การห่มดินมีความสำคัญอย่างไรองค์ความรู้สืบสานแนวพระราชดำริ เรื่อง ดินแน การแปล - การห่มดินมีความสำคัญอย่างไรองค์ความรู้สืบสานแนวพระราชดำริ เรื่อง ดินแน ไทย วิธีการพูด

การห่มดินมีความสำคัญอย่างไรองค์ความ

การห่มดินมีความสำคัญอย่างไร

องค์ความรู้สืบสานแนวพระราชดำริ เรื่อง ดิน
แนวพระราชดำริเรื่อง “ดิน””ดิน” เป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญอย่างหนึ่งเคียงคู่กับ “น้ำ” ในการทำเกษตร ต่อให้มีทรัพยากรน้ำอุดมสมบูรณ์ แต่มีดินที่เลว กล่าวคือ โครงสร้างแน่น อัดตัวเป็นก้อน ปราศจากซึ่งธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตของพืช ก็เป็นการยากต่อการปลูกพืชไม่ว่าพืชชนิดใดๆ ด้วยเหตุนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงเล็งเห็นความสำคัญของดิน โดยเฉพาะการปรับปรุงบำรุงดินและการจัดสรรที่ดิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประเทศที่ทำการเกษตรเป็นหลักอย่างไทยเราจึงนำมาซึ่งแนวพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาดินที่สำคัญดังนี้
1. การแก้ปัญหาขาดแคลนที่ดินทำกินของเกษตรกร
ปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินของเกษตรกร เป็นปัญหาสำคัญยิ่งในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา งานจัดและพัฒนาที่ดินเป็นงานแรกๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญ ทรงเริ่มโครงการพัฒนาที่ดินหุบกะพง ตามพระราชประสงค์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๑ โดยมุ่งแก้ไขปัญหาการไม่มีที่ดินทำกินของเกษตรกรเป็นสำคัญ ดังพระราชดำรัสไว้ ณ สำนักงาน กปร. ในปี พ.ศ. 2531 ว่า
“มีความเดือดร้อนอย่างยิ่งว่าประชาชนในเมืองไทยจะไร้ที่ดิน และถ้าไร้ที่ดินแล้วก็จะทำงานเป็นทาสเขา ซึ่งเราไม่ปรารถนาที่จะให้ประชาชนเป็นทาสคนอื่น แต่ถ้าเราสามารถที่จะขจัดปัญหานี้ โดยเอาที่ดินจำแนกจัดสรรอย่างยุติธรรม อย่างมีการจัดตั้งจะเรียกว่านิคม หรือจะเรียกว่าหมู่หรือกลุ่ม หรือสหกรณ์ก็ตาม ก็จะทำให้คนที่มีชีวิตแร้นแค้นสามารถที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้”
พระราชดำริแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเรื่องดิน คือ ทรงนำเอาวิธีการปฏิรูปที่ดินมาใช้ในการจัดและพัฒนาที่ดินที่เป็นป่าเสื่อมโทรม รกร้าง ว่างเปล่า นำมาจัดสรรให้เกษตรกรที่ไร้ที่ทำกินได้ประกอบอาชีพในรูปของหมู่บ้านสหกรณ์ และโครงการจัดและพัฒนาที่ดินในรูปแบบอื่นๆ ทั้งนี้โดยให้สิทธิทำกินชั่วลูกชั่วหลาน แต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์ในการถือครอง พร้อมกับจัดบริการพื้นฐานให้ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีการจัดพื้นที่ทำกินให้ราษฎรชาวไทยภูเขา สามารถดำรงชีพอยู่ได้เป็นหลักแหล่ง โดยไม่ต้องทำลายป่าอีกต่อไป
ในการจัดพื้นที่ต่าง ๆ ดังที่กล่าวมานี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีหลักการว่าต้องมีการวางแผนการจัดการให้ดีเสียตั้งแต่ต้น โดยใช้แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศช่วย ไม่ควรทำแผนผังที่ทำกินเป็นลักษณะตารางสี่เหลี่ยมโดยไม่คำนึงถึงสภาพภูมิประเทศ แต่ควรจัดสรรพื้นที่ทำกินแนวพื้นที่รับน้ำจากโครงการชลประทาน นั่นคือ จะต้องดำเนินโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรควบคู่ไปกับการพัฒนาแหล่งน้ำ เช่น โครงการนิคมสหกรณ์หุบกะพงในพระบรมราชูปถัมภ์ อ.ชะอำ จ. เพชรบุรี โครงการจัดพัฒนาที่ดินทุ่งลุยลาย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ และโครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเหล่านี้ มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ 1) เพื่อนำทรัพยากรธรรมชาติออกมาใช้ในด้านการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 2) เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรมีที่ดินสำหรับประกอบอาชีพและอยู่อาศัย 3) เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรรู้จักพึ่งตนเอง และช่วยเหลือส่วนรวม ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม บางโครงการมีวัตถุประสงค์เฉพาะกิจในการบรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องที่ทำกินของราษฎรที่ถูกอพยพออกจากพื้นที่2. การอนุรักษ์และฟื้นฟูดิน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัยและให้ความสำคัญมากขึ้นในงานอนุรักษ์และฟื้นฟูดิน ที่มีสภาพธรรมชาติและปัญหาที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค โดยเขียนไว้ในเอกสารพระราชทานว่า “ดินที่เหมาะสมสำหรับการเกษตรกรรม ต้องมีคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้ มีแร่ธาตุที่เรียกว่า ปุ๋ย ส่วนประกอบสำคัญคือ 1) N (nitrogen) ในรูป nitrate 2) P (phosphorus) ในรูป phosphate 3) K (potassium) และแร่ธาตุ อื่นๆ O H Mg Fe มีระดับ เปรี้ยว ด่าง ใกล้เป็นกลาง (pH 7) มีความเค็มต่ำ มีจุลินทรีย์ มีความชื้นพอเหมาะ (ไม่แห้ง ไม่แฉะ) มีความโปร่งพอเหมาะ (ไม่แข็ง)” จึงมีพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาที่ดินที่เน้นเฉพาะเรื่องมากขึ้น เช่น การศึกษาวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาดินเค็ม ดินเปรี้ยว ดินทราย ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัญหาดินพรุในภาคใต้ และที่ดินชายฝั่งทะเล รวมถึงการแก้ไขปรับปรุงและฟื้นฟูดินที่เสื่อมโทรมพังทลายจากการชะล้างหน้าดิน ตลอดจนการทำแปลงสาธิตการพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมในพื้นที่ที่มีปัญหาดินเสื่อมโทรม เพื่อให้พื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องดินจากหลายๆ สาเหตุ กลับมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อีก
ดังนั้น โครงการต่างๆ ในระยะหลัง จึงเป็นการรวบรวมความรู้ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติจากหลากหลายสาขา มาใช้ร่วมกันในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และที่ปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ แนวคิดและตัวอย่างการจัดการทรัพยากรดินในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 6 แห่ง ที่ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเพื่อทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการอนุรักษ์ดินและน้ำ เป็นตัวอย่างในการป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน การขยายพันธุ์พืชเพื่ออนุรักษ์ดินและบำรุงดิน และสนับสนุนให้เกษตรกรเรียนรู้เข้าใจวิธีการอนุรักษ์ดินและน้ำ การปรับปรุงบำรุงดิน สามารถนำไปปฏิบัติได้เอง ทรงมีพระราชดำริว่า “การปรับปรุงที่ดินนั้นต้องอนุรักษ์ผิวดิน ซึ่งมีความสมบูรณ์ไว้ไม่ให้ไถ หรือลอกหน้าดินทิ้งไป สงวนไม้ยืนต้น ที่ยังเหลืออยู่ เพื่อที่จะรักษาความชุ่มชื่นของผืนดิน”
แนวพระราชดำริในด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูดิน ที่สำคัญแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ
1) แบบจำลองการพัฒนาพื้นที่ที่มีสภาพขาดความสมบูรณ์ ดินปนทราย และปัญหาการชะล้างพังทลาย
2) การแก้ปัญหาดินเปรี้ยว โดยทฤษฎีแกล้งดิน
3) การอนุรักษ์ดินโดยหญ้าแฝก
4) การห่มดิน
2.1 แบบจำลองการฟื้นฟูบำรุงดินที่มีสภาพขาดความสมบูรณ์ ดินปนทราย และปัญหาการชะล้างพังทลาย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดตั้ง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 6 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเป็นแหล่ง
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
การห่มดินมีความสำคัญอย่างไรองค์ความรู้สืบสานแนวพระราชดำริเรื่องดินแนวพระราชดำริเรื่อง "ดิน" "ดิน" เป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญอย่างหนึ่งเคียงคู่กับ "น้ำ" ในการทำเกษตรต่อให้มีทรัพยากรน้ำอุดมสมบูรณ์แต่มีดินที่เลวกล่าวคือโครงสร้างแน่นอัดตัวเป็นก้อนปราศจากซึ่งธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตของพืชก็เป็นการยากต่อการปลูกพืชไม่ว่าพืชชนิดใด ๆ ด้วยเหตุนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงเล็งเห็นความสำคัญของดินโดยเฉพาะการปรับปรุงบำรุงดินและการจัดสรรที่ดินซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประเทศที่ทำการเกษตรเป็นหลักอย่างไทยเราจึงนำมาซึ่งแนวพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาดินที่สำคัญดังนี้1. การแก้ปัญหาขาดแคลนที่ดินทำกินของเกษตรกรปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกินของเกษตรกรเป็นปัญหาสำคัญยิ่งในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมางานจัดและพัฒนาที่ดินเป็นงานแรก ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญทรงเริ่มโครงการพัฒนาที่ดินหุบกะพงตามพระราชประสงค์เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๑๑ โดยมุ่งแก้ไขปัญหาการไม่มีที่ดินทำกินของเกษตรกรเป็นสำคัญดังพระราชดำรัสไว้ณสำนักงานกปร ในปีพ.ศ. 2531 ว่า"มีความเดือดร้อนอย่างยิ่งว่าประชาชนในเมืองไทยจะไร้ที่ดินและถ้าไร้ที่ดินแล้วก็จะทำงานเป็นทาสเขาซึ่งเราไม่ปรารถนาที่จะให้ประชาชนเป็นทาสคนอื่นแต่ถ้าเราสามารถที่จะขจัดปัญหานี้โดยเอาที่ดินจำแนกจัดสรรอย่างยุติธรรมอย่างมีการจัดตั้งจะเรียกว่านิคมหรือจะเรียกว่าหมู่หรือกลุ่มหรือสหกรณ์ก็ตามก็จะทำให้คนที่มีชีวิตแร้นแค้นสามารถที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้"พระราชดำริแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเรื่องดินคือทรงนำเอาวิธีการปฏิรูปที่ดินมาใช้ในการจัดและพัฒนาที่ดินที่เป็นป่าเสื่อมโทรมรกร้างว่างเปล่านำมาจัดสรรให้เกษตรกรที่ไร้ที่ทำกินได้ประกอบอาชีพในรูปของหมู่บ้านสหกรณ์และโครงการจัดและพัฒนาที่ดินในรูปแบบอื่น ๆ ทั้งนี้โดยให้สิทธิทำกินชั่วลูกชั่วหลานแต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์ในการถือครองพร้อมกับจัดบริการพื้นฐานให้ตามความเหมาะสมนอกจากนี้ยังมีการจัดพื้นที่ทำกินให้ราษฎรชาวไทยภูเขาสามารถดำรงชีพอยู่ได้เป็นหลักแหล่งโดยไม่ต้องทำลายป่าอีกต่อไปในการจัดพื้นที่ต่างๆ ดังที่กล่าวมานี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีหลักการว่าต้องมีการวางแผนการจัดการให้ดีเสียตั้งแต่ต้นโดยใช้แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศช่วยไม่ควรทำแผนผังที่ทำกินเป็นลักษณะตารางสี่เหลี่ยมโดยไม่คำนึงถึงสภาพภูมิประเทศแต่ควรจัดสรรพื้นที่ทำกินแนวพื้นที่รับน้ำจากโครงการชลประทานนั่นคือจะต้องดำเนินโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรควบคู่ไปกับการพัฒนาแหล่งน้ำเช่นโครงการนิคมสหกรณ์หุบกะพงในพระบรมราชูปถัมภ์อ.ชะอำจ. เพชรบุรีโครงการจัดพัฒนาที่ดินทุ่งลุยลายอันเนื่องมาจากพระราชดำริอ.คอนสารจ.ชัยภูมิและโครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หนองพลับอ.หัวหินจ.ประจวบคีรีขันธ์เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรมีที่ดินสำหรับประกอบอาชีพและอยู่อาศัยเพื่อนำทรัพยากรธรรมชาติออกมาใช้ในด้านการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเหล่านี้มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ 1) 2) 3) เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรรู้จักพึ่งตนเองและช่วยเหลือส่วนรวมทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม บางโครงการมีวัตถุประสงค์เฉพาะกิจในการบรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องที่ทำกินของราษฎรที่ถูกอพยพออกจากพื้นที่2 การอนุรักษ์และฟื้นฟูดินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระทัยและให้ความสำคัญมากขึ้นในงานอนุรักษ์และฟื้นฟูดินที่มีสภาพธรรมชาติและปัญหาที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคโดยเขียนไว้ในเอกสารพระราชทานว่า "ดินที่เหมาะสมสำหรับการเกษตรกรรมต้องมีคุณสมบัติต่าง ๆ ดังนี้มีแร่ธาตุที่เรียกว่าปุ๋ยส่วนประกอบสำคัญคือ 1) N (ไนโตรเจน) ไนเตรทในรูป 2) P (ฟอสฟอรัส) ฟอสเฟตในรูป 3) K (โพแทสเซียม) และแร่ธาตุอื่น ๆ O H Mg Fe มีระดับเปรี้ยวด่าง (pH 7) ใกล้เป็นกลางมีความเค็มต่ำมีจุลินทรีย์มีความชื้นพอเหมาะ (ไม่แห้งไม่แฉะ) มีความโปร่งพอเหมาะ (ไม่แข็ง) "จึงมีพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาที่ดินที่เน้นเฉพาะเรื่องมากขึ้นเช่นการศึกษาวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาดินเค็มดินเปรี้ยวดินทรายในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือปัญหาดินพรุในภาคใต้และที่ดินชายฝั่งทะเลรวมถึงการแก้ไขปรับปรุงและฟื้นฟูดินที่เสื่อมโทรมพังทลายจากการชะล้างหน้าดินตลอดจนการทำแปลงสาธิตการพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมในพื้นที่ที่มีปัญหาดินเสื่อมโทรมเพื่อให้พื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องดินจากหลาย ๆ สาเหตุกลับมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อีกดังนั้นโครงการต่าง ๆ ในระยะหลังจึงเป็นการรวบรวมความรู้ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติจากหลากหลายสาขามาใช้ร่วมกันในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและที่ปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือแนวคิดและตัวอย่างการจัดการทรัพยากรดินในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 6 แห่งที่ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเพื่อทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการอนุรักษ์ดินและน้ำเป็นตัวอย่างในการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินการขยายพันธุ์พืชเพื่ออนุรักษ์ดินและบำรุงดินและสนับสนุนให้เกษตรกรเรียนรู้เข้าใจวิธีการอนุรักษ์ดินและน้ำการปรับปรุงบำรุงดินสามารถนำไปปฏิบัติได้เองทรงมีพระราชดำริว่า "การปรับปรุงที่ดินนั้นต้องอนุรักษ์ผิวดินซึ่งมีความสมบูรณ์ไว้ไม่ให้ไถหรือลอกหน้าดินทิ้งไปสงวนไม้ยืนต้นที่ยังเหลืออยู่เพื่อที่จะรักษาความชุ่มชื่นของผืนดิน"แนวพระราชดำริในด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูดินที่สำคัญแบ่งเป็น 4 ส่วนคือ 1) แบบจำลองการพัฒนาพื้นที่ที่มีสภาพขาดความสมบูรณ์ดินปนทรายและปัญหาการชะล้างพังทลาย2) การแก้ปัญหาดินเปรี้ยวโดยทฤษฎีแกล้งดิน3) การอนุรักษ์ดินโดยหญ้าแฝก4) การห่มดิน2.1 แบบจำลองการฟื้นฟูบำรุงดินที่มีสภาพขาดความสมบูรณ์ดินปนทรายและปัญหาการชะล้างพังทลายเพื่อเป็นแหล่งรวมทั้งพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งทั่วประเทศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 6
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
หัวเรื่อง: การห่มดินมีความสามารถสำคัญอย่างไร

องค์ความสามารถรู้สืบสานแนวที่คุณพระราชดำริเรื่องดิน
แนวที่คุณพระราชดำริเรื่อง "ดิน" "ดิน" เป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญอย่างหนึ่ง เคียงคู่กับ "น้ำ" ในการทำเกษตรต่อให้มีทรัพยากร น้ำอุดม สมบูรณ์ แต่มีดินที่เลวกล่าวคือ โครงสร้างแน่นอัดตัวเป็นก้อนปราศจากซึ่งธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตของพืชก็เป็นการยากต่อการปลูกพืชไม่ว่าพืชชนิดใด ๆ ด้วยเหตุนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงเล็งเห็นความสำคัญ ของดินโดยเฉพาะการปรับปรุงบำรุงดิน และการจัดสรรที่ดินซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประเทศที่ทำการเกษตรเป็นหลักอย่างไทยเราจึงนำมาซึ่งแนวพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาดินที่สำคัญดังนี้
1 หัวเรื่อง: การแก้ปฐมวัยขาดแคลนที่ดินทำกินของเกษตรกร
ปฐมวัยหัวเรื่อง: การขาดแคลนที่ดินทำกินของเกษตรกรเป็นปฐมวัยสำคัญยิ่งในห้างหุ้นส่วนจำกัดช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมางานจัดและพัฒนาที่ดิน เป็นงานแรก ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญทรงเริ่มโครงการพัฒนาที่ดินหุบกะพง ตามพระราชประสงค์เมื่อปี พ.ศ. 2511 โดยมุ่งแก้ไขปัญหาการไม่มีที่ดินทำ กินของเกษตรกรเป็นสำคัญดังพระราชดำรัสไว้ ณ สำนักงานกปร ในปี พ.ศ. 2531 ว่า
"มีความเดือดร้อนอย่างยิ่งว่าประชาชนใน เมืองไทยจะไร้ที่ดินและถ้าไร้ที่ดินแล้วก็จะทำงานเป็นทาสเขาซึ่งเราไม่ปรารถนาที่จะให้ประชาชนเป็นทาสคนอื่น แต่ถ้าเราสามารถที่จะขจัดปัญหานี้โดยเอา ที่ดินจำแนกจัดสรรอย่างยุติธรรมอย่างมีการ จัดตั้งจะเรียกว่านิคมหรือจะเรียกว่าหมู่หรือกลุ่มหรือสหกรณ์ก็ตามก็จะทำให้คนที่มีชีวิตแร้นแค้นสามารถที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้ "
พระราชดำริแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหา เรื่อง ดินคือทรงนำเอาวิธีการปฏิรูป ที่ดินมาใช้ในการจัดและพัฒนาที่ดินที่เป็นป่าเสื่อมโทรมรกร้างว่างเปล่านำมาจัดสรรให้เกษตรกรที่ไร้ที่ทำกินได้ประกอบอาชีพในรูปของหมู่บ้านสหกรณ์และโครงการจัดและพัฒนาที่ดินในรูปแบบอื่น ๆ ทั้งนี้โดยให้สิทธิทำกินชั่ว ลูกชั่วหลาน แต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์ในการถือครองพร้อมกับจัดบริการพื้นฐานให้ตามความเหมาะสมนอกจากนี้ยังมีการจัดพื้นที่ทำกินให้ราษฎรชาวไทยภูเขาสามารถดำรงชีพอยู่ได้เป็นหลักแหล่งโดย ไม่คุณต้องทำลายป่าอีกต่อไป
ในห้างหุ้นส่วนจำกัดหัวเรื่อง: การจัดพื้นที่ต่าง ๆ ดังที่กล่าวมานี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคุณทรงมีหลักการว่าได้คุณต้องมีหัวเรื่อง: การวางแผนหัวเรื่อง: การจัดการให้ดีเสียตั้งแต่คุณต้นโดยใช้แผนที่และภาพถ่ายโรงแรมทางอากาศช่วยไม่ควรทำแผนผังที่ทำ กินเป็นลักษณะตารางสี่เหลี่ยมโดยไม่คำนึง ถึงสภาพภูมิประเทศ แต่ควรจัดสรรพื้นที่ทำกินแนวพื้นที่รับน้ำจากโครงการชลประทานนั่นคือจะต้องดำเนินโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตรควบคู่ไปกับการพัฒนาแหล่งน้ำเช่นโครงการนิคมสหกรณ์หุบกะพงในพระบรม ราชูปถัมภ์อ. ชะอำจ เพชรบุรีโครงการจัดพัฒนาที่ดินทุ่งลุยลายอัน เนื่องมาจากพระราชดำริอ . คอนสารจ. ชัยภูมิและโครงการจัดพัฒนาที่ดินตามพระราช ประสงค์หนองพลับอ . หัวหินจ. ประจวบคีรีขันธ์
โครงการอันเนื่องมาจากเนชั่ที่คุณพระราชดำริเหล่านี้มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ 1) เพื่อนำทรัพยากรธรรมชาติออกมาใช้ในด้าน การผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 2) เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรมีที่ดินสำหรับประกอบ อาชีพและอยู่อาศัย 3) เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรรู้จักพึ่งตนเองและ ช่วยเหลือส่วนรวมทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมบางโครงการมี วัตถุประสงค์เฉพาะกิจในการบรรเทาความเดือดร้อนใน เรื่องที่ทำกินของราษฎรที่ถูกอพยพออกจากพื้นที่ 2 หัวเรื่อง: การอนุรักษ์และฟื้นฟูคุณดิน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคุณทรงสนพระทัยและให้ความสามารถสำคัญมากขึ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัดงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายอนุรักษ์และฟื้นฟูคุณดินที่มีสภาพธรรมชาติและปฐมวัยที่แตกต่างกันไปในห้างหุ้นส่วนจำกัดแต่ละภูมิภาคโดยเขียนไว้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดเอกสารพระราชทานว่าได้ "ดินที่เหมาะสมสำหรับการ เกษตรกรรมต้องมีคุณสมบัติต่างๆดังนี้มีแร่ ธาตุที่เรียกว่าปุ๋ยส่วนประกอบสำคัญคือ 1) N (ไนโตรเจน) ในรูปไนเตรต 2) P (ฟอสฟอรัส) ในรูปฟอสเฟต 3) K (โพแทสเซียม) และแร่ธาตุอื่น ๆ OH Mg เฟมีระดับ เปรี้ยวด่างใกล้เป็นกลาง (pH 7) มีความเค็มต่ำมีจุลินทรีย์มีความชื้น พอเหมาะ (ไม่แห้งไม่แฉะ) มีความโปร่งพอเหมาะ (ไม่แข็ง) "จึงมีพระราชดำริในการแก้ไขปัญหา ที่ดินที่เน้นเฉพาะเรื่องมากขึ้นเช่นการศึกษา วิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาดินเค็มดินเปรี้ยวดินทราย ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือปัญหาดินพรุในภาคใต้และที่ดินชายฝั่งทะเลรวมถึงการแก้ไขปรับปรุงและฟื้นฟูดินที่เสื่อมโทรมพังทลายจากการชะล้างหน้าดินตลอดจนการทำแปลงสาธิตการ พัฒนาที่ดินเพื่อหัวเรื่อง: การเกษตรกรรมในห้างหุ้นส่วนจำกัดพื้นที่ที่มีปฐมวัยคุณดินเสื่อมโทรมเพื่อให้พื้นที่ที่มีปฐมวัยเรื่องคุณดินจากเนชั่หลาย ๆ สาเหตุกลับมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อีก
ดังนั้นโครงการต่างๆในห้างหุ้นส่วนจำกัดระยะหลังจึงเป็นการรวบรวมความสามารถรู้ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติจากเนชั่หลากหลายสาขา มาใช้ร่วมกันในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และที่ปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือแนวคิดและตัวอย่างการจัดการทรัพยากรดินในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 6 แห่งที่ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง ขึ้นเพื่อทำการศึกษาค้นคว้า เกี่ยวกับการอนุรักษ์ดินและน้ำเป็น ตัวอย่างในการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินการขยายพันธุ์พืชเพื่ออนุรักษ์ดินและบำรุงดินและสนับสนุนให้เกษตรกรเรียนรู้เข้าใจวิธีการอนุรักษ์ดินและน้ำการปรับปรุงบำรุงดินสามารถนำไปปฏิบัติได้ เองทรงมีพระราชดำริว่า "การปรับปรุงที่ดินนั้นต้องอนุรักษ์ผิวดิน ซึ่งมีความสมบูรณ์ไว้ไม่ให้ไถหรือลอกหน้าดินทิ้งไปสงวนไม้ยืนต้นที่ยังเหลืออยู่เพื่อที่จะรักษาความชุ่มชื่นของผืนดิน "
แนวพระราชดำริใน ด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูดินที่สำคัญ แบ่งเป็น 4 ส่วนคือ
1) แบบจำลองการพัฒนาพื้นที่ที่มีสภาพ ขาดความสมบูรณ์ดินปนทรายและปัญหาการชะล้างพังทลาย
2) การแก้ปัญหาดินเปรี้ยวโดยทฤษฎีแกล้งดิน
3) การอนุรักษ์ ดินโดยหญ้าแฝก
4) การห่มดิน
2.1 แบบจำลองหัวเรื่อง: การฟื้นฟูบำรุงคุณดินที่มีสภาพขาดความสามารถสมบูรณ์คุณดินปหนังสือนทรายและปฐมวัยหัวเรื่อง: การชะล้างพังทลาย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คุณทรงที่คุณพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาเป็นหัวเรื่อง: การพัฒนาอันเนื่องมา จากพระราชดำริ 6 แห่งทั่วประเทศรวมทั้งพระราชทานโครงการอัน เนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อเป็นแหล่ง
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: