Figure 2 shows a typical honeycomb

Figure 2 shows a typical honeycomb pattern (a) and a plain pattern (b), as well as their corresponding fabric geometries on the right-hand side. The yarn path in the honeycomb fabric contains an interwoven curve and straight float. The length and altitude of the yarn float along the warp and weft directions are both increasing and then decreasing gradually and simultaneously, showing a periodicity and forming repeats of inverted pyramidal space on both sides of fabric.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปที่ 2 แสดงรูปแบบรังผึ้งทั่วไป (ก) และรูปแบบธรรมดา (b) เป็นรูปทรงเรขาคณิตที่สอดคล้องกันของผ้าทางด้านขวามือ เส้นด้ายในผ้ารังผึ้งประกอบด้วยการกรองโค้งและตรงลอย ความยาวและระดับความสูงลอยเส้นด้ายตามแนวทิศทาง warp และมนุษย์มีทั้งเพิ่ม และลดลงเรื่อย ๆ และพร้อมกัน แสดงประจำงวดที่ แล้วขึ้นทำซ้ำพื้นที่ pyramidal กลับบนทั้งสองด้านของผ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปที่ 2 แสดงรูปแบบรังผึ้งทั่วไป (ก) และรูปแบบธรรมดา (ข) เช่นเดียวกับรูปทรงเรขาคณิตผ้าที่สอดคล้องกันของพวกเขาในด้านขวามือ เส้นทางเส้นด้ายในผ้ารังผึ้งมีเส้นโค้งสานและลอยตรง ความยาวและความสูงของเส้นด้ายลอยพร้อมวิปริตและทิศทางที่เหลือมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลงแล้วค่อยๆและพร้อมเผยให้เห็นช่วงและกลายเป็นซ้ำของพื้นที่เสี้ยมคว่ำทั้งสองด้านของผ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 2 แสดงรูปแบบรังผึ้งทั่วไป ( ) และแบบธรรมดา ( B ) ตลอดจนสอดคล้องกับผ้ารูปทรงเรขาคณิตบนด้านขวามือ เส้นด้ายในผ้ารังผึ้ง เส้นทางมีโค้ง interwoven และลอยตรง ความยาวและความสูงของเส้นด้ายและผ้าบิดลอยตามเส้นทางมีทั้งเพิ่มขึ้นและลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป และพร้อมกันแสดงรูปของปิรามิดกลับหัวและโลหิตซ้ำพื้นที่ทั้งสองด้านของผ้า