Hyperthermia’s history starts from

Hyperthermia’s history starts from the ancient times when it was described as a cancer treatment in the ancient Indian epic, the Ramayana. Hyperthermia has been mentioned by the great Greek physician, Hippocrates (400 B.C.), Cornelius Celsus Aulus, Roman encyclopedic doctor (25 BC - 50 AD) and by Gallen (200 A.D.), Roman physician and philosopher (1). The description by Hippocrates that “if a tumor cannot be cut, it should burned. If it cannot be burned, then it is incurable” actually holds relevant to many types of cancers even today (1).

In the middle ages, instruments were designed and shaped for application of heat to kill tumours or cauterize bleeding. Hyperthermia in the middle ages have been described by Leonidas - Nicolaus Leonicenus (1428- 1524), a professor of medicine in Padua (2). After the Renaissance period, there were reports that patients with smallpox, influenza, tuberculosis and malaria experienced spontaneous tumor regression. However in 1537, Ambroise Paré, military surgeon described the adverse consequences of medical treatment by cauterization which led to declining interest in Hyperthermia. In 1779, the effect of malaria on malignant tumours was described by Dr Kizowitz (2).

In modern times, the German physician Busch’s observation in 1887 that erysipelas resulted in disappearance of sarcoma on the face in a patient rekindled the interest in Hyperthermia. An American doctor W.B. Colley used bacterial toxin as to artificially create fever thereby producing heat to treat tumours. Westermark in 1898 used circulating high temperature water for the treatment of an inoperable cancer of uterine cervix with good results. After the advent of electricity, electric current started to be used for delivering heat to the diseased tissues and it was termed galvanocautery. John Byrne (1825 – 1902) invented a special liquid storage battery to supply electric current to cauterize pathological changes of the uterus and the results of his twenty year study on the effects of treatment of the uterus and cervix tumors in 367 patients were complied in a text in 1889. Enrico Bottini in 1874 invented a device for firing prostate cancer cauterization named as "cauterio termogalvanico" (2). Then high frequency currents using electromagnetism were employed to induce heat. Despite sporadic reports of hyperthermia being used for cancer treatment was doing rounds for several ages, the lack of advanced methods to apply heat and measure temperature accurately were not available leading to the mixed results in early clinical applications of hyperthermia for cancer treatment (2).

After the World War II, as radiotherapy gained attention for treatment of tumours, interest in hyperthermia began to decline further but there were still research going on hyperthermia. The growing consensus in the 1970s that heat increases radiation damage to cells in vitro led to the First International Symposium on heat and radiation to treat cancer in Washington in 1975 but the symposium had only 70 attendees. However the 5th symposium held in Japan in 1988 had more than 800 participants.

A hyperthermia group was formed in the US in 1981 and an Institute was established in Europe in 1983. In Japan, hyperthermia research started in 1978 with the establishment of the Japanese Society of Hyperthermia Oncology in 1984. The research in identification of the most appropriate heating devices for hyperthermia first saw the advent of the microwave heating techniques and ultrasound techniques for hyperthermia. Early microwave devices had limitations like under heating problems and the longer wavelength at the frequencies at which these devices operate made it difficult to focus on tumours (3). The disadvantages with the use of ultrasound are bone heating, large reflection in bone-tissue interfaces, high impedance mismatch between air and soft tissues, unsuitability for lung and abdominal cancers and requirement of coupling (4).

It was then that intensive research was undertaken to design a device with ability to heat both superficial and deep tissue and the result of these intensive researches was the development of Thermotron- RF8 capacitive heating device which uses radiofrequency waves for inducing hyperthermia. Seven Clinical trials were undertaken to arrive at continuous improvements in the Thermotron RF 8. Thermotron RF 8 was approved by the Ministry of Health, Labour and Welfare of Japan as a cancer treatment apparatus in 1984. A seven institution trial in 1990 on the Thermotron RF 8 hyperthermia treatment given to 177 patients with deep-seated tumors in combination with radiation therapy alone (96 patients) or with radiochemotherapy (81 patients) indicated that hyperthermia was one of the most effective treatment techniques for advanced or inoperable cases and that response rates and symptomatic improvement were perceived to be higher than expected for historical controls treated with radiation therapy or chemotherapy alone (5, 6). The Thermotron RF 8 is now being used worldwide as a clinical hyperthermia system.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติของภาวะไข้สูงเริ่มตั้งแต่โบราณเมื่อมันถูกอธิบายว่า การรักษามะเร็งในกาพย์อินเดียในสมัยโบราณ รามายนะ มีการกล่าวถึงภาวะไข้สูง โดยดีกรีก แพทย์ Hippocrates (400 บี) Cornelius Celsus Aulus แพทย์สารานุกรมโรมัน (25 BC - 50 AD) และกัลเลน (คศ. 200), โรมันแพทย์และนักปรัชญา (1) คำอธิบาย โดย Hippocrates ว่า "ถ้าไม่สามารถตัดเนื้องอก มันควรเขียน ถ้าไม่สามารถเขียนได้ แล้วมันเป็นนี้"จริงเก็บเกี่ยวข้องกับมะเร็งทุกวันนี้ (1) หลายชนิด ในยุคกลาง เครื่องมือถูกออกแบบ และทรงใช้ความร้อนฆ่าเนื้องอก หรือ cauterize เลือด ภาวะไข้สูงในยุคกลางได้รับการอธิบาย โดยมากที่สุด - Nicolaus Leonicenus (1428-1524), อาจารย์แพทย์ในปาดัว (2) หลังจากรอบระยะเวลาเรเนซองส์ มีรายงานว่า ผู้ป่วยที่ มีไข้ทรพิษ ไข้หวัด วัณโรค และมาลาเรียมีประสบการณ์เนื้องอกอยู่ถดถอย อย่างไรก็ตาม ใน 1537, Ambroise Paré แพทย์ทหารอธิบายผลร้ายของการรักษาพยาบาล โดย cauterization ซึ่งนำไปคำนวณดอกเบี้ยในภาวะไข้สูง ในเลขที่ 1779 ผลของมาลาเรียเนื้องอกร้ายถูกอธิบาย โดยดร. Kizowitz (2)ในยุค การสังเกตของบุชค์ราคาแพทย์เยอรมันใน 1887 ที่ erysipelas ผลในการหายตัวไปของ sarcoma บนใบหน้าในผู้ป่วย rekindled สนใจในภาวะไข้สูง การแพทย์อเมริกันนคอลลีย์ W.B. ใช้พิษแบคทีเรียเพื่อสร้างผลผลิตความร้อนไข้เหือดเพื่อรักษาเนื้องอก Westermark ใน 1898 ใช้หมุนเวียนน้ำอุณหภูมิสูงสำหรับการรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกมดลูกกับผลลัพธ์ที่ดีใช้งานไม่ หลังจากถือกำเนิดไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าเริ่มต้นที่จะใช้สำหรับส่งความร้อนกับเนื้อเยื่อเส้น และจะถูกเรียกว่า galvanocautery จอห์น Byrne (1825-1902) คิดค้นพิเศษของเหลวเก็บแบตเตอรี่จัดกระแสไฟฟ้าเพื่อ cauterize การเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาของมดลูก และมีกำกับผลการศึกษาของเขา 20 ปีผลของการรักษาเนื้องอกมดลูกและปากมดลูกในผู้ป่วยที่ 367 ในข้อความในจาก 1889 Bottini สอร์ทส์ใน 1874 คิดค้นอุปกรณ์สำหรับยิง cauterization มะเร็งต่อมลูกหมากที่ได้ชื่อว่าเป็น "cauterio termogalvanico" (2) กระแสความถี่สูงที่ใช้แรงแม่เหล็กไฟฟ้าจากนั้น ถูกจ้างเพื่อก่อให้เกิดความร้อน แม้จะมีรายงานของภาวะไข้สูงจะใช้สำหรับการรักษามะเร็งทำรอบสำหรับวัยต่าง ๆ การขาดวิธีการขั้นสูงการใช้ความร้อน และวัดอุณหภูมิได้อย่างถูกต้องไม่พร้อมใช้งานนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ผสมในช่วงใช้งานทางคลินิกของภาวะไข้สูงสำหรับรักษาโรคมะเร็ง (2)หลังจากสงครามโลก เป็นการฉายแสงที่ได้รับความสนใจในการรักษาเนื้องอก สนใจในภาวะไข้สูงเริ่มลดลงอีก แต่ยังคงมีการวิจัยภาวะไข้สูงที่เกิดขึ้น มติเติบโตในทศวรรษ 1970 ให้ความร้อนเพิ่มขึ้นรังสีทำลายเซลล์เพาะเลี้ยงนำไปวิชาการนานาชาติครั้งแรกในความร้อนและรังสีในการรักษามะเร็งในวอชิงตันในปี 1975 แต่วิชาการที่มีผู้เข้าร่วมประชุม 70 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม วิชาการ 5 ที่จัดขึ้นในญี่ปุ่นในปี 1988 มีผู้เข้าร่วมกว่า 800กลุ่มภาวะไข้สูงก่อตั้งขึ้นในสหรัฐอเมริกาในปี 1981 และสถาบันที่ก่อตั้งขึ้นในยุโรปในปี 1983 ในญี่ปุ่น ภาวะไข้สูงวิจัยเริ่มในปี 1978 ด้วยการจัดตั้งญี่ปุ่นสังคมของภาวะไข้สูงมะเร็งวิทยาในปี 1984 การวิจัยในรหัสของอุปกรณ์ทำความร้อนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับภาวะไข้สูงแรกเห็นถือกำเนิดไมโครเวฟความร้อนเทคนิคและเทคนิคซาวด์สำหรับภาวะไข้สูง ช่วงไมโครเวฟอุปกรณ์มีข้อจำกัดเช่นภายใต้ปัญหาความร้อน และความยาวคลื่นยาวที่ความถี่ที่มีอุปกรณ์เหล่านี้ทำให้มันยากไปเน้นเนื้องอก (3) ข้อเสีย มีการใช้อัลตร้าซาวด์มีกระดูกความร้อน สะท้อนขนาดใหญ่ในอินเทอร์เฟซของเนื้อเยื่อกระดูก ความต้านทานสูงไม่ตรงกันระหว่างอากาศและเนื้อเยื่ออ่อน unsuitability สำหรับปอด และมะเร็งช่องท้อง และความต้องการของ coupling (4)วิจัยที่เร่งรัดดำเนินการออกแบบอุปกรณ์ที่ มีความสามารถในการกันความร้อนทั้งสองอย่างผิวเผิน และเนื้อเยื่อที่ลึกและผลของงานวิจัยเหล่านี้เร่งรัดมีการพัฒนาอุปกรณ์ควบคุมความร้อน Thermotron - RF8 ซึ่งใช้คลื่น radiofrequency inducing ภาวะไข้สูงได้ 7 คลินิกได้ดำเนินการมาปรับปรุงอย่างต่อเนื่องใน Thermotron RF 8 Thermotron RF 8 ได้อนุมัติกระทรวงสุขภาพ แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่นเป็นอุปกรณ์รักษาโรคมะเร็งในปี 1984 สถาบัน 7 ทดลองในปี 1990 ในการรักษาภาวะไข้สูง Thermotron RF 8 ให้ไป 177 ผู้ป่วยเนื้องอกฝังลึกร่วม กับรังสีบำบัด (ผู้ป่วย 96) หรือ radiochemotherapy (ผู้ป่วย 81) ระบุ ว่า ภาวะไข้สูงเป็นหนึ่งในเทคนิคการรักษามีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับกรณีขั้นสูง หรือใช้งานไม่ และที่อัตราการตอบสนองและปรับปรุงอาการมีการรับรู้จะสูงกว่าที่คาดสำหรับควบคุมประวัติศาสตร์ที่รับการรักษา ด้วยรังสีบำบัดหรือเคมีบำบัดเพียงอย่างเดียว (5 , 6). Thermotron RF 8 ตอนนี้กำลังใช้ทั่วโลกเป็นระบบคลินิกภาวะไข้สูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติศาสตร์ Hyperthermia เริ่มตั้งแต่สมัยโบราณเมื่อมันถูกอธิบายว่าเป็นการรักษาโรคมะเร็งในมหากาพย์ของอินเดียโบราณรามเกียรติ์ Hyperthermia ได้รับการกล่าวถึงโดยแพทย์ชาวกรีกที่ดีฮิปโปเครติส (400 BC) คอร์นีเลีย Celsus Aulus แพทย์โรมันสารานุกรม (25 ปีก่อนคริสตกาล - ค.ศ. 50) และเลิน (200 AD) แพทย์ชาวโรมันและนักปรัชญา (1) คำอธิบายโดย Hippocrates ว่า "ถ้าเป็นเนื้องอกไม่สามารถตัดก็ควรเผา ถ้ามันไม่สามารถจะถูกเผาไหม้แล้วมันเป็นที่รักษาไม่หาย "จริงถือที่เกี่ยวข้องกับหลายประเภทของการเกิดโรคมะเร็งแม้วันนี้ (1). ในยุคกลางเครื่องมือได้รับการออกแบบและรูปสำหรับการประยุกต์ใช้ความร้อนในการฆ่าเนื้องอกหรือกัดกร่อนเลือดออก Hyperthermia ในยุคกลางได้รับการอธิบายโดยลีโอนิดา - นิโค Leonicenus (1428- 1524), ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ในปาดัว (ที่ 2) หลังจากช่วงเวลาที่เรเนซองส์มีรายงานว่าผู้ป่วยที่มีดาษไข้หวัดใหญ่วัณโรคและมาลาเรียที่มีประสบการณ์การถดถอยเนื้องอกที่เกิดขึ้นเอง อย่างไรก็ตามใน 1537, Ambroise Paréศัลยแพทย์ทหารอธิบายผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ของการรักษาพยาบาลโดยการสนทนาซึ่งนำไปสู่การลดลงของความสนใจใน Hyperthermia ใน 1779, ผลกระทบของโรคมาลาเรียในเนื้องอกมะเร็งได้รับการอธิบายโดยดร Kizowitz (2). ในยุคปัจจุบันที่แพทย์ชาวเยอรมันสังเกตของบุชในปี 1887 ที่ไฟลามทุ่งผลในการหายตัวไปของเนื้องอกบนใบหน้าในผู้ป่วยตาลุกความสนใจใน Hyperthermia แพทย์อเมริกันยินดี Colley ใช้สารพิษของแบคทีเรียที่จะสร้างเทียมไข้จึงผลิตความร้อนในการรักษาเนื้องอก Westermark ในปี 1898 ที่ใช้การไหลเวียนของน้ำที่มีอุณหภูมิสูงสำหรับการรักษามะเร็งปากมดลูกผ่าตัดมดลูกที่มีผลดี หลังจากการถือกำเนิดของไฟฟ้ากระแสไฟฟ้าเริ่มต้นที่จะนำมาใช้สำหรับการส่งมอบความร้อนให้เนื้อเยื่อที่เป็นโรคและมันก็เรียกว่าระบบไฟฟ้า จอห์นเบิร์น (1825 - 1902) คิดค้นแบตเตอรี่เก็บของเหลวที่พิเศษในการจ่ายกระแสไฟฟ้าในการกัดกร่อนเปลี่ยนแปลงทางพยาธิสภาพของมดลูกและผลของการศึกษาของเขายี่สิบปีเกี่ยวกับผลกระทบของการรักษาของมดลูกและเนื้องอกปากมดลูกใน 367 ผู้ป่วยที่ได้รับการปฏิบัติใน ข้อความในปี 1889 Enrico Bottini 1874 ในการประดิษฐ์คิดค้นอุปกรณ์สำหรับการยิงสนทนามะเร็งต่อมลูกหมากชื่อเป็น "cauterio termogalvanico" (2) จากนั้นกระแสความถี่สูงโดยใช้แม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกว่าจ้างที่จะทำให้เกิดความร้อน แม้จะมีรายงานเป็นระยะ ๆ ของ hyperthermia ถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งที่ได้รับการทำรอบสำหรับทุกวัยหลายขาดวิธีการขั้นสูงที่จะใช้ความร้อนและอุณหภูมิที่วัดได้อย่างถูกต้องไม่สามารถใช้ได้ที่นำไปสู่ผลการผสมในการใช้งานทางคลินิกเริ่มต้นของ hyperthermia สำหรับการรักษาโรคมะเร็ง (2) หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองในขณะที่การรักษาด้วยรังสีได้รับความสนใจในการรักษาเนื้องอกที่น่าสนใจใน hyperthermia เริ่มลดลงต่อไป แต่ก็ยังคงมีการวิจัยที่เกิดขึ้น hyperthermia มติที่เพิ่มขึ้นในปี 1970 ที่เพิ่มความร้อนรังสีความเสียหายให้กับเซลล์ในหลอดทดลองนำไปสู่การประชุมวิชาการนานาชาติครั้งแรกในความร้อนและรังสีในการรักษามะเร็งในกรุงวอชิงตันในปี 1975 แต่การประชุมสัมมนามีผู้เข้าร่วมประชุมเพียง 70 อย่างไรก็ตามการประชุมสัมมนาครั้งที่ 5 ที่จัดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นในปี 1988 มีกว่า 800 ผู้เข้าร่วม. กลุ่ม hyperthermia ถูกที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในปี 1981 และสถาบันก่อตั้งขึ้นในยุโรปในปี 1983 ในประเทศญี่ปุ่นวิจัย hyperthermia เริ่มต้นในปี 1978 มีการจัดตั้งสมาคมญี่ปุ่น Hyperthermia ของมะเร็งในปี 1984 การวิจัยในตัวของอุปกรณ์ให้ความร้อนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ hyperthermia ครั้งแรกที่เห็นการถือกำเนิดของเทคนิคความร้อนจากไมโครเวฟและเทคนิคอัลตราซาวนด์สำหรับ hyperthermia อุปกรณ์ไมโครเวฟต้นมีข้อ จำกัด เช่นภายใต้ปัญหาความร้อนและความยาวคลื่นที่ความถี่ที่ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ทำงานทำให้มันยากที่จะมุ่งเน้นเนื้องอก (3) ข้อเสียที่มีการใช้อัลตราซาวนด์ที่มีความร้อนกระดูกสะท้อนขนาดใหญ่ในการเชื่อมต่อกระดูกเนื้อเยื่อตรงกันความต้านทานสูงระหว่างอากาศและเนื้อเยื่ออ่อนไม่เหมาะสมสำหรับมะเร็งปอดและมะเร็งในช่องท้องและความต้องการของการมีเพศสัมพันธ์ (4). มันถูกแล้วที่การวิจัยอย่างเข้มข้นได้ดำเนินการ ในการออกแบบอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการให้ความร้อนทั้งเนื้อเยื่อตื้นและลึกและผลจากการวิจัยอย่างเข้มข้นเหล่านี้คือการพัฒนาของอุปกรณ์เครื่องทำความร้อน Thermotron- RF8 capacitive ที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุในการกระตุ้น hyperthermia เซเว่นการทดลองทางคลินิกกำลังดำเนินการที่จะมาถึงปรับปรุงอย่างต่อเนื่องใน Thermotron RF 8. Thermotron RF 8 ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการของประเทศญี่ปุ่นเป็นอุปกรณ์การรักษาโรคมะเร็งในปี 1984 การทดลองสถาบันเจ็ดในปี 1990 ใน Thermotron RF 8 การรักษา hyperthermia มอบให้กับ 177 ผู้ป่วยที่มีเนื้องอกที่ฝังลึกในการทำงานร่วมกับการรักษาด้วยการฉายรังสีเพียงอย่างเดียว (96 ราย) หรือ radiochemotherapy (81 ราย) ชี้ให้เห็นว่า hyperthermia เป็นหนึ่งในเทคนิคการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับกรณีขั้นสูงหรือปฏิบัติไม่ได้และอัตราการตอบสนองและ ปรับปรุงอาการถูกมองว่าจะสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้สำหรับการควบคุมประวัติศาสตร์รับการรักษาด้วยการฉายรังสีหรือเคมีบำบัดเพียงอย่างเดียว (5, 6) RF Thermotron 8 ขณะนี้ถูกใช้ทั่วโลกเป็นระบบ hyperthermia ทางคลินิก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และเริ่มประวัติศาสตร์จากสมัยโบราณเมื่อมีการอธิบายว่า การรักษาโรคมะเร็งในอินเดียสมัยโบราณมหากาพย์ รามเกียรติ์ และได้รับการกล่าวถึงโดยแพทย์ชาวกรีกที่ยิ่งใหญ่ , Hippocrates ( 400 ปีก่อนคริสตกาล ) คอร์เนเลียสเซลซัสเอาลุส หมอโรมันสารานุกรม ( 25 ก่อนคริสต์ศักราช - ค.ศ. 50 ) และ โดย กัลเลน ( 200 A.D . ) แพทย์และนักปรัชญาโรมัน ( 1 )อธิบายโดยฮิปโปกราเตส " หากเนื้องอกไม่สามารถตัดมันควรจะถูกเผา ถ้ามันไม่ได้ถูกเผา มันรักษาไม่หาย " แล้วถือที่เกี่ยวข้องกับหลายประเภทของมะเร็งแม้วันนี้ ( 1 )

ในยุคกลาง เครื่องมือถูกออกแบบและรูปร่างสำหรับการประยุกต์ใช้ความร้อนฆ่าเนื้องอก หรือจี้ที่เลือดออกhyperthermia ในยุคกลางที่ได้รับการอธิบายโดยลีโอนีดาส - นิโคลัส leonicenus ( 1428 - 1 , 524 ) , ศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ใน Padua ( 2 ) หลังจากระยะเวลาของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา มีรายงานว่า ผู้ป่วยด้วยโรคฝีดาษ ไข้หวัดใหญ่ วัณโรค และมาลาเรีย ที่มีประสบการณ์จากการถดถอยเนื้องอก . อย่างไรก็ตาม ใน ambroise par é , ,ศัลยแพทย์ทหารอธิบายผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ของการรักษาพยาบาล โดยกัดสิ่งสกปรกซึ่งนำไปสู่ความสนใจในอุณหภูมิลดลง . ในฝ่ายผลของโรคมาลาเรียในเนื้อร้ายเนื้องอกได้อธิบายโดย ดร kizowitz ( 2 ) .

ในสมัยใหม่แพทย์เยอรมัน บุช สังเกตการณ์ใน 1887 ว่าไฟลามทุ่งมีผลในการหายตัวไปของก้อนเนื้อมะเร็งบนใบหน้าในผู้ป่วย rekindled ความสนใจในและ . การใช้แบคทีเรียสารพิษบแพทย์อเมริกัน คอลลีย์สร้างไข้เทียม เป็นงบผลิตความร้อนเพื่อรักษาเนื้องอกwestermark ใน 1898 ใช้หมุนเวียนน้ำอุณหภูมิสูงสำหรับการรักษามะเร็งปากมดลูกเนื้องอกของมดลูกกับผลลัพธ์ที่ดี หลังจากการมาถึงของกระแสไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าเริ่มที่จะใช้สำหรับส่งความร้อนไปยังเนื้อเยื่อที่เป็นโรคและมันเป็น termed galvanocautery .จอห์นเบิร์น ( 1825 – 1902 ) คิดค้นแบตเตอรี่กระเป๋าพิเศษที่เป็นของเหลวในการจัดหากระแสไฟฟ้าให้จี้ที่ผิดปกติของมดลูกและผลของเขายี่สิบปี การศึกษาผลของการรักษาเนื้องอกในมดลูกและมดลูกให้ผู้ป่วยปฏิบัติตามในข้อความใน 1889ริโก bottini ใน 1874 ประดิษฐ์อุปกรณ์สำหรับยิงมะเร็งต่อมลูกหมากกัดสิ่งสกปรก ได้ชื่อว่าเป็น " cauterio termogalvanico " ( 2 ) แล้วกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูงโดยใช้แบบสอบถามเพื่อให้เกิดความร้อน แม้จะมีรายงานเป็นระยะของและถูกใช้เพื่อรักษามะเร็งกำลังรอบหลายวัยการขาดวิธีการขั้นสูง การใช้ความร้อน และการวัดอุณหภูมิที่ถูกต้องไม่สามารถใช้ได้ที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ผสมในช่วงแรกคลินิกการประยุกต์ใช้และเพื่อการรักษาโรคมะเร็ง ( 2 ) .

หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองเป็นรังสีได้รับความสนใจสำหรับการรักษาเนื้องอก , ความสนใจในอุณหภูมิเริ่มลดลง แต่ยังคงมีการวิจัยขึ้น hyperthermia .การเจริญเติบโตฉันทามติในทศวรรษที่ความร้อนที่เพิ่มขึ้นรังสีทำลายเซลล์ในหลอดทดลองที่นำไปสู่การสัมมนาวิชาการนานาชาติครั้งแรกในความร้อนและรังสีเพื่อรักษามะเร็งในวอชิงตันในปี 1975 แต่การประชุมมีผู้เข้าร่วมประชุมเพียง 70 . อย่างไรก็ตาม การประชุมที่จัดขึ้นในญี่ปุ่น 5 ในปี 1988 มีมากกว่า 800 คน

เป็น hyperthermia กรุ๊ปก่อตั้งขึ้นในสหรัฐอเมริกาในปี 1981 และเป็นสถาบันที่ก่อตั้งขึ้นในยุโรปในปี 1983 ในญี่ปุ่น และการวิจัยเริ่มต้นในปี 1978 กับสถานประกอบการของสังคมญี่ปุ่นของ Hyperthermia มะเร็งในปี 1984