Semi-empirical correlations Newitt

Semi-empirical correlations Newitt et al. [4] have lead experiments in a 25.4 mm in diameter horizontal pipe, with various particles covering four specific masses (s = 1.18, s = 1.4, s = 2.6 and s = 4.1) and various sizes, the largest being of equivalent diameter 2.6 mm (10% of the pipe diameter). Theoretical considerations are used to derive expressions of the hydraulic gradient for different flow regimes (homogeneous, heterogeneous and flow with moving beds), and of the transition velocities between those regimes. For heterogeneous flows, i.e. for 17V0 6 V , the excess of friction is considered proportional to the energy dissipated by the particles as they fall under the action of gravity. This hypothesis leads to:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสัมพันธ์กึ่งประจักษ์ Newitt et al. [4] ได้ทดลองนำใน 25.4 มม.ในเส้นผ่าศูนย์กลางท่อแนวนอน กับอนุภาคต่าง ๆ ที่ครอบคลุมเฉพาะฝูงสี่ (s = 1.18, s = 1.4, s = 2.6 และ s = 4.1) และ ขนาดต่าง ๆ การที่ใหญ่ที่สุดของเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับ 2.6 มม. (10% ของเส้นผ่านศูนย์กลางท่อ) พิจารณาทฤษฎีจะใช้นิพจน์ของการไล่ระดับสีไฮดรอลิกสำหรับระบอบอื่นไหลมา (เหมือน แตกต่างกัน และมีการย้ายเตียง), และตะกอนเปลี่ยนระหว่างระบอบเหล่านั้น สำหรับขั้นตอนแตกต่างกัน เช่นสำหรับ 17V0 6 V เกินของแรงเสียดทานถือว่าเป็นสัดส่วนกับพลังงาน dissipated โดยอนุภาคเหล่านั้นอยู่ภายใต้การกระทำของแรงโน้มถ่วง สมมติฐานนี้นำไปสู่:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์กึ่งเชิงประจักษ์ Newitt และคณะ [4] มีการทดลองนำใน 25.4 มมท่อในแนวนอนที่มีอนุภาคต่างๆครอบคลุมสี่ฝูงเฉพาะ (s = 1.18, s = 1.4 s = 2.6 และ s = 4.1) และขนาดต่างๆเป็นที่ใหญ่ที่สุดของเส้นผ่าศูนย์กลางเทียบเท่า 2.6 มิลลิเมตร (10% ของขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางท่อ) การพิจารณาทฤษฎีที่ใช้ในการได้มาซึ่งการแสดงออกของการไล่ระดับสีไฮดรอลิสำหรับการไหลของน้ำที่แตกต่างกัน (เหมือนกันต่างกันและการไหลที่มีการเคลื่อนย้ายเตียง) และความเร็วการเปลี่ยนแปลงระหว่างระบอบการปกครองเหล่านั้น สำหรับกระแสที่แตกต่างกันเช่นสำหรับ 17V0 6 V ส่วนเกินของแรงเสียดทานถือว่าเป็นสัดส่วนกับพลังงานเหือดหายจากอนุภาคที่พวกเขาตกอยู่ภายใต้การกระทำของแรงโน้มถ่วง สมมติฐานนี้นำไปสู่​​:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กึ่งความสัมพันธ์เชิงประจักษ์ เนวิตต์ et al . [ 4 ] ได้นำการทดลองใน 25.4 มม. เส้นผ่าศูนย์กลางท่อแนวนอนกับอนุภาคต่าง ๆที่ครอบคลุมมวลเฉพาะสี่ ( S = 1.18 , S = 1.4 , S = 2.6 และ S = 4.1 ) และขนาดต่าง ๆ ที่ใหญ่ที่สุดมีเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากับ 2.6 มม. ( 10% ของขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางท่อ )การพิจารณาเชิงทฤษฎีที่ใช้สร้างการแสดงออกของความลาดชลศาสตร์การไหล regimes ต่าง ๆ ( ที่เป็นเนื้อเดียวกัน ต่างกันและไหลย้ายเตียง ) และความเร็วของการเปลี่ยนแปลงระหว่างระบบเหล่านั้น สำหรับที่แตกต่างกัน ( เช่น 17v0 6 V ,ส่วนเกินของแรงเสียดทานจะพิจารณาสัดส่วนของพลังงานลดลง โดยอนุภาคที่พวกเขาตกอยู่ภายใต้การกระทำของแรงโน้มถ่วง สมมุติฐานนี้นำไปสู่ :