The rice stem nematode Ditylenchus

The rice stem nematode Ditylenchus angustus causes “Ufra” disease in rice resulting in substantial yield losses. Although it is predominant in deep water rice in South and Southeast Asia, this nematode also infects irrigated and rainfed low land rice. This study evaluated rice genotypes (irrigated, rainfed, deep water and landraces) for resistance to the Bangladeshi population of D. angustus. The experiment was executed using artificial inoculation, in both rainfed and irrigated ecosystems. The rice varieties were first scored at 28 days post inoculation (dpi), and ranked based on the postinfectional reactions and severity of symptoms on a 0–16 rating scale. The susceptibility of the varieties was also evaluated at a later time point, i.e. 55 dpi, based on the percentage of tiller infections, using a disease index scoring system ranging from 0 to 9. Both screening methods showed a similar ranking of the varieties for susceptibility/resistance against this nematode. The experiment was initially conducted in plastic pots, and the promising varieties were analyzed further in field conditions. Out of the 85 varieties, one landrace named ‘Manikpukha’ proved to be highly resistant, while 6 other varieties showed resistance and 13 varieties showed moderately resistant responses under both pot and field conditions. The promising varieties found in the present investigation can be used in rice breeding programs as well as for further detailed studies to develop a sustainable ufra management strategy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้าวก้านนีมาโทดา Ditylenchus angustus ทำให้เกิดโรค "Ufra" ข้าวเกิดการสูญเสียผลผลิตที่พบ แม้ว่าจะเป็นข้าวน้ำลึกในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นีมาโทดานี้ยังติดกัน ชลประทาน และที่ดินต่ำ rainfed ข้าว ศึกษาประเมินการศึกษาจีโนไทป์ของข้าว (ชลประทาน rainfed น้ำลึก และ landraces) สำหรับความต้านทานต่อประชากรบังคลาเทศของ D. angustus ทดลองปฏิบัติการใช้ inoculation ประดิษฐ์ rainfed ทั้ง และชลประทานระบบนิเวศ ข้าวสายพันธุ์แรกคะแนนที่ 28 วันลง inoculation (dpi), และการจัดอันดับขึ้นอยู่กับปฏิกิริยา postinfectional และความรุนแรงของอาการในระดับ 0 – 16 คะแนน ไก่สายพันธุ์ยังมีประเมินในภายหลังเวลา เช่น 55 dpi ตามเปอร์เซ็นต์ของเชื้อที่เพาะปลูก ใช้ดัชนีโรคที่ให้คะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 9 ระบบ ทั้งสองวิธีตรวจพบอันดับคล้ายพันธุ์สำหรับภูมิไวรับ/ความต้านทานต่อต้านนี้นีมาโทดา เริ่มต้นวิธีการทดลองในกระถางพลาสติก และพันธุ์สัญญาได้วิเคราะห์เพิ่มเติมในฟิลด์นี้ จากพันธุ์ 85 แม่หนึ่งชื่อ 'Manikpukha' พิสูจน์ให้ทนสูง ในขณะที่พันธุ์อื่น ๆ 6 พบว่าความต้านทานและการตอบสนองที่ค่อนข้างทน 13 สายพันธุ์พบว่าภายใต้เงื่อนไขทั้งหม้อและฟิลด์ พันธุ์สัญญาที่พบในปัจจุบันสามารถใช้โปรแกรมการปรับปรุงพันธุ์ข้าว และเพิ่มเติมรายละเอียดศึกษาพัฒนากลยุทธ์การบริหาร ufra อย่างยั่งยืน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ก้านข้าวไส้เดือนฝอย Ditylenchu​​s angustus ทำให้เกิด "Ufra" โรคในข้าวส่งผลให้สูญเสียผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่ามันจะเป็นเด่นในข้าวน้ำลึกในภาคใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไส้เดือนฝอยนี้ยังติดเชื้อและน้ำฝนน้ำท่าข้าวที่ดินต่ำ การศึกษาครั้งนี้ได้รับการประเมินยีนข้าว (ชลประทานน้ำฝนน้ำลึกและพันธุ์พื้นเมือง) สำหรับความต้านทานต่อประชากรของบังคลาเทศ D. angustus การทดลองดำเนินการโดยใช้การฉีดวัคซีนเทียมในระบบนิเวศทั้งน้ำฝนและน้ำท่า พันธุ์ข้าวที่ถูกยิงเป็นครั้งแรกที่โพสต์วันที่ 28 ฉีดวัคซีน (dpi) และการจัดอันดับขึ้นอยู่กับปฏิกิริยา postinfectional และความรุนแรงของอาการในระดับคะแนน 0-16 ความไวของสายพันธุ์ที่ได้รับการประเมินที่จุดในเวลาต่อมาคือ 55 dpi ขึ้นอยู่ในอัตราร้อยละของการติดเชื้อเพาะปลูกโดยใช้ระบบการให้คะแนนดัชนีการเกิดโรคตั้งแต่ 0 ถึง 9 ทั้งสองวิธีการตรวจคัดกรองพบว่ามีการจัดอันดับที่คล้ายกันของพันธุ์สำหรับความอ่อนแอ / ความต้านทานต่อไส้เดือนฝอยนี้ ทำการทดลองครั้งแรกในกระถางพลาสติกและสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มถูกนำมาวิเคราะห์ต่อไปในสภาพสนาม ออกจาก 85 สายพันธุ์หนึ่ง landrace ชื่อว่า 'Manikpukha' พิสูจน์แล้วว่าเป็นอย่างสูงที่ทนในขณะที่ 6 พันธุ์อื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นความต้านทานและ 13 สายพันธุ์พบว่ามีการตอบสนองในระดับปานกลางทนอยู่ภายใต้ทั้งหม้อและสภาพสนาม พันธุ์ที่มีแนวโน้มในการตรวจสอบพบว่าในปัจจุบันสามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวโปรแกรมเช่นเดียวกับการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในการพัฒนากลยุทธ์การจัดการที่ยั่งยืน ufra

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้าวต้น ditylenchus angustus ไส้เดือนฝอยสาเหตุ " ufra " โรคในข้าวส่งผลอย่างมากต่อการสูญเสีย แม้ว่าจะเด่นในข้าวน้ำลึกในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ งานนี้ยังติดเชื้อและข้าวนาน้ำฝน แผ่นดินต่ำ การศึกษานี้ทำการเปรียบเทียบ ( ข้าวนาชลประทาน น้ำฝน น้ำที่ลึกและ landraces ) ต้านทานระหว่างประชากรของ D . angustus .การทดลองดำเนินการโดยใช้เชื้อเทียม ทั้งอาศัยน้ำฝนและชลประทานระบบนิเวศวิทยา ข้าวพันธุ์แรกที่โพสต์คะแนน 28 วันเชื้อ ( DPI ) และจัดอันดับตาม postinfectional ปฏิกิริยาและความรุนแรงของอาการใน 0 – 16 แบบมาตราส่วนประมาณค่า ความไวของนานาก็ประเมินในภายหลัง จุด เช่น 55 จุดต่อนิ้ว ,จากค่าร้อยละของการติดเชื้อ ทิลเลอร์ โดยใช้ดัชนีของโรคระบบการให้คะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 9 ทั้งวิธีการคัดกรองพบคล้ายคลึงกัน การจัดอันดับของพันธุ์ต่อการเกิดความต้านทาน กับงานนี้ การทดลองครั้งแรกดำเนินการในกระถางพลาสติก และพันธุ์ที่มีแนวโน้ม วิเคราะห์ต่อไปในภาวะภาคสนาม จาก 85 สายพันธุ์1 ชื่อ manikpukha เรซ ' ' พิสูจน์ได้ในเชิงป้องกัน ในขณะที่ 6 พันธุ์อื่น ๆพบความต้านทาน และ 13 สายพันธุ์ พบการตอบสนองค่อนข้างต้านทานภายใต้ทั้งหม้อสนามและเงื่อนไข สายพันธุ์ที่พบในการตรวจสอบแนวโน้มในปัจจุบันที่สามารถใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ โปรแกรม รวมทั้งเพิ่มเติมรายละเอียดการศึกษาการพัฒนาอย่างยั่งยืน ufra การจัดการกลยุทธ์