พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่บุคคลคณะต่าง ๆ ในโอก การแปล - พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่บุคคลคณะต่าง ๆ ในโอก ไทย วิธีการพูด

พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห

พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่บุคคลคณะต่าง ๆ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุศิลาลัย เมื่อวันศุกร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๕ เกี่ยวกับการพระราชทานพระราชดำริโครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝน ในคราวเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่บ้านกุดตอแก่น ตำบลกุดสิมคุ้มเก่า อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๕ ดังนี้
“…ถึงเวลาก็แล่นรถไป เข้าไปถึงหมู่บ้านที่อยู่ใกล้สถานที่นั้น ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจทั้งช่างชลประทานไม่แน่ใจว่าจะมีทางไปถึงตรงนั้น จึงเอาชาวบ้านคนหนึ่งมาเป็นมัคคุเทศก์นำทาง ผู้ที่นำทางนั้นก็นำไปแห่งหนึ่งเป็นทางแยกที่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา เขาบอกให้เลี้ยวซ้ายก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมเลี้ยวซ้าย แต่เขาบอกให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยวซ้ายผ่านโรงเรียน ผ่านโรงเรียนแล้วก็เลี้ยวขวา เลี้ยวขวานั้นก็เข้าไปในทางที่เรียกได้ว่าลำลองอยากมากๆ เป็นทางที่เขาเต้นดิสโก้กัน คือที่เต้น “ดิสโก้” นี้ เพราะว่ารถมันแกว่งไปแกว่งมาเหมือนเต้น “ดิสโก้” ก็เลยเรียกว่า “ทางดิสโก้” แล่นไปตาม “ทางดิสโก้” นั้นไกลพอสมควรประมาณสักสองสามกิโลเมตรก็ไปถึงที่แห่ง เขาบอกว่าหยุด หยุดตรงนั้นมืดแล้ว เห็นมีแต่นาคนนำทางก็บอกว่า “นึกอยากจะมาตรงนี้” เราก็บอกว่าไม่ใช่ อยากจะดูที่เป็นทางน้ำที่เหมะสมกับการทำโครงการรูปร่างคล้ายๆ เป็นแก่ง เป็นอันว่ากลับ กลับมา “ดิสโก้”อีกสองกิโลเมตร แล้วมาที่หมู่บ้านแล่นตรงไป แล้วเดินอีกสองร้อยเมตรก็ถึงที่ถูกต้อง และช่างชลประทานเขาก็เห็นว่าเหมาะสมสำหรับทำโครงการ ....แล้วมาถามชาวบ้านที่อยู่ที่นั่นว่าเป็นอย่างไรปีนี้ เขาบอกว่าเก็บข้าวได้ แล้วข้าวก็อยู่ตรงนั้น กองไว้ เราก็ไปดูข้าว ข้าวนั้นมีรวงจริงแต่ไม่มีเม็ดหรือรวงหนึ่งมีสักสองสามเม็ด ก็หมายความว่า ไร่หนึ่งคงจะได้สักประมาณสักถังเดียวหรือไม่ถึงถังต่อไร่ ถามเขาทำไมเป็นเช่นนี้ เขาก็บอกว่าเพราะไม่มีฝน เขาปลูกกล้าไว้แล้วเมื่อขึ้นมาก็ปักดำ ปักดำไม่ได้เพราะไม่มีน้ำ ก็ปักในทราย ทำรูในทรายแล้วก็ปักลงไป เมื่อปักแล้วตอนกลางวันก็เฉา มันงอลงไป แต่ตอนกลางคืนก็ตังตัวตั้งขึ้นมาเพราะมีน้ำค้าง แล้วในที่สุดก็ได้รวงแต่ไม่มีข้าวเท่าไร อันนี้เป็นบทเรียนที่ดี เขาก็เล่าให้ฟังอย่างตรงไปตรงมา แสดงให้เห็นว่าข้าวนี้เป็นพืชที่แข็งแกร่งมาก ขอให้ได้น้ำค้างก็พอ แม้จะเป็นข้าวธรรมดาไม่ใช่ข้าวไร่ ถ้าหากเราช่วยเขาเล็กน้อยก็สามารถที่จะได้ข้าวมากขึ้นหน่อย พอที่จะกิน ฉะนั้นโครงการที่จะทำมิใช่จะต้องทำโครงการใหญ่โตมากนักจะได้ผล ทำเล็ก ๆ ก็ได้ จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่าในที่อย่างเช่นนั้น ฝนก็ดีพอสมควร แต่ลงมาไม่ถูกระยะเวลา เมื่อลงมาไม่ถูกระยะเวลา ฝนก็ทิ้งช่วง ข้าวก็ไม่ดี วิธีแก้ก็คือต้องเก็บน้ำฝนที่ลงมา ก็เกิดความคิดว่าอยากทดลองดูสักสิบไร่ในที่อย่างนั้น สามไร่จะทำเป็นบ่อน้ำคือเก็บน้ำฝน แล้วถ้าจะต้องใช้บุด้วยพลาสติก ทดลองดู แล้วอีกหกไร่ทำเป็นที่นา ส่วนหนึ่งไร่ที่เหลือนั้นทำเป็นที่บริการ หมายถึง ทางเดินหรือทำเป็นกระต๊อบ หรืออะไรก็แล้วแต่ หมายความว่าน้ำสามสิบเปอร์เซ็นต์ ที่ทำนาหกสิบเปอร์เซ็นต์ก็เชื่อว่าถ้าเก็บน้ำไว้ได้ หากเดิมเก็บเกี่ยวได้ไร่ละหนึ่งถึงสองถัง ถ้ามีน้ำเล็กน้อยอย่างนั้น ก็ควรจะเก็บเกี่ยวข้าวได้ไร่ละประมาณสิบยี่สิบถัง...”
ต่อมาได้มีราษฎรขอน้อมเกล้าถวายที่ดิน เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝนในท้องที่บ้านแดนสามัคคี รวม ๑๓ ไร่ ๓ งา
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่บุคคลคณะต่างๆ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาณศาลาดุศิลาลัยเมื่อวันศุกร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๕ เกี่ยวกับการพระราชทานพระราชดำริโครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝนในคราวเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่บ้านกุดตอแก่นตำบลกุดสิมคุ้มเก่าอำเภอเขาวงจังหวัดกาฬสินธุ์เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายนพ.ศ. ๒๕๓๕ ดังนี้ “… ถึงเวลาก็แล่นรถไปเข้าไปถึงหมู่บ้านที่อยู่ใกล้สถานที่นั้นฝ่ายเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจทั้งช่างชลประทานไม่แน่ใจว่าจะมีทางไปถึงตรงนั้นจึงเอาชาวบ้านคนหนึ่งมาเป็นมัคคุเทศก์นำทางผู้ที่นำทางนั้นก็นำไปแห่งหนึ่งเป็นทางแยกที่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเขาบอกให้เลี้ยวซ้ายก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมเลี้ยวซ้ายแต่เขาบอกให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวซ้ายผ่านโรงเรียนผ่านโรงเรียนแล้วก็เลี้ยวขวาเลี้ยวขวานั้นก็เข้าไปในทางที่เรียกได้ว่าลำลองอยากมาก ๆ เป็นทางที่เขาเต้นดิสโก้กันคือที่เต้น "ดิสโก้" นี้เพราะว่ารถมันแกว่งไปแกว่งมาเหมือนเต้น "ดิสโก้" ก็เลยเรียกว่า "ทางดิสโก้" แล่นไปตาม "ทางดิสโก้" นั้นไกลพอสมควรประมาณสักสองสามกิโลเมตรก็ไปถึงที่แห่งเขาบอกว่าหยุดหยุดตรงนั้นมืดแล้วเห็นมีแต่นาคนนำทางก็บอกว่า "นึกอยากจะมาตรงนี้" เราก็บอกว่าไม่ใช่อยากจะดูที่เป็นทางน้ำที่เหมะสมกับการทำโครงการรูปร่างคล้าย ๆ เป็นแก่งเป็นอันว่ากลับกลับมา "ดิสโก้" อีกสองกิโลเมตรแล้วมาที่หมู่บ้านแล่นตรงไปแล้วเดินอีกสองร้อยเมตรก็ถึงที่ถูกต้องและช่างชลประทานเขาก็เห็นว่าเหมาะสมสำหรับทำโครงการ... แล้วมาถามชาวบ้านที่อยู่ที่นั่นว่าเป็นอย่างไรปีนี้เขาบอกว่าเก็บข้าวได้แล้วข้าวก็อยู่ตรงนั้นกองไว้เราก็ไปดูข้าวข้าวนั้นมีรวงจริงแต่ไม่มีเม็ดหรือรวงหนึ่งมีสักสองสามเม็ดก็หมายความว่าไร่หนึ่งคงจะได้สักประมาณสักถังเดียวหรือไม่ถึงถังต่อไร่ ถามเขาทำไมเป็นเช่นนี้เขาก็บอกว่าเพราะไม่มีฝนเขาปลูกกล้าไว้แล้วเมื่อขึ้นมาก็ปักดำปักดำไม่ได้เพราะไม่มีน้ำก็ปักในทรายทำรูในทรายแล้วก็ปักลงไปเมื่อปักแล้วตอนกลางวันก็เฉามันงอลงไปแต่ตอนกลางคืนก็ตังตัวตั้งขึ้นมาเพราะมีน้ำค้างแล้วในที่สุดก็ได้รวงแต่ไม่มีข้าวเท่าไรอันนี้เป็นบทเรียนที่ดีเขาก็เล่าให้ฟังอย่างตรงไปตรงมาแสดงให้เห็นว่าข้าวนี้เป็นพืชที่แข็งแกร่งมากขอให้ได้น้ำค้างก็พอแม้จะเป็นข้าวธรรมดาไม่ใช่ข้าวไร่ถ้าหากเราช่วยเขาเล็กน้อยก็สามารถที่จะได้ข้าวมากขึ้นหน่อยพอที่จะกินฉะนั้นโครงการที่จะทำมิใช่จะต้องทำโครงการใหญ่โตมากนักจะได้ผลทำเล็กๆ ก็ได้จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่าในที่อย่างเช่นนั้นฝนก็ดีพอสมควรแต่ลงมาไม่ถูกระยะเวลาเมื่อลงมาไม่ถูกระยะเวลาฝนก็ทิ้งช่วงข้าวก็ไม่ดีวิธีแก้ก็คือต้องเก็บน้ำฝนที่ลงมาก็เกิดความคิดว่าอยากทดลองดูสักสิบไร่ในที่อย่างนั้นสามไร่จะทำเป็นบ่อน้ำคือเก็บน้ำฝนแล้วถ้าจะต้องใช้บุด้วยพลาสติกทดลองดูแล้วอีกหกไร่ทำเป็นที่นาส่วนหนึ่งไร่ที่เหลือนั้นทำเป็นที่บริการหมายถึงทางเดินหรือทำเป็นกระต๊อบหรืออะไรก็แล้วแต่หมายความว่าน้ำสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ทำนาหกสิบเปอร์เซ็นต์ก็เชื่อว่าถ้าเก็บน้ำไว้ได้หากเดิมเก็บเกี่ยวได้ไร่ละหนึ่งถึงสองถังถ้ามีน้ำเล็กน้อยอย่างนั้นก็ควรจะเก็บเกี่ยวข้าวได้ไร่ละประมาณสิบยี่สิบถัง..." ต่อมาได้มีราษฎรขอน้อมเกล้าถวายที่ดินเพื่อดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝนในท้องที่บ้านแดนสามัคคีรวม ๑๓ ไร่ ๓ งา
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ บุคคลคณะต่าง ๆ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุศิลาลัยเมื่อวันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม 2535 เกี่ยวกับการพระราชทานพระราชดำริโครงการพัฒนา พื้นที่เกษตรน้ำฝนในคราวเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่บ้านกุด ตอแก่นตำบลกุดสิมคุ้ม เก่าอำเภอเขาวงจังหวัดกาฬสินธุ์เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2535 ดังนี้
" ... ถึงเวลาก็แล่นรถไปเข้าไปถึง หมู่บ้านที่อยู่ใกล้สถานที่นั้นฝ่ายเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจทั้งช่างชลประทานไม่แน่ใจว่าจะมีทางไปถึงตรงนั้นจึงเอาชาวบ้านคนหนึ่งมาเป็นมัคคุเทศก์นำทางผู้ที่นำทางนั้น ก็นำไปแห่งหนึ่งเป็นทางแยก ที่เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาเขาบอกให้เลี้ยวซ้ายก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมเลี้ยวซ้าย แต่เขาบอกให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวซ้ายผ่านโรงเรียนผ่านโรงเรียนแล้วก็เลี้ยวขวาเลี้ยวขวานั้นก็เข้าไปในทางที่ เรียกได้ว่าลำลองอยากมาก ๆ เป็น ทางที่เขาเต้นดิสโก้กันคือที่เต้น "ดิสโก้" นี้เพราะว่ารถมันแกว่งไปแกว่งมา เหมือนเต้น "ดิสโก้" ก็เลยเรียกว่า "ทางดิสโก้" แล่น ไปตาม "ทางดิสโก้" นั้นไกลพอสมควรประมาณสักสองสาม กิโลเมตรก็ไปถึงที่แห่งเขาบอกว่าหยุดหยุดตรงนั้นมืดแล้วเห็นมี แต่นาคนนำทางก็บอกว่า "นึกอยากจะมาตรงนี้" เราก็ บอกว่าไม่ใช่อยากจะดูที่เป็น ทางน้ำที่เหมะสมกับการทำโครงการรูปร่างคล้าย ๆ เป็นแก่งเป็นอันว่ากลับกลับมา "ดิสโก้" อีกสองกิโลเมตรแล้วมาที่หมู่บ้านแล่น ตรงไปแล้วเดินอีกสองร้อยเมตรก็ ถึงที่ถูกต้องและช่างชลประทานเขา ก็เห็นว่าเหมาะสมสำหรับทำโครงการ .... แล้วมาถามชาวบ้านที่อยู่ที่ นั่นว่าเป็นอย่างไรปีนี้เขาบอกว่าเก็บข้าวได้แล้วข้าวก็อยู่ตรงนั้นกองไว้เราก็ไปดู ข้าวข้าวนั้นมีรวงจริง แต่ไม่มี เม็ดหรือรวงหนึ่งมีสักสองสามเม็ดก็หมายความว่าไร่หนึ่งคงจะได้สักประมาณสักถังเดียวหรือไม่ถึงถังต่อไร่ถามเขาทำไมเป็นเช่นนี้เขาก็บอกว่าเพราะไม่มีฝนเขาปลูก กล้าไว้แล้วเมื่อขึ้นมาก็ปัก ดำปักดำไม่ได้เพราะไม่มีน้ำก็ปักในทรายทำรูในทรายแล้วก็ปักลงไปเมื่อปักแล้วตอนกลางวันก็เฉามันงอลงไป แต่ตอนกลางคืนก็ตังตัวตั้งขึ้นมา เพราะมีน้ำค้างแล้วในที่สุดก็ได้รวง แต่ไม่มีข้าวเท่าไรอันนี้เป็นบทเรียนที่ดีเขาก็เล่าให้ฟังอย่างตรงไปตรงมาแสดงให้เห็นว่าข้าวนี้เป็นพืชที่แข็งแกร่งมากขอให้ได้น้ำค้างก็พอแม้จะเป็นข้าวธรรมดา ไม่ใช่ข้าวไร่ถ้าหากเราช่วยเขา เล็กน้อยก็สามารถที่จะได้ข้าวมากขึ้นหน่อยพอที่จะกินฉะนั้นโครงการที่จะทำมิใช่จะต้องทำโครงการใหญ่โตมากนักจะได้ผลทำเล็ก ๆ ก็ได้จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า ในที่อย่างเช่นนั้นฝนก็ดีพอ สมควร แต่ลงมาไม่ถูกระยะเวลาเมื่อลงมาไม่ถูกระยะเวลาฝนก็ทิ้งช่วงข้าวก็ไม่ดีวิธีแก้ก็คือต้องเก็บน้ำฝนที่ลงมาก็เกิดความคิดว่าอยากทดลองดู สักสิบไร่ในที่อย่างนั้นสาม ไร่จะทำเป็นบ่อน้ำคือเก็บน้ำฝนแล้วถ้าจะต้องใช้บุด้วยพลาสติกทดลองดูแล้วอีกหกไร่ทำเป็นที่นาส่วนหนึ่งไร่ที่เหลือนั้นทำเป็นที่บริการหมายถึงทางเดินหรือทำเป็นกระต๊อบหรือ อะไรก็แล้วแต่หมายความว่าน้ำสามสิบเปอร์เซ็นต์ ที่ทำนาหกสิบเปอร์เซ็นต์ก็เชื่อว่าถ้าเก็บน้ำไว้ได้หากเดิมเก็บเกี่ยวได้ไร่ละหนึ่งถึงสองถังถ้ามีน้ำเล็กน้อยอย่างนั้นก็ควรจะเก็บเกี่ยวข้าวได้ไร่ละประมาณสิบยี่สิบถัง ... "
ต่อมาได้มีราษฎรขอน้อมเกล้า ถวายที่ดินเพื่อดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรน้ำฝนในท้องที่บ้านแดนสามัคคีรวม 13 ไร่ 3 งา
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: