Objectives: Very few reports thus f

Objectives: Very few reports thus far have clinically elucidated the advantages of a nutrition support
team (NST) in the field of liver diseases. The present study retrospectively analyzed whether
nutrition therapy for liver cirrhosis (LC), performed by a multidisciplinary team that includes
registered dieticians, improves survival rates.
Methods: In study 1, we compared survival rates between two groups of patients with LC to
elucidate the effects of nutrition management by registered dieticians. The first group was
comprised of 101 patients that received no dietary counseling from a dietician, and the second
group was comprised of 133 patients that received nutritional counseling following nutrition
assessment. In study 2, we split the patients who received nutritional counseling in study 1 into
two groups and compared their survival rates with the objective of investigating the effects of a
multidisciplinary team approach on survival rate. The first group was comprised of 51 patients that,
in addition to regular nutritional counseling given by a dietician, regularly attended courses on
liver disease given every 3 to 6 mo. The second group was comprised of 82 patients that did not
attend the liver-disease courses.
Results: During study 1, 34 patients in the first group and 20 patients in the second group died,
representing a significant difference (P < 0.05). This difference was even more pronounced in the
subset of patients classified as Child-Pugh class A (P < 0.01), but no differences were seen among
patients in classes B and C (P ¼ 0.378). During study 2, four patients in the first group and 15
patients in the second group died, representing a significant difference (P < 0.05).
Conclusions: This study showed that nutritional intervention using a multidisciplinary team during
the treatment of LC improves survival rates and quality of life of the patients.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์: รายงานน้อยมากป่านนี้มีทางการแพทย์อธิบายข้อดีของการสนับสนุนโภชนาการทีม (NST) ในฟิลด์ของโรคตับ การศึกษาวิเคราะห์ย้อนหลังหรือไม่โภชนบำบัดสำหรับโรคตับแข็งตับ (LC), ดำเนินการ โดยทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีลงทะเบียน dieticians ช่วยเพิ่มอัตราการอยู่รอดวิธีการ: ในการศึกษาที่ 1 เราเปรียบเทียบอัตรารอดระหว่าง 2 กลุ่มผู้ป่วยที่มี LC ไปelucidate ผลกระทบของการจัดการโภชนาการโดยจดทะเบียน dieticians กลุ่มแรกคือประกอบด้วยผู้ป่วย 101 ที่ได้รับอาหารที่ไม่ให้คำปรึกษาจากนักโภชนาการ และที่สองกลุ่มคือประกอบด้วย 133 ผู้ป่วยที่ได้รับให้คำปรึกษาทางโภชนาการโภชนาการต่อไปการตรวจประเมิน ในการศึกษาที่ 2 เราแยกผู้ป่วยที่ได้รับโภชนาการให้คำปรึกษาในการศึกษาที่ 1 เป็นกลุ่มที่สอง และเปรียบเทียบอัตราความอยู่รอดของพวกเขา มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบผลกระทบของการแนวทางของทีมสหสาขาวิชาชีพในอัตราการอยู่รอด ประกอบด้วยกลุ่มแรกคือผู้ป่วย 51 ที่นอกเหนือจากปกติปรึกษาทางโภชนาการโดยนักโภชนาการ เป็นประจำเข้าร่วมหลักสูตรบนโรคตับที่กำหนดทุก 3-6 เดือน กลุ่มที่สองคือประกอบด้วยผู้ป่วย 82 ที่ไม่เข้าร่วมหลักสูตรโรคตับผลลัพธ์: ในระหว่างการศึกษาที่ 1, 34 ผู้ป่วยในกลุ่มแรกและ 20 ผู้ป่วยในกลุ่มที่สองเสียชีวิตแสดงถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (P < 0.05) ความแตกต่างนี้ก็ยิ่งเด่นชัดในการชุดย่อยของผู้ป่วยที่เป็นเด็กพัคห์คลาส A (P < 0.01), แต่เห็นไม่มีความแตกต่างระหว่างผู้ป่วยในชั้น B และ C (P ¼ 0.378) ในระหว่างการศึกษา 2 สี่ผู้ป่วยในกลุ่มแรกและ 15ผู้ป่วยในกลุ่มที่สองเสียชีวิต เป็นตัวแทนของความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (P < 0.05)สรุป: การศึกษานี้พบว่าแทรกแซงทางโภชนาการโดยใช้ทีมสหสาขาวิชาชีพในระหว่างการรักษาของ LC ช่วยเพิ่มอัตราการอยู่รอดและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์: รายงานน้อยมากป่านนี้ได้อธิบายทางการแพทย์ข้อดีของการสนับสนุนโภชนาการ
ทีม (NST) ในด้านของโรคตับ การศึกษาครั้งนี้ย้อนหลังวิเคราะห์ว่า
โภชนบำบัดสำหรับโรคตับแข็ง (LC) ดำเนินการโดยทีมสหสาขาวิชาชีพที่มี
dieticians จดทะเบียนช่วยเพิ่มอัตราการรอดตาย.
วิธีการ: ในการศึกษา 1 เราเมื่อเทียบกับอัตราการรอดตายระหว่างสองกลุ่มของผู้ป่วยที่มี LC ที่จะ
ชี้ให้เห็นผลกระทบ ของการจัดการด้านโภชนาการโดย dieticians จดทะเบียน กลุ่มแรกที่ได้รับ
ประกอบด้วยผู้ป่วย 101 ที่ไม่ได้รับการให้คำปรึกษาจากนักโภชนาการอาหารและที่สอง
เป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยผู้ป่วย 133 ที่ได้รับการให้คำปรึกษาทางโภชนาการต่อไปโภชนาการ
การประเมิน ในการศึกษาครั้งที่ 2 เราแยกผู้ป่วยที่ได้รับการให้คำปรึกษาทางโภชนาการในการศึกษา 1 ลงใน
สองกลุ่มและเมื่อเทียบกับอัตราการรอดตายของพวกเขากับวัตถุประสงค์ของการตรวจสอบผลของการที่
วิธีการของทีมสหสาขาวิชาชีพในอัตราการรอดตาย กลุ่มแรกประกอบด้วยผู้ป่วย 51 ที่
นอกเหนือไปจากการให้คำปรึกษาทางโภชนาการปกติที่กำหนดโดยนักโภชนาการหลักสูตรเข้าร่วมอย่างสม่ำเสมอใน
โรคตับได้รับทุก 3-6 เดือน กลุ่มที่สองประกอบด้วย 82 ของผู้ป่วยที่ไม่ได้
เข้าร่วมหลักสูตรตับโรค.
ผล: ในระหว่างการศึกษาที่ 1 ผู้ป่วย 34 อยู่ในกลุ่มแรกและผู้ป่วยที่ 20 ในกลุ่มที่สองเสียชีวิต
ที่เป็นตัวแทนของความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05) ความแตกต่างนี้ได้เด่นชัดมากยิ่งขึ้นใน
กลุ่มย่อยของผู้ป่วยจัดเป็นเด็ก Pugh ระดับ A (p <0.01) แต่ไม่มีความแตกต่างที่เห็นในหมู่
ผู้ป่วยในชั้นเรียน B และ C (P ¼ 0.378) ในระหว่างการศึกษาที่ 2, สี่ผู้ป่วยอยู่ในกลุ่มแรกและ 15
ผู้ป่วยในกลุ่มที่สองเสียชีวิตที่เป็นตัวแทนของความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05).
สรุปผลการวิจัย: การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการแทรกแซงทางโภชนาการโดยใช้ทีมสหสาขาวิชาชีพในระหว่าง
การรักษา LC ช่วยเพิ่มอัตราการรอดตายและ คุณภาพชีวิตของผู้ป่วย