Ruminants have evolved to utilise d

Ruminants have evolved to utilise diets high in ‘plant structural cell biomass’ of which most
of the energy is present in the structural carbohydrates and to a lesser extent simple sugars. The
content of structural carbohydrates depends on the maturity of the plant and these complex
carbohydrates are also only slowly degraded by microbial enzymes. The rumen digestive tract
has evolved to capably ferment a wide range of feed materials with the production of microbial
biomass and a number of fermentation end products including methane and the volatile organic
acids. Microbial cells, synthesised in the rumen, provide the majority of the animal’s requirements
for essential amino acids when microbes are washed out of the rumen and are digested and
absorbed from the intestines. The supply of microbial protein from the rumen often requires
augmentation with dietary bypass protein to ensure optimal animal production from a particular
feed. The volatile fatty acids and plant fats (which are relatively unchanged in the rumen) provide
the majority of the energy substrates for maintenance and synthesis of new tissue (see Preston
and Leng 1985).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีพัฒนาใช้อาหารสูงใน 'ชีวมวลโครงสร้างเซลล์พืช' ซึ่งส่วนใหญ่สัตว์เคี้ยวเอื้องของพลังงานที่มีอยู่ ในคาร์โบไฮเดรตโครงสร้าง และน้ำตาลอย่างง่ายตามขอบเขตน้อยกว่า การเนื้อหาของโครงสร้างคาร์โบไฮเดรตตามอายุของพืชและซับซ้อนมากขึ้นคาร์โบไฮเดรตจะอย่างค่อยสลายตัว โดยจุลินทรีย์เอนไซม์ ต่อทางเดินอาหารมีพัฒนา capably หมักหลากหลายอาหารวัสดุกับการผลิตของเชื้อจุลินทรีย์ชีวมวลและจำนวนผลิตภัณฑ์สิ้นสุดการหมักมีเทนและอินทรีย์ระเหยง่ายกรด เซลล์จุลินทรีย์ synthesised ในรูเมน ให้ส่วนใหญ่ของความต้องการของสัตว์สำหรับกรดอะมิโนเมื่อจุลินทรีย์ล้างจากรูเมน และมีการย่อยสลาย และดูดซึมจากลำไส้ การจัดหาจุลินทรีย์โปรตีนจากอาหารมักจะต้องเสริม ด้วยอาหารเลี่ยงโปรตีนจะทำให้การผลิตสัตว์ที่เหมาะสมจากเฉพาะอาหาร กรดไขมันระเหยและไขมันพืช (ซึ่งจะไม่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างในรูเมนการ) ให้ส่วนใหญ่ของพื้นผิวสำหรับการบำรุงรักษาและการสังเคราะห์ของเนื้อเยื่อใหม่พลังงาน (ดูเพรสตันและปี 1985 เล้ง)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สัตว์เคี้ยวเอื้องมีการพัฒนาให้ใช้อาหารสูงในโรงงานชีวมวลเซลล์โครงสร้าง 'ซึ่งส่วนใหญ่
ของพลังงานที่มีอยู่ในโครงสร้างและคาร์โบไฮเดรตในระดับน้อยน้ำตาลอย่างง่าย
เนื้อหาของคาร์โบไฮเดรตโครงสร้างขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะของพืชและซับซ้อนเหล่านี้
คาร์โบไฮเดรตนอกจากนี้ยังมีการสลายตัวเพียงอย่างช้าๆโดยเอนไซม์จุลินทรีย์ ระบบทางเดินอาหารกระเพาะ
มีการพัฒนาให้ capably หมักวัสดุหลากหลายประเภทฟีดที่มีการผลิตจุลินทรีย์
ชีวมวลและจำนวนของผลิตภัณฑ์ที่สิ้นสุดการหมักรวมทั้งก๊าซมีเทนและอินทรีย์ระเหย
กรด เซลล์ของจุลินทรีย์สังเคราะห์ในกระเพาะรูเมนให้เสียงส่วนใหญ่ของความต้องการของสัตว์
สำหรับกรดอะมิโนที่จำเป็นเมื่อจุลินทรีย์จะถูกล้างออกจากกระเพาะรูเมนและถูกย่อยและ
ดูดซึมจากลำไส้ อุปทานของโปรตีนของจุลินทรีย์จากกระเพาะรูเมนมักจะต้อง
เสริมด้วยโปรตีนบายพาสอาหารเพื่อให้แน่ใจว่าการผลิตสัตว์ที่ดีที่สุดจากเฉพาะ
ฟีด กรดไขมันระเหยและไขมันพืช (ซึ่งค่อนข้างคงที่ในกระเพาะรูเมน) ให้
เสียงส่วนใหญ่ของพื้นผิวพลังงานสำหรับการบำรุงรักษาและการสังเคราะห์เนื้อเยื่อใหม่ (ดูเพรสตัน
และเล้ง 1985)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สัตว์เคี้ยวเอื้องมีการพัฒนาใช้ประโยชน์จากอาหารสูงในโครงสร้างเซลล์พืชชีวมวล " ซึ่งส่วนใหญ่ของพลังงานที่เป็นปัจจุบันในคาร์โบไฮเดรตโครงสร้างและน้อยกว่าขอบเขตง่ายน้ำตาล ที่เนื้อหาของคาร์โบไฮเดรตโครงสร้างขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะของพืชเหล่านี้ซับซ้อนคาร์โบไฮเดรต คือ ยังค่อยๆ ย่อยสลายด้วยจุลินทรีย์ เอนไซม์ อาหารระบบทางเดินอาหารได้พัฒนาสายหมักวัสดุที่หลากหลายให้กับการผลิตของจุลินทรีย์ชีวมวลและจำนวนของผลิตภัณฑ์ที่สิ้นสุดการหมัก ได้แก่ ก๊าซมีเทน และสารระเหยอินทรีย์กรด จุลินทรีย์ในกระเพาะหมักเซลล์สังเคราะห์ให้ส่วนใหญ่ของความต้องการของสัตว์สำหรับกรดอะมิโนเมื่อจุลินทรีย์จะถูกล้างออกจากกระเพาะหมักและย่อยและดูดซึมจากลำไส้ อุปทานของจุลินทรีย์โปรตีนจากอาหารมักจะต้องเสริมโปรตีน หลีกเลี่ยงอาหารเพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมจากการผลิตสัตว์โดยเฉพาะอาหาร ส่วนความเข้มข้นของกรดไขมันและไขมันพืช ( ซึ่งค่อนข้างไม่เปลี่ยนแปลงในกระเพาะ ) ให้ส่วนใหญ่ของพลังงานที่พื้นผิวสำหรับการบำรุงรักษาและการสังเคราะห์เนื้อเยื่อใหม่ ( ดู เพรสตันแล้วเล้ง 1985 )