Symmetric encryption is much faster

Symmetric encryption is much faster than asymmetric encryption, but it has several problems. First, both parties (sender and receiver) need to know the shared secret key. This means that the two parties need to have some method for securely exchanging the key. E-mail is not a solution, because anyone who can intercept the e-mail would know the secret key. A second problem is that separate secret keys need to be created for use with each different party with whom encryption is going to be used. Otherwise, anyone possessing that common secret key could decrypt any encrypted documents to which access is obtained, legitimately or illegitimately, whether intended for that person or not. The number of secret keys required grows quickly, becoming difficult to manage if encryption is desired with thousands of other entities. Third, because both parties using symmetric encryption must know the same secret key, there is no way to prove who created a specific document. Each party could claim that other used the shared secret key in an attempt to defraud. Thus, symmetric encryption provides no way to create legally binding agreements.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมมาตรเข้ารหัสลับจะเร็วกว่าการเข้ารหัสแบบ asymmetric มาก แต่มันมีปัญหาหลายอย่าง อันดับแรก ทั้งสองฝ่าย (ผู้ส่งและผู้รับ) ต้องรู้คีย์ลับใช้ร่วมกัน ซึ่งหมายความ ว่า สองฝ่ายจำเป็นต้องมีวิธีการบางอย่างสำหรับการแลกเปลี่ยนคีย์ปลอดภัย อีเมล์ไม่ได้แก้ไขปัญหา เนื่องจากทุกคนที่สามารถตัดอีเมล์จะทราบคีย์ลับ ปัญหาที่สองคือ คีย์ลับแยกต้องถูกสร้างขึ้นสำหรับใช้กับแต่ละบุคคลแตกต่างกันที่เข้ารหัสลับจะใช้ มิฉะนั้น ใครมีลับทั่วไปที่สามารถถอดรหัสเอกสารใด ๆ เข้ารหัสที่เข้าได้รับ illegitimately หรือถูกต้องตามกฎหมายว่าไว้สำหรับผู้นั้น หรือไม่ หมายเลขคีย์ลับที่ต้องเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นยากที่จะจัดการถ้าต้องการเข้ารหัสลับพันตี ที่สาม เพราะทั้งสองฝ่ายใช้การเข้ารหัสลับแบบสมมาตรต้องรู้คีย์ลับเดียวกัน มีวิธีพิสูจน์ที่สร้างเอกสารเฉพาะ แต่ละฝ่ายสามารถอ้างว่า อื่น ๆ ใช้คีย์ลับที่ใช้ร่วมกันในการฉ้อโกง ดังนั้น สมมาตรเข้ารหัสมีวิธีการสร้างข้อตกลงผูกพันตามกฎหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเข้ารหัสแบบสมมาตรจะเร็วกว่าการเข้ารหัสแบบอสมมาตร แต่มันก็มีปัญหาหลายอย่าง ครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่าย (ผู้ส่งและผู้รับ) จำเป็นต้องรู้รหัสลับที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งหมายความว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องมีวิธีการบางอย่างสำหรับการแลกเปลี่ยนความปลอดภัยที่สำคัญ E-mail ไม่ได้แก้ปัญหาเพราะทุกคนที่สามารถตัด e-mail ที่จะได้รู้ว่าคีย์ลับ ปัญหาที่สองคือกุญแจลับที่แยกจากกันจะต้องมีการสร้างขึ้นสำหรับการใช้งานกับแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันกับคนที่เข้ารหัสจะถูกนำมาใช้ มิฉะนั้นทุกคนที่มีความลับสำคัญที่จะร่วมกันถอดรหัสเอกสารที่มีการเข้ารหัสใด ๆ ที่เข้าถึงได้มาถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ชอบธรรมไม่ว่าจะมีไว้สำหรับคนคนนั้นหรือไม่ จำนวนของปุ่มลับที่ต้องเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วกลายเป็นเรื่องยากในการจัดการการเข้ารหัสถ้าเป็นที่ต้องการที่มีมากมายของหน่วยงานอื่น ๆ ประการที่สามเพราะทั้งสองฝ่ายใช้การเข้ารหัสแบบสมมาตรจะต้องรู้ว่าคีย์ลับเดียวกันมีวิธีที่จะพิสูจน์ว่าใครเป็นผู้สร้างเอกสารที่ระบุไม่มี แต่ละฝ่ายจะอ้างว่าอื่น ๆ ที่ใช้คีย์ลับที่ใช้ร่วมกันในความพยายามที่จะโกง ดังนั้นการเข้ารหัสแบบสมมาตรมีวิธีการสร้างข้อตกลงที่มีผลผูกพันตามกฎหมายไม่มี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชวดจะเร็วกว่าการเข้ารหัสไม่สมมาตร แต่มันมีหลายปัญหา แรก ทั้งสองฝ่าย ( ผู้ส่งและผู้รับต้องรู้จักแบ่งปันความลับสำคัญ ซึ่งหมายความ ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องมีบางวิธีการที่ปลอดภัยการแลกเปลี่ยนกุญแจ อีเมลจะไม่แก้ปัญหา เพราะคนที่สามารถสกัดกั้นอีเมลจะรู้คีย์ลับปัญหาที่สองคือ กุญแจลับ แยก ต้องถูกสร้างขึ้นสำหรับใช้กับที่แตกต่างกันในแต่ละพรรคด้วย ซึ่งการจะใช้ ไม่งั้นใครครอบครองกุญแจลับเข้ารหัสเอกสารทั่วไปสามารถถอดรหัสใด ๆที่เข้าถึงได้มาถูกต้องตามกฎหมาย หรือ illegitimately ไม่ว่าจะตั้งใจให้คนๆนั้นหรือไม่ หมายเลขของกุญแจลับต้องเติบโตได้อย่างรวดเร็วกลายเป็นยากที่จะจัดการ ถ้าข้อมูลที่ต้องการกับพันของหน่วยงานอื่น ๆ 3 เพราะทั้งสองฝ่ายใช้ชวดต้องรู้คีย์ลับเดียวกัน ไม่มีทางพิสูจน์ได้ว่าผู้ที่สร้างเอกสารที่เฉพาะเจาะจง แต่ละพรรคจะอ้างว่าใช้ร่วมกันอื่น ๆคีย์ลับในการพยายามที่จะคดโกง ดังนั้นชวดแสดงวิธีการสร้างข้อตกลงผูกพันตามกฎหมาย