จากการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เ

จากการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาทัศนคติที่มีต่อการประกอบวิชาชีพบัญชีของนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชี และศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติการประกอบวิชาชีพบัญชีของนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชี โดยตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย ตัวแปรต้น คือปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติ ได้แก่ เพศ อายุ ระดับชั้นปีที่ศึกษา และความรู้ ความเข้าใจต่อการประกอบวิชาชีพบัญชี และตัวแปรตาม ได้แก่ ทัศนคติต่อการประกอบวิชาชีพบัญชีของนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชี ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา รวบรวมมาจากกลุ่มตัวอย่างโดยใช้แบบสอบถามจำนวน 256 ตัวอย่าง ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาประกอบกับความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย
จากการศึกษาครั้งนี้ พบว่านักศึกษาสาขาวิชาการบัญชีที่ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 20-22 ปี นักศึกษาส่วนใหญ่เรียนปริญญาตรีหลักสูตร 4 ปี และเป็นนักศึกษาในชั้นปีที่ 4 ด้านความรู้ความเข้าใจต่อการประกอบวิชาชีพของนักศึกษาสาขาการบัญชี ที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ มีความรู้ความเข้าใจระดับมากที่สุด มีจำนวน 129 คน รองลงมีความรู้ความเข้าใจระดับมาก จำนวน 22 คน มีความรู้ความเข้าใจระดับปานกลาง จำนวน 39 คน มีความรู้ความเข้าใจระดับน้อย จำนวน 5 คน และมีความรู้ความเข้าใจระดับน้อยที่สุด จำนวน 61 คน จากผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชีชั้นปีที่ 1 ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 ส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจในระดับมากที่สุด และนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชีชั้นปีที่ 2 มีความรู้ความเข้าใจในระดับมาก และด้านทัศนคติต่อการประกอบวิชาชีพบัญชีของนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชี ส่วนใหญ่มีข้อมูลทัศนคติต่อการประกอบวิชาชีพบัญชีของนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชี อยู่ในระดับมาก โดยส่วนใหญ่มีความคิดเห็นในเรื่องการประกอบวิชาชีพบัญชี รองลงมาคือเรื่องจรรยาบรรณผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี และเรื่องการพัฒนาทักษะทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
ผลการศึกษาครั้งนี้สามารถเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานในการจัดการเรียนการสอนหรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการศึกษา เพื่อพัฒนาทัศนคติต่อการประกอบวิชาชีพบัญชีของนักศึกษาอันจะส่งผลดีต่อตัวนักศึกษา โดยสามารถศึกษาได้สำเร็จตามเป้าหมายและส่งผลต่อคุณภาพการเป็นนักบัญชี ที่ดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ตัวแปรต้นคือปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติ ได้แก่ เพศอายุระดับชั้นปีที่ศึกษาและความรู้ และตัวแปรตาม ได้แก่ ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา 256 ตัวอย่าง และละร้อยค่าเฉลี่ยจากเนชั่หัวเรื่อง: การศึกษาเป็นครั้งนี้
ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมีอายุระหว่าง 20-22 ปี 4 ปีและเป็นนักศึกษาในชั้นปีที่ 4 ที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจระดับมากที่สุดมีจำนวน 129 คนรองลงมีความรู้ความเข้าใจระดับมากจำนวน 22 คนมีความรู้ความเข้าใจระดับปานกลางจำนวน 39 คนมีความรู้ความเข้าใจระดับน้อยจำนวน 5 คน จำนวน 61 คน 1 ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 2 มีความรู้ความเข้าใจในระดับมาก อยู่ในระดับมาก
ที่ดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติที่มีต่อการประกอบวิชาชีพบัญชีของนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชีโดยตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วยตัวแปรต้นคือปัจจัยที่มีผลต่อทัศนคติได้แก่เพศ Place of Birth ระดับชั้นปีที่ศึกษาและความรู้ความเข้าใจต่อการประกอบวิชาชีพบัญชีและตัวแปรตามได้แก่ข้อมูลที่ใช้ในการศึกษารวบรวมมาจากกลุ่มตัวอย่างโดยใช้แบบสอบถามจำนวน 256 ตัวอย่างทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาประกอบกับความถี่ร้อยละและค่าเฉลี่ย
จากการศึกษาครั้งนี้พบว่านักศึกษาสาขาวิชาการบัญชีที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมีอายุระหว่าง 20-22 . นักศึกษาส่วนใหญ่เรียนปริญญาตรีหลักสูตร 4 และเป็นนักศึกษาในชั้นปีที่ 4 .ที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจระดับมากที่สุดมีจำนวน 129 คนรองลงมีความรู้ความเข้าใจระดับมากจำนวน 22 คนมีความรู้ความเข้าใจระดับปานกลางจำนวน 39 คนมีความรู้ความเข้าใจระดับน้อยจำนวน 5 คนจำนวน 61 คนจากผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชีชั้นปีที่ 1 ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 ส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจในระดับมากที่สุดและนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชีชั้นปีที่ 2และด้านทัศนคติต่อการประกอบวิชาชีพบัญชีของนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชีส่วนใหญ่มีข้อมูลทัศนคติต่อการประกอบวิชาชีพบัญชีของนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชีอยู่ในระดับมากรองลงมาคือเรื่องจรรยาบรรณผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีและเรื่องการพัฒนาทักษะทางวิชาชีพของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
ผลการศึกษาครั้งนี้สามารถเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานในการจัดการเรียนการสอนหรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการศึกษาโดยสามารถศึกษาได้สำเร็จตามเป้าหมายและส่งผลต่อคุณภาพการเป็นนักบัญชีที่ดี