PURPOSE: The purpose of this study

PURPOSE: The purpose of this study was to examine the effect of a medication self-management education program on medication awareness, communication with health care provider, medication misuse behavior, and blood pressure in elders with hypertension.

METHODS: The research design for this study was a non-equivalent control group quasi-experimental design. Participants were 23 elders for the control group, and 26 elders for the experimental group. The experimental group participated in the medication self-management education program which included the following, verbal education, 1:1 consultation, practice in medication self-management, and discussion over 5 sessions. Data were analyzed using the SPSS 18.0 program.

RESULTS: There were statistically significant differences between the experimental and control group for medication awareness, medication misuse behavior, and communication with health care providers. However, no significant difference was found between the two groups for blood pressure.

CONCLUSION: The results indicate that the education program is effective in improving medication awareness and communication with health care providers and in decreasing medication misuse behavior. Therefore, it is recommended that this education program be used as an effective intervention for improving medication self-management for elders with hypertension.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการตรวจสอบผลกระทบของโปรแกรมการศึกษาการใช้ยาการจัดการตนเองในการรับรู้ของยาในการติดต่อสื่อสารกับผู้ให้บริการการดูแลสุขภาพพฤติกรรมการใช้ยาและความดันโลหิตในผู้สูงอายุที่มีความดันโลหิตสูง

วิธี. การออกแบบการวิจัยสำหรับ การศึกษาครั้งนี้เป็นกลุ่มควบคุมในการออกแบบกึ่งทดลองที่ไม่เทียบเท่าผู้เข้าร่วม 23 ผู้สูงอายุสำหรับกลุ่มควบคุมและ 26 ผู้สูงอายุสำหรับกลุ่มทดลอง กลุ่มทดลองที่เข้าร่วมในโปรแกรมการศึกษาการใช้ยาการจัดการตนเองซึ่งรวมถึงต่อไปนี้การศึกษาทางวาจา 1:1 ให้คำปรึกษาการปฏิบัติในการใช้ยาการจัดการตนเองและการอภิปรายในช่วง 5 ช่วง ข้อมูลที่ถูกวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรม spss 18.0

ผล.มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลุ่มทดลองและการควบคุมการใช้ยาสำหรับการรับรู้พฤติกรรมการใช้ยาและการสื่อสารกับผู้ให้บริการการดูแลสุขภาพ . แต่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างสองกลุ่มสำหรับความดันโลหิต

สรุป:ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการศึกษาที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงการรับรู้การใช้ยาและการสื่อสารกับผู้ให้บริการการดูแลสุขภาพและในการลดพฤติกรรมการใช้ยาในทางที่ผิด ดังนั้นจึงขอแนะนำว่าโปรแกรมการศึกษานี้จะใช้เป็นแทรกแซงที่มีประสิทธิภาพสำหรับการปรับปรุงการใช้ยาการจัดการตนเองเพื่อผู้สูงอายุที่มีความดันโลหิตสูง.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบผลของยาตนเองจัดการศึกษาโปรแกรมความรู้ยา สื่อสารกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพ ยาผิดลักษณะการทำงาน และความดันโลหิตในผู้สูงอายุมีความดันโลหิตสูง

วิธีการ: การออกแบบวิจัยสำหรับการศึกษานี้ถูกออกแบบกึ่งทดลองกลุ่มควบคุมไม่เทียบเท่า ผู้เข้าร่วมถูกผู้ใหญ่ 23 สำหรับกลุ่มควบคุม และผู้สูงอายุ 26 สำหรับกลุ่มทดลอง กลุ่มทดลองเข้าร่วมในโปรแกรมการศึกษาจัดการด้วยตนเองยาที่รวมต่อไปนี้ วาจาศึกษา 1:1 ให้คำปรึกษา ฝึกบริหารตนเองยา และสนทนามากกว่า 5 ครั้ง ข้อมูลที่ได้วิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมโปรแกรม 18.0

ผลลัพธ์: มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างการทดลอง และกลุ่มควบคุมความรู้ยา ยาผิดพฤติกรรม และสื่อสารกับผู้ให้บริการสุขภาพ อย่างไรก็ตาม พบไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกลุ่มสองสำหรับความดันโลหิต

สรุป: ผลลัพธ์บ่งชี้ว่า โปรแกรมการศึกษามีประสิทธิภาพ ในการปรับปรุงความรู้ยาและการสื่อสารกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพ และลดพฤติกรรมผิดยา ดังนั้น ไม่ว่า โปรแกรมการศึกษานี้ใช้การแทรกแซงที่มีประสิทธิภาพปรับปรุงยาจัดการตนเองสำหรับผู้สูงอายุมีความดันโลหิตสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้งานตามวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เป็นการตรวจสอบผลของโปรแกรมการศึกษายาด้วยตนเอง - การจัดการในการรับรู้การรับประทานยาการสื่อสารกับพฤติกรรมการสูญหายการใช้ในทางยาผู้ให้การดูแล สุขภาพ และความดันโลหิตในพวกผู้ใหญ่ด้วยความดันเลือดสูง.

วิธีการออกแบบการวิจัยเพื่อการศึกษานี้เป็นการออกแบบกึ่งทดลองการควบคุมไม่เทียบเท่ากับที่ผู้ร่วมประชุมเป็น 23 พวกผู้ใหญ่สำหรับกลุ่มควบคุมและ 26 พวกผู้ใหญ่สำหรับกลุ่มทดลองที่ กลุ่มทดลองได้เข้าร่วมในโปรแกรมการศึกษายาด้วยตนเอง - การจัดการซึ่งต่อไปนี้:คิดรวมถึงการศึกษาด้วยวาจา 1 : 1 ให้คำปรึกษาการปฏิบัติในยาด้วยตนเองและการจัดการการประชุมใน 5 ช่วง ข้อมูลถูกวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรม spss ที่ 18.0 .

ผลลัพธ์มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลุ่มทดลองและการควบคุมความตระหนักถึงพฤติกรรมการสูญหายการใช้ในทางยาและการรับประทานยาการสื่อสารกับผู้ให้บริการด้านการดูแล สุขภาพ แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญก็พบได้ในระหว่างทั้งสองกลุ่มได้สำหรับความดันโลหิต.

บทสรุปผลการค้นหาจะแสดงว่าโปรแกรมการศึกษาที่มีผลใช้บังคับในการปรับปรุงในการสื่อสารและการรับรู้การรับประทานยาพร้อมด้วยผู้ให้บริการด้านการดูแล สุขภาพ และอยู่ในลักษณะการใช้ยาลดลง ดังนั้นขอแนะนำให้ใช้โปรแกรมการศึกษานี้ถูกใช้เป็นการแทรกแซงที่ได้ผลดีสำหรับการปรับปรุงยาด้วยตนเอง - การจัดการสำหรับผู้ใหญ่พร้อมด้วยความดันสูง.