The routers of the Internet would s

The routers of the Internet would still regard all the nodes on the three subnets as being located on the address prefix 157.60.0.0/16. The Internet routers would be unaware of the subnetting being done to 157.60.0.0/16 and therefore require no reconfiguration. The subnetting of an address prefix is not visible to the routers outside the network being subnetted.
When you assign IPv4 address prefixes in the form of subnet prefixes to the subnets of your organization, you should begin with one or more public address prefixes assigned by the Internet Corporation for Assigned Names and Numbers (ICANN) or an Internet service provider (ISP), the private address space (10.0.0.0/8, 172.16.0.0/12, and 192.168.0.0/16), or both. The set of starting address prefixes represent a fixed address space.
You can divide the variable portion of an IPv4 address prefix to represent additional subnets and the host IDs on each subnet. For example, the IPv4 address prefix 131.107.192.0/18 has 18 fixed bits (as the prefix length shows) and 14 variable bits (the bits in the host ID portion of the address prefix). You might determine that your organization needs up to 50 subnets. Therefore, you divide the 14 variable bits into 6 bits, which you will use to identify subnets (you can express up to 64 subnets with 6 bits) and 8 bits, which you will use to identify up to 254 host IDs on each subnet. The resulting address prefix for each subnetted address prefix has a 24-bit prefix length (the original 18 bits plus 6 bits used for subnetting).
Subnetting for IPv4 produces a set of subnetted address prefixes and their corresponding ranges of valid IPv4 addresses. By assigning subnetted address prefixes that contain an appropriate number of host IDs to the physical and logical subnets of an organization’s IPv4 network, network administrators can use the available address space in the most efficient manner possible.
Before you begin IPv4 subnetting, you must determine your organization’s current requirements and plan for future requirements. Follow these guidelines:
Determine how many subnets your network requires. Subnets include physical or logical subnets to which hosts connect and possibly private wide area network (WAN) links between sites.
Determine how many host IDs each subnet requires. Each host and router interface running IPv4 requires at least one IPv4 address.
Based on those requirements, you will define a set of subnetted address prefixes with a range of valid IPv4 addresses for each subnetted address prefix. Your subnets do not all need to have the same number of hosts; most IPv4 networks include subnets of various sizes.
Although the concept of subnetting by using host ID bits is straightforward, the actual mechanics of subnetting are a bit more complicated. Subnetting requires a three-step procedure:
Determine how many host bits to use for the subnetting.
Enumerate the new subnetted address prefixes.
Enumerate the range of IPv4 addresses for each new subnetted address prefix.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราเตอร์อินเทอร์เน็ตจะยังคงพิจารณาโหนทั้งหมดบนเครือข่ายย่อยที่สามเป็นที่อยู่ 157.60.0.0/16 นำหน้าอยู่ เราเตอร์อินเทอร์เน็ตจะการณ์ subnetting ที่กระทำไปเพื่อ 157.60.0.0/16 และดังนั้น ต้องไม่มีการกำหนดค่าใหม่ Subnetting ของคำนำหน้าเป็นอยู่จะไม่เห็นเราเตอร์ภายนอกเครือข่ายที่ subnettedเมื่อคุณกำหนดหน้าที่ที่อยู่ IPv4 ในรูปแบบของคำนำหน้าเครือข่ายกับเครือข่ายย่อยขององค์กร คุณควรเริ่มต้น ด้วยหนึ่ง หรือกำหนด โดย บริษัทอินเทอร์เน็ตสาธารณะขึ้นที่อยู่นำหน้าสำหรับกำหนดชื่อ และหมายเลข (ICANN) หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP), ส่วนตัวว่าง (10.0.0.0/8, 172.16.0.0/12 และ 192.168.0.0/16), หรือทั้งสองอย่าง ชุดเริ่มต้นที่อยู่นำหน้าแสดงถึงช่องว่างที่อยู่ถาวรคุณสามารถแบ่งส่วนตัวแปรของการนำหน้าอยู่ IPv4 เพื่อแสดงรหัสโฮสต์บนเครือข่ายแต่ละเครือข่ายย่อยเพิ่มเติม ตัวอย่าง IPv4 ที่อยู่นำหน้า 131.107.192.0/18 มีบิตถาวร 18 (เป็นรายการความยาวคำนำหน้า) และตัวแปร 14 บิต (บิตในส่วนรหัสโฮสต์ของคำนำหน้าอยู่) คุณอาจกำหนดว่า องค์กรต้องการเครือข่ายย่อยถึง 50 ดังนั้น คุณแบ่งบิตตัวแปร 14 บิต 6 ซึ่งคุณจะใช้เพื่อระบุเครือข่ายย่อย (สามารถแสดงเครือข่ายย่อยถึง 64 มี 6 bits) และ 8 บิต ซึ่งจะต้องระบุถึง 254 โฮสต์รหัสในแต่ละเครือข่าย นำหน้าอยู่ผลลัพธ์สำหรับคำนำหน้า subnetted ที่อยู่แต่ละความยาวคำนำหน้า 24 บิต (บิตเดิม 18 บวก 6 บิตใช้สำหรับ subnetting) ได้Subnetting สำหรับ IPv4 ผลิตชุด subnetted ที่อยู่นำหน้าและช่วงของพวกเขาที่สอดคล้องกันของ IPv4 ที่อยู่ที่ถูกต้อง โดยการกำหนดหมายเลขนำหน้าอยู่ subnetted ที่ประกอบด้วยหมายเลขที่เหมาะสมของโฮสต์รหัสกับเครือข่ายย่อยทางตรรกะ และทางกายภาพของเครือข่ายของ IPv4 ผู้ดูแลระบบเครือข่ายสามารถใช้พื้นที่ที่อยู่ในลักษณะมีประสิทธิภาพสูงสุดได้ก่อนที่จะเริ่ม IPv4 subnetting คุณต้องกำหนดข้อกำหนดต่าง ๆ ขององค์กรและแผนสำหรับความต้องการในอนาคต ทำตามคำแนะนำเหล่านี้:กำหนดเครือข่ายย่อยหลายวิธีต้องการเครือข่ายของคุณ เครือข่ายย่อยรวมถึงเครือข่ายทางกายภาพ หรือทางตรรกะย่อยโฮสต์ที่เชื่อมต่อและเชื่อมโยงเครือข่าย (WAN) พื้นที่กว้างอาจระหว่างไซต์กำหนดรหัสที่ต้องการแต่ละเครือข่ายย่อยโฮสต์จำนวน แต่ละโฮสต์และเราเตอร์อินเทอร์เฟซสำหรับ IPv4 ทำงานต้องใช้ที่อยู่ IPv4 น้อยขึ้นอยู่กับความต้องการ คุณจะกำหนดชุดของ subnetted ที่อยู่นำหน้า ด้วยช่วงของ IPv4 ที่อยู่ที่ถูกต้องสำหรับคำนำหน้าแต่ละที่อยู่ subnetted เครือข่ายย่อยของคุณไม่จำเป็นต้องมีหมายเลขเดียวกันของโฮสต์ เครือข่าย IPv4 ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเครือข่ายย่อยขนาดต่าง ๆแม้ว่าแนวคิดของ subnetting โดยบิตรหัสโฮสต์จะตรงไปตรงมา กลศาสตร์ที่แท้จริงของ subnetting ที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น Subnetting ต้องขั้นตอนสามขั้นตอน:กำหนดจำนวนโฮสต์บิตจะใช้สำหรับการ subnettingระบุหมายเลขนำหน้า subnetted ที่อยู่ใหม่ระบุช่วงของ IPv4 อยู่สำหรับแต่ละคำนำหน้า subnetted ที่อยู่ใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราเตอร์ของอินเทอร์เน็ตจะยังคงถือว่าโหนดทั้งหมดที่อยู่ในเครือข่ายย่อยที่สามที่ถูกตั้งอยู่บนคำนำหน้าอยู่ 157.60.0.0/16 เราเตอร์อินเทอร์เน็ตจะไม่รู้ subnetting ถูกดำเนินการเพื่อ 157.60.0.0/16 และดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการคอนฟิเกอร์ไม่มี subnetting คำนำหน้าอยู่จะไม่สามารถมองเห็นได้เราเตอร์นอกเครือข่ายที่มีการ subnetted.
เมื่อคุณกำหนด IPv4 ที่อยู่คำนำหน้าในรูปแบบของคำนำหน้าเครือข่ายย่อยเพื่อเครือข่ายย่อยขององค์กรของคุณคุณควรเริ่มต้นด้วยหนึ่งหรือคำนำหน้าอยู่ของประชาชนได้รับมอบหมายจาก Internet Corporation สำหรับมอบหมายชื่อและหมายเลข (ICANN) หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ที่อยู่พื้นที่ส่วนตัว (10.0.0.0/8, 172.16.0.0/12 และ 192.168.0.0/16) หรือทั้งสอง ชุดของการเริ่มต้นนำหน้าอยู่เป็นตัวแทนของพื้นที่ที่อยู่คงที่.
คุณสามารถแบ่งส่วนตัวแปรของคำนำหน้าอยู่ IPv4 จะเป็นตัวแทนของเครือข่ายย่อยเพิ่มเติมและรหัสโฮสต์บนเครือข่ายย่อยในแต่ละ ยกตัวอย่างเช่นคำนำหน้าอยู่ IPv4 131.107.192.0/18 มี 18 บิตคงที่ (ความยาวคำนำหน้าแสดง) และ 14 บิตตัวแปร (บิตในส่วน ID โฮสต์ของคำนำที่อยู่) คุณอาจจะตรวจสอบว่าองค์กรของคุณต้องการได้ถึง 50 เครือข่ายย่อย ดังนั้นคุณแบ่ง 14 บิตตัวแปรเป็น 6 บิตที่คุณจะใช้เพื่อระบุเครือข่ายย่อย (คุณสามารถแสดงได้ถึง 64 เครือข่ายย่อยที่มี 6 บิต) และ 8 บิตที่คุณจะใช้เพื่อระบุถึง 254 รหัสเจ้าภาพในแต่ละเครือข่ายย่อย คำนำหน้าอยู่ผลสำหรับแต่ละคำนำหน้าอยู่ subnetted มีความยาวคำนำหน้า 24 บิต (เดิม 18 บิตบวก 6 บิตใช้สำหรับ subnetting).
Subnetting สำหรับ IPv4 ผลิตชุดของคำนำหน้าอยู่ subnetted และช่วงที่สอดคล้องกันของพวกเขาที่อยู่ IPv4 ที่ถูกต้อง โดยการกำหนดคำนำหน้าอยู่ subnetted ที่มีจำนวนที่เหมาะสมของรหัสเจ้าภาพเครือข่ายย่อยทางกายภาพและตรรกะของเครือข่าย IPv4 ขององค์กรผู้ดูแลระบบเครือข่ายสามารถใช้พื้นที่ที่อยู่ที่มีอยู่ในลักษณะที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด.
ก่อนที่จะเริ่ม IPv4 subnetting คุณต้องกำหนดของคุณ องค์กรความต้องการในปัจจุบันและวางแผนสำหรับความต้องการในอนาคต
ปฏิบัติตามแนวทางนี้กำหนดวิธีการหลายเครือข่ายย่อยในเครือข่ายของคุณต้องการ รวมถึงเครือข่ายย่อยเครือข่ายย่อยทางร่างกายหรือตรรกะที่โฮสต์และอาจจะเชื่อมต่อเครือข่ายบริเวณกว้างเอกชน (WAN) การเชื่อมโยงระหว่างเว็บไซต์.
กำหนดวิธีการหลายรหัสแต่ละพื้นที่ต้องใช้เครือข่ายย่อย แต่ละโฮสต์และอินเตอร์เฟซที่เราเตอร์ IPv4 ทำงานต้องมีอย่างน้อยหนึ่งที่อยู่ IPv4.
อยู่บนพื้นฐานของความต้องการเหล่านั้นคุณจะกำหนดชุดของคำนำหน้า subnetted อยู่กับช่วงที่อยู่ IPv4 ที่ถูกต้องสำหรับแต่ละคำนำหน้าอยู่ subnetted เครือข่ายย่อยของคุณไม่ได้ทั้งหมดจะต้องมีหมายเลขเดียวกันของจอมโยธา เครือข่ายส่วนใหญ่รวมถึงเครือข่ายย่อย IPv4 ขนาดต่างๆ.
แม้ว่าแนวคิดของ subnetting โดยใช้บิตโฮสต์ ID คือตรงไปตรงมากลศาสตร์ที่แท้จริงของ subnetting เป็นบิตซับซ้อนมากขึ้น Subnetting ต้องมีขั้นตอนที่สามขั้นตอน:
กำหนดวิธีการหลายโฮสต์บิตที่จะใช้สำหรับ subnetting.
ระบุคำนำหน้าอยู่ subnetted ใหม่.
ระบุช่วงของ IPv4 ที่อยู่สำหรับคำนำหน้าอยู่ subnetted ใหม่ในแต่ละ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เตอร์ของอินเทอร์เน็ตจะยังคงพิจารณาโหนดทั้งหมดบนสาม subnets ถูกตั้งอยู่บนที่อยู่นำหน้า 157.60.0.0/16 . อินเทอร์เน็ตเราเตอร์จะเผลอของ subnetting ถูกทำเพื่อ 157.60.0.0/16 และดังนั้นจึงต้องไม่มีปรับ . การ subnetting ของที่อยู่นำหน้าคือมองไม่เห็นกับเราเตอร์ภายนอกเครือข่ายการ subnetted .
เมื่อคุณกำหนดที่อยู่ IPv4 ที่ใช้ในรูปแบบของคำนำหน้า subnet เพื่อเครือข่ายย่อยขององค์กรของคุณ คุณควรเริ่มต้นด้วยหนึ่งหรือมากกว่าที่อยู่สาธารณะคำนำหน้า ได้รับมอบหมายจากบริษัทอินเทอร์เน็ตสำหรับมอบหมายชื่อและหมายเลข ( ICANN ) หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ( ISP ) , พื้นที่ที่อยู่ส่วนตัว ( 10.0.0.0/8 172.16.0.0/12 และ 192.168.0.0 / 16 , ) หรือทั้งสองอย่างชุดเริ่มต้นที่อยู่คำนำหน้าแสดงถาวรที่อยู่พื้นที่ .
คุณสามารถแบ่งตัวแปรส่วนของ IPv4 ที่อยู่นำหน้าที่จะเป็นตัวแทนของเครือข่ายย่อยเพิ่มเติมและโฮสต์รหัสในแต่ละ subnet ตัวอย่างเช่น , IPv4 ที่อยู่นำหน้า 131.107.192.0/18 มี 18 แก้ไขบิต ( เป็น prefix ยาวแสดงให้เห็น ) และ 14 ตัวแปรบิต ( บิตในส่วนของ Host ID ที่อยู่นำหน้า )คุณอาจจะตรวจสอบว่าองค์กรของคุณต้องการถึง 50 subnets . ดังนั้น คุณแบ่ง 14 ตัวแปรบิตออกเป็น 6 บิต ซึ่งจะใช้เพื่อระบุเครือข่ายย่อย ( คุณสามารถแสดงได้ถึง 64 subnets กับ 6 บิต ) และ 8 บิตที่คุณจะใช้เพื่อระบุถึง 254 โฮสต์รหัสในแต่ละ subnetผลที่อยู่สำหรับคำนำหน้าแต่ละ subnetted ที่อยู่มีความยาวคำนำหน้าคำนำหน้า 24 บิต ( เดิม 18 บิตบวก 6 บิตที่ใช้สำหรับ subnetting )
subnetting สำหรับ IPv4 ผลิตชุดของ subnetted ที่อยู่คำนำหน้าและช่วงที่สอดคล้องกันของที่อยู่ IPv4 ที่ถูกต้องโดยให้ subnetted คำนำหน้าที่อยู่ที่มีจำนวนที่เหมาะสมของรหัสเจ้าบ้านที่ subnets ทางกายภาพและตรรกะของเครือข่าย IPv4 ขององค์กร ผู้บริหารเครือข่ายสามารถใช้พื้นที่ที่อยู่ที่ใช้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ก่อนที่จะเริ่มจัดการ
subnetting คุณต้องกำหนดความต้องการขององค์กรของคุณ ปัจจุบัน และวางแผนสำหรับความต้องการในอนาคตตามหลักเกณฑ์เหล่านี้ :
กําหนดจํานวน subnets เครือข่ายของคุณต้องการ เครือข่ายย่อยที่ประกอบด้วยเครือข่ายย่อยทางกายภาพหรือทางตรรกะที่โฮสต์ที่เชื่อมต่อและอาจจะส่วนตัวเครือข่ายบริเวณกว้าง ( WAN ) การเชื่อมโยงระหว่างเว็บไซต์ .
กําหนดจํานวนโฮสต์รหัสแต่ละ subnet ต้อง . แต่ละโฮสต์เราเตอร์อินเตอร์เฟซและใช้ IPv4 ต้องมีอย่างน้อยหนึ่ง IPv4 ที่อยู่
ตามความต้องการเหล่านั้นคุณจะกำหนดชุดของ subnetted ที่อยู่คำนำหน้ากับช่วงที่อยู่ IPv4 ที่ถูกต้องสำหรับแต่ละ subnetted ที่อยู่อุปสรรค . เครือข่ายย่อยของคุณไม่ต้องมีหมายเลขเดียวกันของโฮสต์ ; เครือข่าย IPv4 มากที่สุดรวมถึงเครือข่ายย่อยขนาดต่าง ๆ .
แม้ว่าแนวคิดของ subnetting โดยใช้ Host ID บิตตรงไปตรงมา กลไกที่แท้จริงของ subnetting เป็นบิตที่ซับซ้อนมากขึ้น .subnetting ต้องมีขั้นตอนกระบวนการ :
กําหนดจํานวนโฮสต์บิตที่จะใช้สำหรับ subnetting .
ระบุที่อยู่ใหม่ subnetted คำนำหน้า .
ระบุช่วงที่อยู่ IPv4 สำหรับแต่ละใหม่ subnetted ที่อยู่อุปสรรค .