The aim of this study was to invest

The aim of this study was to investigate farm-level economic and technical factors that are associated with the use of antibiotics on pig farms. Identification of such factors, like farm size and net farm result, may help to increase epidemiological knowledge and to specify farm advice and policy making to reduce inappropriate use of antibiotics. The study used over 300 farm-year records collected during 2004 to 2007 from pig farms in the Netherlands. Data included economic and technical factors as well as antibiotic administration. Data were statistically analyzed for factors associated with antibiotic use, both for fattening pig and sow farms (piglets only), separately. The response variable was the average number of daily dosages per average pig year. Statistical analysis was performed on 16 and 19 potential explanatory factors for the fattening pig and sow farms, respectively. The results showed that, both on the fattening pig and sow farms, the average use of antibiotics increased from 2004 to 2006, but decreased during 2007, but the effect of year was not significant (P > 0.05). Use of antibiotics varied between individual farms. Large farm repeatability for the use of antibiotics in the different years was found. Factors associated (P < 0.05) with the use of antibiotics included: farm system, number of pigs, and population density in the region of the farm (for sow farms only). As these factors are easy to collect and to register, they can be used to specify farm advice and investigation, as well as for policy making. The majority of the technical and economic factors were not significantly (P > 0.05) related to the on-farm use of antibiotics. Therefore, it is recommended to focus future research on the potential role of socioeconomic factors associated with antibiotic use on pig farms.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้การ ตรวจสอบฟาร์มระดับทางเศรษฐกิจ และทางเทคนิคปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มสุกร ได้ รหัส ขนาดฟาร์มและฟาร์มสุทธิผล ปัจจัยดังกล่าวอาจช่วยเพิ่มความรู้ และสามารถแนะนำฟาร์มและนโยบายการลดการใช้ยาปฏิชีวนะไม่เหมาะสม การศึกษาใช้ระเบียนฟาร์มปี 300 ที่รวบรวมในช่วงปี 2004-2007 จากฟาร์มสุกรในประเทศเนเธอร์แลนด์ ข้อมูลรวมปัจจัยทางเศรษฐกิจ และทางเทคนิครวมทั้งการบริหารยาปฏิชีวนะ มีวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติสำหรับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาปฏิชีวนะ ทั้งเลี่ยนหมู และหว่านฟาร์ม (ทรูดเท่านั้น), แยกต่างหาก ตัวแปรตอบสนองเป็นจำนวนเฉลี่ยของ dosages วันต่อปีเฉลี่ยหมู วิเคราะห์ทางสถิติที่กระทำกับ 16 และ 19 เป็นอธิบายปัจจัยสำหรับหมูเลี่ยนและเสาฟาร์ม ตามลำดับ ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า ทั้งหมูเลี่ยนและเสาฟาร์ม การใช้ยาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปี 2004 2006 แต่ลดลงในปี 2550 แต่ผลของปีไม่สำคัญ (P > 0.05) การใช้ยาปฏิชีวนะแตกต่างกันระหว่างแต่ละฟาร์ม ทำซ้ำในฟาร์มขนาดใหญ่สำหรับการใช้ยาปฏิชีวนะในปีต่าง ๆ พบ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (P < 0.05) มีการใช้ยาปฏิชีวนะรวม: ฟาร์มระบบ สุกร และความหนาแน่นของประชากรในภูมิภาคของฟาร์ม (สำหรับเสาฟาร์มเท่านั้น) ปัจจัยเหล่านี้จะง่ายต่อ การรวบรวม และ การลงทะเบียน จะสามารถใช้เพื่อระบุคำแนะนำฟาร์มและตรวจสอบ เช่นสำหรับนโยบายทำได้ ส่วนใหญ่ของปัจจัยทางเทคนิค และเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ (P > 0.05) ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์ม ดังนั้น มันจะแนะนำให้มาวิจัยในอนาคตบทบาทศักยภาพของประชากรปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มสุกร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการตรวจสอบฟาร์มระดับปัจจัยทางเศรษฐกิจและทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มสุกร บัตรประจำตัวของปัจจัยดังกล่าวเช่นขนาดฟาร์มและฟาร์มผลสุทธิที่จะช่วยเพิ่มความรู้ทางระบาดวิทยาและการระบุคำแนะนำฟาร์มและการกำหนดนโยบายเพื่อลดการใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่เหมาะสมของ ใช้ในการวิจัยกว่า 300 บันทึกฟาร์มเก็บรวบรวมในระหว่างปี 2004-2007 จากฟาร์มสุกรในประเทศเนเธอร์แลนด์ ข้อมูลรวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจและทางเทคนิคเช่นเดียวกับการบริหารยาปฏิชีวนะ วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติสำหรับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาปฏิชีวนะทั้งสำหรับสุกรขุนและหว่านฟาร์ม (ลูกสุกรเท่านั้น) แยกต่างหาก ตัวแปรการตอบสนองเป็นค่าเฉลี่ยของปริมาณในชีวิตประจำวันต่อปีหมูเฉลี่ย การวิเคราะห์ทางสถิติที่ได้ดำเนินการในวันที่ 16 และ 19 ปัจจัยที่อธิบายที่มีศักยภาพสำหรับสุกรขุนและสุกรฟาร์มตามลำดับ ผลการศึกษาพบว่าทั้งในสุกรขุนและหว่านฟาร์มเฉลี่ยของการใช้ยาปฏิชีวนะเพิ่มขึ้น 2004-2006 แต่ลดลงในช่วงปี 2007 แต่ผลของปีที่ไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ (P> 0.05) การใช้ยาปฏิชีวนะที่แตกต่างกันระหว่างแต่ละฟาร์ม การทำซ้ำฟาร์มขนาดใหญ่สำหรับการใช้ยาปฏิชีวนะในปีที่แตกต่างกันก็พบว่า ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (P <0.05) กับการใช้ยาปฏิชีวนะรวม: ระบบฟาร์มจำนวนของสุกรและความหนาแน่นของประชากรในภูมิภาคของฟาร์ม (สำหรับฟาร์มสุกรเท่านั้น) ขณะที่ปัจจัยเหล่านี้จะง่ายต่อการเก็บรวบรวมและการลงทะเบียนที่พวกเขาสามารถนำมาใช้เพื่อระบุคำแนะนำฟาร์มและการตรวจสอบเช่นเดียวกับในการกำหนดนโยบาย ส่วนใหญ่ของปัจจัยทางเทคนิคและเศรษฐกิจไม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ (P> 0.05) ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานในฟาร์มของยาปฏิชีวนะ ดังนั้นจึงขอแนะนำให้มุ่งเน้นการวิจัยในอนาคตเกี่ยวกับบทบาทที่มีศักยภาพของปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มสุกร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้เพื่อศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจและทางเทคนิคระดับฟาร์มที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มสุกร การกำหนดปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของฟาร์ม และฟาร์ม สุทธิผล อาจช่วยเพิ่มความรู้ทางระบาดวิทยาเพื่อระบุและแนะนำฟาร์มและนโยบายเพื่อลดการใช้ยาปฏิชีวนะการศึกษาที่ใช้มากกว่า 300 ไร่ปีบันทึกเก็บในช่วง 2547 ถึง 2550 จาก ฟาร์มสุกรในเนเธอร์แลนด์ ข้อมูล ได้แก่ ปัจจัยทางเศรษฐกิจและทางด้านเทคนิครวมทั้งยาปฏิชีวนะ ) วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาปฏิชีวนะ ทั้งหมูและหมูขุนฟาร์ม ( สุกร ) , แยกการตอบสนองตัวแปรจำนวนเฉลี่ยรายวัน 3.1 ต่อปีหมูเฉลี่ย วิเคราะห์บน 16 และ 19 ศักยภาพการอธิบายปัจจัยเพื่อเลี้ยงสุกรขุน และหว่านไร่ ตามลำดับ ผลการศึกษาพบว่าทั้งในสุกรขุนสุกรและฟาร์ม ใช้ค่าเฉลี่ยของยาปฏิชีวนะเพิ่มขึ้นจากปี 2549 แต่ลดลงในช่วงปี 2007แต่ผลของปีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p > 0.05 ) การใช้ยาปฏิชีวนะที่แตกต่างกันระหว่างฟาร์มแต่ละ ฟาร์มขนาดใหญ่สำหรับการใช้ยาปฏิชีวนะในปีที่แตกต่างกันพบว่า ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) กับการใช้ยาปฏิชีวนะ ได้แก่ ระบบฟาร์ม จำนวนสุกรและประชากรหนาแน่นในเขตของฟาร์ม ( ฟาร์มสุกรเท่านั้น )เป็นปัจจัยเหล่านี้จะง่ายต่อการเก็บและการลงทะเบียน พวกเขาสามารถใช้ในการระบุแนะนำฟาร์มและสอบสวน รวมทั้งนโยบาย ส่วนใหญ่ของปัจจัยทางเทคนิคและทางเศรษฐกิจไม่แตกต่างกัน ( P > 0.05 ) ที่เกี่ยวข้องกับฟาร์มการใช้ยาปฏิชีวนะ ดังนั้นโดยมุ่งเน้นการวิจัยในอนาคตบทบาทของปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคมที่อาจเกิดขึ้นที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มสุกร