Azuchi–Momoyama periodIn 1592, and

Azuchi–Momoyama period
In 1592, and again in 1597, Toyotomi Hideyoshi decided to invade China (唐入り) through Korea and mobilized an army of 160,000 peasants and samurai.(See Hideyoshi's invasions of Korea, Chōsen-seibatsu (朝鮮征伐?). Taking advantage of its mastery of the arquebus, Japanese samurai made major gains in most of Korea. Kato Kiyomasa advanced to Orangkai (present northeastern region of China) and crossed the Korean border, but withdrew when it was clear he had outpaced the rest of the Japanese invasion force. A few of the more famous samurai generals of this war were Katō Kiyomasa, Konishi Yukinaga, and Shimazu Yoshihiro. Shimazu Yoshihiro led 7,000 Samurai and defeated the tens of thousands of soldiers of Ming and Korean allied Forces at the Battle of Sacheon in 1598. Yoshihiro was feared as Oni-Shimazu ("Shimazu ogre") and his nickname spread across not only Korea but to Ming Dynasty China.

Social mobility was high, as the ancient regime collapsed and emerging samurai needed to maintain large military and administrative organizations in their areas of influence. Most of the samurai families that survived to the 19th century originated in this era, declaring themselves to be the blood of one of the four ancient noble clans: Minamoto, Taira, Fujiwara and Tachibana. In most cases, however, it is hard to prove these claims.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระยะเวลา Azuchi-Momoyama
ใน 1592 และอีกครั้งใน 1597, โทโยโตมิฮิเดโยชิตัดสินใจที่จะบุกประเทศจีน (唐入り) ผ่านเกาหลีและกองกำลังกองทัพของ 160,000 และชาวบ้านซามูไร. (ดูรุกรานฮิเดโยชิของเกาหลีได้รับการแต่งตั้ง-seibatsu (朝鮮征伐?) การใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้ของปืนไฟซามูไรญี่ปุ่นทำกำไรที่สำคัญในส่วนของเกาหลี. Kato Kiyomasa ก้าวเข้าสู่ Orangkai (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในปัจจุบันของจีน) และข้ามพรมแดนเกาหลี แต่ถอนตัวออกเมื่อมันเป็นที่ชัดเจนว่าเขาได้แซงหน้าส่วนที่เหลือของ โจมตีกองกำลังญี่ปุ่น. บางส่วนของนายพลซามูไรที่มีชื่อเสียงมากของสงครามครั้งนี้มีKatō Kiyomasa, Konishi Yukinaga และโยชิฮิโรชิมาซึ. โยชิฮิโรชิมาซึนำ 7,000 ซามูไรและพ่ายแพ้นับหมื่นของทหารของหมิงและกองกำลังพันธมิตรเกาหลีที่รบ Sacheon ใน 1598 โยชิฮิโรก็กลัวเป็น Oni-ชิมาซึ ("ผีปอบชิมาซึ") และชื่อเล่นของเขาแผ่กระจายไปทั่วเกาหลีไม่เพียง แต่เพื่อราชวงศ์หมิงประเทศจีน. สังคมที่อยู่ในระดับสูงในขณะที่ระบอบการปกครองโบราณยุบและซามูไรที่เกิดขึ้นใหม่ที่จำเป็นในการรักษาทหารที่มีขนาดใหญ่และการบริหารจัดการ องค์กรในพื้นที่ของพวกเขามีอิทธิพลต่อ ส่วนใหญ่ของครอบครัวซามูไรที่รอดชีวิตไปในศตวรรษที่ 19 ที่เกิดขึ้นในยุคนี้ประกาศตัวเองเป็นโลหิตของหนึ่งในสี่ของตระกูลขุนนางโบราณ: โมโตะ, ไทร่า, ฟูจิวาระและนะ ในกรณีส่วนใหญ่ แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์การเรียกร้องเหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยุคอะซุชิโมะโมะยะมะ
ใน 1205 , และอีกครั้งในนั่น โตโยโตมิ ฮิเดโยชิ , ตัดสินใจที่จะบุกจีน ( 唐入り ) ผ่านทางเกาหลี และระดมกองทัพของ 160 , 000 ชาวนาและซามูไร ( เห็นของฮิเดโยชิรุกรานเกาหลี โชเซ็น seibatsu ( 朝鮮征伐 ? ) รอบรู้ สละประโยชน์ของดินแดนของซามูไรญี่ปุ่นทํากําไรสําคัญที่สุดในเกาหลีคาโต้ คิโยมา orangkai ขั้นสูง ( ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนในปัจจุบัน ) และข้ามชายแดนเกาหลี ถอนตัว แต่เมื่อมันชัดเจน เขาสำหรับส่วนที่เหลือของแรงบุกญี่ปุ่น ไม่กี่ของที่มีชื่อเสียงมากขึ้น แม่ทัพซามูไรของสงครามครั้งนี้ สเตรปโตมัยซิน โคนิชิ , yukinaga และชิมะสึโยะชิ . ชิมะสึโยะชิ LED 7000 ซามูไรและเอาชนะทหารนับแสนนายของหมิงและเกาหลี กองกำลังพันธมิตรในสงครามของ Sacheon ใน 1598 . โยชิฮิโรชิมาสุก็กลัวเป็นโอนิ ( " ชิมาสุยักษ์ " ) และชื่อเล่นของเขา กระจายทั่วไม่เฉพาะเกาหลี แต่หมิงราชวงศ์

สังคม ความคล่องตัวสูงเป็นระบอบโบราณ ล้มลง และเกิดใหม่ซามูไรต้องการรักษาทหารและการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ในพื้นที่อิทธิพล ที่สุดของซามูไรครอบครัวที่รอดชีวิตมาจากศตวรรษที่ 19 ในยุค นี้ ประกาศว่าตัวเองเป็นเลือดของหนึ่งในสี่ของขุนนางตระกูลไทระ : มินาโมโตะโบราณ , , ฟูจิวาระ และทาจิบานะ ในกรณีส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามมันยากที่จะพิสูจน์สิทธิเรียกร้องเหล่านี้