The march of technology may seem un

The march of technology may seem unstoppable, but all things digital may have a way to go before they replace the traditional bedtime book - the paper one. A new study shows that paper books are better than e-books for bedtime reading. The study suggests that the good old printed book, with real pages that you turn with your fingers, makes parents and children interact more than they do when reading with an electronic book. Researchers from the University of Michigan studied how 37 pairs of parents and toddlers interacted with e-books and paper books. The researchers found that with electronic books, parents asked their children fewer questions and made fewer comments about the story .The study involved observing parents and children (aged two or three) reading from three different book formats. These were printed books, basic e-books on a tablet, and enhanced e-books with features such as animation, eraphics and sound effects. The researchers discovered that the parents and toddlers interacted with each other less with both types of e-books than they did with the printed books. A researcher said that when they did speak, they were far likelier to talk about the device and the technology rather than about the story. Children were Uikelier to say things like, "don't push that button or 'don't change the volume than ask questions or make observations about the story

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอาจดูเหมือนไม่สามารถหยุดยั้งได้ แต่ทุกสิ่งในโลกดิจิทัลอาจมีหนทางที่จะดำเนินต่อไป ก่อนที่จะมาแทนที่หนังสือก่อนนอนแบบเดิมๆ ซึ่งก็คือกระดาษ การศึกษาใหม่แสดงให้เห็นว่าหนังสือกระดาษดีกว่า e-book สำหรับการอ่านก่อนนอน ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าหนังสือที่พิมพ์ออกมาเก่าๆ ที่ดีซึ่งมีหน้ากระดาษจริงๆ ที่คุณเปิดด้วยมือ ทำให้พ่อแม่และเด็กๆ มีปฏิสัมพันธ์กันมากกว่าเมื่ออ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนศึกษาว่าผู้ปกครองและเด็กเล็ก 37 คู่โต้ตอบกับ e-book และหนังสือกระดาษอย่างไร นักวิจัยพบว่าเมื่อใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ผู้ปกครองจะถามคำถามกับบุตรหลานน้อยลง และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยลง การศึกษานี้เกี่ยวข้องกับการสังเกตผู้ปกครองและเด็กๆ (อายุ 2 หรือ 3 ปี) อ่านหนังสือจากรูปแบบหนังสือที่แตกต่างกันสามรูปแบบ ได้แก่หนังสือที่พิมพ์ e-book พื้นฐานบนแท็บเล็ต และ e-book ที่ได้รับการปรับปรุงพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น แอนิเมชัน เอราฟิค และเอฟเฟกต์เสียง นักวิจัยค้นพบว่าผู้ปกครองและเด็กเล็กมีปฏิสัมพันธ์กับ eBook ทั้งสองประเภทน้อยกว่าที่พวกเขาทำกับหนังสือที่พิมพ์ นักวิจัยคนหนึ่งกล่าวว่าเมื่อพวกเขาพูด พวกเขามีแนวโน้มที่จะพูดถึงอุปกรณ์และเทคโนโลยีมากกว่าที่จะพูดถึงเรื่องราว เด็กๆ เป็น Uikelier ที่จะพูดสิ่งต่างๆ เช่น "อย่ากดปุ่มนั้น หรือ 'อย่าเปลี่ยนระดับเสียงมากกว่าถามคำถามหรือสังเกตเรื่องราว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดูเหมือนจะล้นหลาม แต่อาจยังมีหนทางอีกยาวไกลสําหรับสิ่งต่าง ๆ ทางดิจิทัลก่อนที่จะแทนที่หนังสือก่อนนอนแบบดั้งเดิม - หนังสือกระดาษ การศึกษาใหม่แสดงให้เห็นว่าหนังสือกระดาษเหมาะสําหรับการอ่านก่อนนอนมากกว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าหนังสือพิมพ์เก่าที่ดีที่มีหน้าจริงที่คุณใช้นิ้วพลิกหน้ามีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูกมากกว่าเวลาอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ศึกษาว่าพ่อแม่และเด็กวัยหัดเดิน 37 คู่มีปฏิสัมพันธ์กับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และหนังสือกระดาษอย่างไร นักวิจัยพบว่าสําหรับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ พ่อแม่ถามคําถามกับลูกน้อยลงและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวน้อยลง การศึกษานี้รวมถึงการสังเกตพ่อแม่และลูก (อายุสองหรือสามขวบ) อ่านจากหนังสือสามรูปแบบที่แตกต่างกัน นี่คือหนังสือที่พิมพ์ออกมา หนังสืออิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานบนแท็บเล็ต และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงที่มีคุณสมบัติเช่นแอนิเมชั่น อักษรอียิปต์โบราณและเอฟเฟกต์เสียง นักวิจัยพบว่าพ่อแม่และเด็กวัยหัดเดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การพัฒนาเทคโนโลยีดูเหมือนจะไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แต่สิ่งดิจิทัลทั้งหมดอาจมีทางที่จะไปก่อนที่จะแทนที่หนังสือเล่มก่อนนอนแบบดั้งเดิม-หนังสือกระดาษ การศึกษาใหม่แสดงให้เห็นว่าหนังสือกระดาษเหมาะสําหรับการอ่านก่อนนอนมากกว่าe-books การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าหนังสือพิมพ์เก่าที่ดีคุณสามารถพลิกหน้าจริงด้วยนิ้วของคุณเพื่อให้พ่อแม่และเด็กมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นกว่าเมื่ออ่านe-books นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ศึกษาว่าพ่อแม่และเด็กเล็ก37คนมีปฏิสัมพันธ์กับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และหนังสือกระดาษอย่างไร นักวิจัยพบว่าด้วยe-booksพ่อแม่ถามคําถามน้อยลงและแสดงความคิดเห็นน้อยลงเกี่ยวกับเรื่องราว การศึกษานี้รวมถึงการสังเกตพ่อแม่และเด็ก(อายุสองหรือสามขวบ)อ่านหนังสือสามรูปแบบที่แตกต่างกัน เหล่านี้เป็นหนังสือพิมพ์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานบนแท็บเล็ตและหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการปรับปรุงด้วยภาพเคลื่อนไหวภาพอิเล็กทรอนิกส์และเอฟเฟ็กต์เสียง นักวิจัยพบว่าบิดามารดาและบุตรหลานมีปฏิสัมพันธ์กับหนังสือทั้งสองเล่มน้อยกว่าหนังสือกระดาษ นักวิจัยคนหนึ่งกล่าวว่าเมื่อพวกเขาพูดพวกเขามีแนวโน้มที่จะพูดคุยเกี่ยวกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีมากกว่าเรื่องราว เด็กมีแนวโน้มที่จะพูดว่า "อย่ากดปุ่มนั้น หรือ 'อย่าเปลี่ยนระดับเสียง' มากกว่าถามคําถาม หรือแสดงความคิดเห็นเรื่อง