• Both forms return the position af

• Both forms return the position after the last written value in the destination range (the first element
that is not overwritten).
• The first form is equivalent to the conversion of a sequence of absolute values into a sequence
of relative values. In this regard, algorithm adjacent_difference() is the complement of
algorithm partial_sum() (see page 627).
• The source and destination ranges may be identical.
• The caller must ensure that the destination range is big enough or that insert iterators are used.
• op should not modify the passed arguments.
• Complexity: linear (numElems-1 calls of operator - or op(), respectively).
The following program demonstrates some examples of using adjacent_difference():

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

•แบบฟอร์มทั้งสองรับตำแหน่งหลังจากเขียนค่าสุดท้ายในช่วงปลาย (องค์ประกอบแรก
ที่ถูกเขียนทับ) .
•แบบแรกจะเท่ากับแปลงของลำดับของค่าในลำดับ
ค่าสัมพัทธ์ ในการนี้ adjacent_difference() อัลกอริทึมเป็นส่วนเติมเต็มของ
partial_sum() อัลกอริทึม (ดูหน้า 627) .
•ช่วงต้นทางและปลายทางอาจจะเหมือนได้
•ผู้เรียกต้องแน่ใจว่า ช่วงปลายมีขนาดใหญ่เพียงพอ หรือที่แทรกใช้ iterators ได้
• op ควรปรับเปลี่ยนการส่งผ่านอาร์กิวเมนต์ด้วย
•ความซับซ้อน: เส้น (numElems-1 เรียกตัว - หรือ op() ตามลำดับ) ได้
โปรแกรมต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างของการใช้ adjacent_difference():

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

•รูปแบบที่ทั้งสองกลับตำแหน่งหลังจากที่ค่าเขียนสุดท้ายในช่วงปลายทาง (องค์ประกอบแรก
ที่ไม่ได้ถูกเขียนทับ)
•รูปแบบครั้งแรกเทียบเท่ากับการเปลี่ยนแปลงของลำดับของค่าที่แน่นอนเป็นลำดับ
ของค่าญาติ ในเรื่องนี้ขั้นตอนวิธีการ adjacent_difference () เป็นส่วนประกอบของ
ขั้นตอนวิธี partial_sum () (ดูหน้า 627)
•ต้นทางและปลายทางช่วงอาจจะเหมือนกัน
•โทรต้องให้แน่ใจว่าช่วงปลายทางมีขนาดใหญ่พอหรือว่าใส่ iterators ถูกนำมาใช้ .
•สหกรณ์ไม่ควรปรับเปลี่ยนการขัดแย้งที่ผ่าน
•ซับซ้อน: เชิงเส้น (numElems-1 สายของผู้ประกอบการ - หรือสหกรณ์ () ตามลำดับ)
โปรแกรมต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างบางส่วนของการใช้ adjacent_difference ():

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บริการทั้งสองรูปแบบคืนตำแหน่ง หลังจากล่าสุดเขียนค่าในช่วงปลายทาง ( ก่อนองค์ประกอบ
ที่ไม่เขียนทับ )
- รูปแรก เทียบเท่ากับ การเปลี่ยนแปลงของลำดับของค่าสัมบูรณ์เป็นลำดับ
ค่าสัมพัทธ์ ในการนี้ ขั้นตอนวิธี adjacent_difference() เป็นส่วนเติมเต็มของ partial_sum() ขั้นตอนวิธี ( เห็นหน้าแล้ว

)- แหล่งที่มาและปลายทางช่วงอาจจะเหมือน .
- โทรต้องมั่นใจว่า ช่วงปลายมีขนาดใหญ่พอ หรือใส่ iterators ใช้ .
- op ไม่ควรปรับเปลี่ยนผ่านอาร์กิวเมนต์ .
- ความซับซ้อน : เชิงเส้น ( numelems-1 เรียกร้องของผู้ประกอบการหรือ op() ตามลำดับ )
โปรแกรมต่อไปนี้แสดงให้เห็นตัวอย่างบางส่วน การใช้ adjacent_difference() :