Pasek et al. (2009) conducted a stu

Pasek et al. (2009) conducted a study to show a reverse in the negative relationship between Facebook and
academic achievement done by Karpinski(2009) that had generated a great deal of media attention. Pasek et al
(2009) suggested that facebook users were no more or less lightly to get good grade than non-users. Study by Pasek
et al.(2009) was a more thorough. Three different samplings were done; the first study was a cross-sectional study
on first year students from University of Illinois in Chicago, and thesecondstudy involved the National Annenberg
Survey of Youth (NASY) where a random digit dialing method was used on 14 to 22 year olds with parental
permission. The third study in 2008 was a longitudinal study.Involvingthe same 415 respondents from the second
study and 835 new respondents. For all these three studies, age, gender, race/ethnicity and socio-economic status
were controlled. The first sample did not show a significant relationship between Facebook and GPA (Pearson’s
r=0.10, p=0.746). However, the NASY cross sectional studies showed a significant positive correlation without
controls (Pearson’s r=0.122, p= 0.002) but the NASY studiesshowed a negative correlation (Pearson’s r=-0.148, p=
0.010). Hence, the results of these studies generally suggest that there is no negative relationship between Facebook
use and academic performance

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Pasek et al. (2009) ดำเนินการศึกษาการแสดงกลับเป็นความสัมพันธ์เชิงลบระหว่าง Facebook และผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการดำเนินการ โดย Karpinski(2009) ที่ได้สร้างความสนใจจากสื่อมาก Pasek et al(2009) แนะนำว่า ผู้ใช้ facebook ได้ไม่เบามากหรือน้อยจะได้รับเกรดดีกว่าไม่ใช่ผู้ใช้ ศึกษา โดย Pasekร้อยเอ็ด al.(2009) ได้อย่างละเอียดมากขึ้น ทำ samplings สามแตกต่างกัน การศึกษาแรกศึกษาเหลวในปีแรก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ชิคาโก และ thesecondstudy Annenberg ชาติที่เกี่ยวข้องสำรวจความคิดเห็นของเยาวชน (NASY) ซึ่งใช้วิธีเรียกตัวเลขสุ่มใน 14 ถึง 22 ปีเธอกับผู้ปกครองสิทธิ์ การศึกษาที่สามในปี 2551 เป็นการศึกษาระยะยาว ผู้ตอบ Involvingthe 415 เดียวจากสองศึกษาและ 835 ตอบใหม่ สำหรับทั้งหมดเหล่านี้สามศึกษา อายุ เพศ การแข่งขัน/เชื้อชาติ และสถานะทางเศรษฐกิจสังคมถูกควบคุม ตัวอย่างแรกได้แสดงความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่าง Facebook และ GPA (Pearsonr = 0.10, p = 0.746) อย่างไรก็ตาม NASY ข้ามตัดศึกษาพบความสัมพันธ์ในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญโดยควบคุม (ของ Pearson r = 0.122, p = 0.002) แต่ studiesshowed NASY ความสัมพันธ์เชิงลบ (ของ Pearson r =-0.148, p =0.010) . ดังนั้น ผลของการศึกษาเหล่านี้โดยทั่วไปแนะนำว่า มีไม่มีความสัมพันธ์เชิงลบระหว่าง Facebookใช้และผลการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Pasek et al, (2009) ดำเนินการศึกษาเพื่อแสดงให้ย้อนกลับในความสัมพันธ์เชิงลบระหว่าง Facebook และ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทำโดย Karpinski (2009) ที่ได้สร้างการจัดการที่ดีของความสนใจของสื่อ Pasek, et al
(2009) ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้ Facebook ไม่มากหรือน้อยเบา ๆ เพื่อให้ได้เกรดที่ดีกว่าผู้ใช้ที่ไม่ใช่ การศึกษาโดย Pasek
et al. (2009) เป็นอย่างละเอียดมากขึ้น สามกลุ่มตัวอย่างที่แตกต่างกันได้ทำ; การศึกษาครั้งแรกเป็นการศึกษาแบบตัดขวาง
นักเรียนปีแรกจากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ในชิคาโกและ thesecondstudy มีส่วนร่วมแห่งชาติ Annenberg
สำรวจเยาวชน (NASY) ซึ่งเป็นวิธีการสุ่มโทรหลักที่ถูกนำมาใช้ใน 14-22 ปีที่มีผู้ปกครองที่
ได้รับอนุญาต ศึกษาที่สามในปี 2008 เป็นแนวยาว 415 study.Involvingthe เดียวกันผู้ตอบแบบสอบถามจากที่สอง
การศึกษาและผู้ตอบแบบสอบถาม 835 ใหม่ สำหรับเหล่านี้ทั้งหมดสามการศึกษาอายุเพศเชื้อชาติ / และสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม
ถูกควบคุม ตัวอย่างแรกไม่ได้แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่าง Facebook และเกรดเฉลี่ย (เพียร์สัน
r = 0.10, p = 0.746) อย่างไรก็ตาม NASY ข้ามขวางการศึกษาแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญโดยไม่ต้อง
ควบคุม (R เพียร์สัน = 0.122, p = 0.002) แต่ NASY studiesshowed ความสัมพันธ์ทางลบ (R เพียร์สัน = -0.148, p =
0.010) ดังนั้นผลของการศึกษาเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าโดยทั่วไปไม่มีความสัมพันธ์เชิงลบระหว่าง Facebook
การใช้งานและผลงานทางวิชาการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปาเสก et al . ( 2009 ) ได้ทำการศึกษาย้อนหลังในการแสดงความสัมพันธ์ในทางลบระหว่าง Facebook และ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเสร็จ karpinski ( 2009 ) ที่ได้สร้างการจัดการที่ดีของความสนใจของสื่อ ปาเสก et al
( 2009 ) ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้ Facebook ไม่มีมากกว่าหรือน้อยกว่าเล็กน้อยที่จะได้รับเกรดที่ดีกว่าผู้ใช้ไม่ การศึกษาโดยปาเสก
et al . ( 2009 ) คืออย่างทั่วถึงมากขึ้น3 ครั้งต่าง ๆจบ การศึกษาแรกเป็น
ศึกษาในนักศึกษาชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ในชิคาโก และ thesecondstudy เกี่ยวข้อง Annenberg สำรวจเยาวชนแห่งชาติ
( nasy ) ซึ่งใช้วิธีสุ่มตัวเลขโทรออกในวันที่ 14 ถึง 22 ปี olds กับผู้ปกครอง
ขออนุญาต การศึกษาที่สามในปี 2008 คือการศึกษาตามยาวinvolvingthe เดียวกัน 415 คน จากการศึกษาและสำรวจใหม่แล้ว 2
. ทั้งหมดเหล่านี้สามการศึกษา , อายุ , เพศ , เชื้อชาติ / ชาติพันธุ์ และสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม
ถูกควบคุม ตัวอย่างแรกไม่แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง Facebook และ GPA ( Pearson
r = 0.10 , p = 0.746 ) อย่างไรก็ตาม nasy การศึกษาตัดขวางแสดงความสัมพันธ์โดยไม่