อมโยง ค้นหาที่อยู่ม.หากการค้นหาประสบความสำเร็จ จะต้องปรับปรุงการคัดลอก C2 M หรือเครื่องหมายการคัดลอกก่อนหน้านี้ไม่ถูกต้อง หากมีหลายแคชในระบบความต้องการสำหรับแต่ละคนเพื่อให้เชื่อมโยง ค้นหาทุก ๆเขียนในระบบสามารถกลายเป็นภาระใหญ่นักออกแบบสามารถบรรเทาภาระโดยให้สำเนาเพิ่มเติมของการค้นหาตรรกะเพื่อจัดการการร้องขอการค้นหาที่จําเป็นสําหรับเขียนแบบอื่น ๆ