Erucic acid was dominant in the gra

Erucic acid was dominant in the grape seed
oil (43.17%). This is in contrast to what was obtained in an
Egyptian grown grape seed oil[15] in which linoleic acid
constituted more than 50% of the total fatty acid while oleic
acid was the second major fatty acid reported. Meanwhile,
oleic acid was not detected in the grape seed oil in this
present study. Water melon seed oil contains 61.11% linoleic
acid and 77.19% total unsaturated fatty acid which is in
agreement with previously reported data[16]. Linoleic acid is
an essential fatty acid that must be obtained through diet.
Preliminary research has found evidence that 毩-linolenic
acid is related to a lower risk of cardiovascular disease[17].
Grape seed oil is the only oil solid at room temperature
which suggested its possible usefulness in production of
specialized liquid soap and shampoo. The lime seed oil
is golden yellow oil with the highest yield (24.79%). The
relatively high oil content of the lime seed indicated that its

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรด erucic ถูกหลักในเมล็ดองุ่น
น้ำมัน (43.17%) นี่คือตรงข้ามกับสิ่งได้รับในการ
อียิปต์ปลูกเมล็ดองุ่นน้ำมัน [15] ซึ่งกรด linoleic
ทะลักกว่า 50% ของกรดไขมันทั้งหมดในขณะที่โอเลอิค
กรดถูกสองหลักไขมันกรดรายงาน ในขณะเดียวกัน,
ไม่พบ oleic กรดในน้ำมันเมล็ดองุ่นนี้
ปัจจุบันศึกษา น้ำมันน้ำแตงโมประกอบด้วย 61linoleic 11%
กรดและ 77.19% กรดไขมันในระดับที่สมที่รวม
ตกลงกับข้อมูลรายงานไปก่อนหน้านี้ [16] กรด linoleic
กรดไขมันจำเป็นที่ต้องได้รับผ่านอาหาร
วิจัยเบื้องต้นพบหลักฐานที่毩-linolenic
กรดเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่ำของโรค [17] .
น้ำมันเมล็ดองุ่นเป็นน้ำมันเท่านั้นที่เป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง
ที่แนะนำประโยชน์ความเป็นไปได้ในการผลิตของ
ความสบู่เหลวและแชมพูสระผม น้ำมันเมล็ดมะนาว
เป็นน้ำมันสีเหลืองทองกับผลตอบแทนสูงสุด (24.79%) ใน
ระบุปริมาณน้ำมันค่อนข้างสูงของเมล็ดมะนาวที่เป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรด erucic เป็นที่โดดเด่นในเมล็ดองุ่น
น้ำมัน (43.17%) นี้เป็นในทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่ได้รับใน
น้ำมันเมล็ดองุ่นโตอียิปต์ [15] ในการที่กรดไลโนเลอิก
ประกอบด้วยมากกว่า 50% ของกรดไขมันทั้งหมดในขณะที่โอเลอิก
กรดเป็นครั้งที่สองกรดไขมันที่สำคัญรายงาน ในขณะที่
กรดโอเลอิกไม่พบในน้ำมันเมล็ดองุ่นใน
การศึกษาครั้งนี้ น้ำมันเมล็ดแตงโมมี 61.11% ไลโนเลอิก
กรดและรวมของกรดไขมันไม่อิ่มตัว 77.19% ซึ่งอยู่ใน
ข้อตกลงที่มีรายงานก่อนหน้านี้ข้อมูล [16] กรดไลโนเลอิกเป็น
กรดไขมันจำเป็นที่จะต้องได้รับผ่านทางอาหาร
การวิจัยเบื้องต้นพบว่ามีหลักฐานที่แสดงว่า毩-linolenic
กรดที่เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ [17]
น้ำมันเมล็ดองุ่นเป็นน้ำมันเพียงของแข็งที่อุณหภูมิห้อง
ที่แนะนำ ประโยชน์ที่เป็นไปได้ในการผลิต
สบู่เหลวพิเศษและแชมพู น้ำมันเมล็ดมะนาว
เป็นน้ำมันสีเหลืองทองที่มีอัตราผลตอบแทนที่สูงที่สุด (24.79%)
ปริมาณน้ำมันที่ค่อนข้างสูงของเมล็ดพันธุ์มะนาวที่ระบุว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

eruca กรดเด่นในน้ำมันเมล็ดองุ่น
( 43.17 % ) นี้เป็นในทางตรงกันข้ามกับสิ่งที่ได้รับใน
อียิปต์ปลูกน้ำมันเมล็ดองุ่น [ 15 ] ซึ่งกรดไลโนเลอิ
constituted มากกว่า 50 % ของกรดไขมันทั้งหมดในขณะที่กรดโอเลอิก
เป็นกรดไขมันหลักที่สอง รายงาน โดย
กรดโอเลอิกไม่พบในน้ำมันเมล็ดองุ่นในนี้
ปัจจุบันการศึกษา น้ำมันเมล็ดแตงโม มี 6111 % และมีปริมาณกรดไลโนเลอิก
77.19 กรดไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งอยู่ใน
ข้อตกลงกับรายงานก่อนหน้านี้ข้อมูล [ 16 ] กรด linoleic เป็น
เป็นกรดไขมันที่ต้องได้รับจากอาหาร .
การวิจัยเบื้องต้น ได้พบหลักฐานว่า 毩
- ไลโนเลนิก กรดจะเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด [ 17 ] .
น้ำมันเมล็ดองุ่นน้ำมันเท่านั้นที่เป็นของแข็งที่
อุณหภูมิห้องซึ่งชี้ให้เห็นประโยชน์ที่เป็นไปได้ในการผลิต
เฉพาะสบู่เหลวและแชมพู น้ำมันเมล็ดมะนาว
เป็นสีเหลืองทอง น้ำมัน กับผลผลิตสูงสุด ( 24.79 % )
ค่อนข้างสูงและปริมาณน้ำมันของเมล็ดพบว่ามะนาว