Charles F. Brush is widely credited

Charles F. Brush is widely credited with designing and erecting the world’s first automatically operating wind turbine for electricity generation. The turbine, which was installed in Cleveland, Ohio, in 1887, operated for 20 years with a peak power production of 12 kW (Fig. 2). An automatic control system ensured that the turbine achieved effective action at 6.6 rpm (330 rpm at the dynamo) and that the dc voltage was kept between 70 and 90 volts. Another remarkable project in early wind energy research was the 1.25-MW wind turbine developed by Palmer Putnam [3] in the U.S. The giant wind turbine, which was 53 m (175 feet) in diameter, was installed in Vermont, Pennsylvania, around 1940 and featured two blades with a hydraulic pitch control system.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชาร์ลส์เอฟแปรงจะถูกเครดิตอย่างกว้างขวาง ด้วยการออกแบบ และรวบกังหันลมโดยอัตโนมัติการทำงานครั้งแรกของโลกการผลิตไฟฟ้า กังหัน ซึ่งติดตั้งในเคลฟแลนด์ โอไฮโอ ในปี 1887 ดำเนินการ 20 ปีด้วยการผลิตพลังงานสูงสุด 12 กิโลวัตต์ (2 รูป) ระบบควบคุมอัตโนมัติมั่นใจว่า กังหันที่ประสบความสำเร็จการดำเนินการมีประสิทธิภาพที่ 6.6 rpm (รอบต่อนาที 330 ที่ไดนาโม) และที่แรงดัน dc ที่ถูกเก็บไว้ระหว่าง 70 และ 90 โวลต์ โครงการอื่นที่โดดเด่นในช่วงต้นการวิจัยพลังงานลมเป็นกังหันลมขนาด 1.25 เมกะวัตต์ที่พัฒนา โดย Putnam นปาล์มเมอร์ [3] ในสหรัฐอเมริกา กังหันลมยักษ์ ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 53 เมตร (175 ฟุต) ติดตั้งในเวอร์มอนท์ เพนซิลวาเนีย ประมาณ 1940 และที่โดดเด่นสองใบมีด ด้วยระบบควบคุมไฮดรอลิกสนาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชาร์ลส์เอฟแปรงให้เครดิตกันอย่างแพร่หลายกับการออกแบบและการตั้งกังหันลมครั้งแรกในการดำเนินงานโดยอัตโนมัติของโลกในการผลิตไฟฟ้า กังหันซึ่งได้รับการติดตั้งในคลีฟแลนด์โอไฮโอในปี 1887 ดำเนินการมา 20 ปีมีการผลิตกำลังสูงสุด 12 กิโลวัตต์ (รูปที่. 2) ระบบควบคุมอัตโนมัติทำให้มั่นใจได้ว่าประสบความสำเร็จกังหันกระทำที่มีประสิทธิภาพที่ 6.6 รอบต่อนาที (330 รอบต่อนาทีที่ไดนาโม) และแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงที่ถูกเก็บไว้ระหว่าง 70 และ 90 โวลต์ อีกโครงการที่โดดเด่นในการวิจัยพลังงานลมในช่วงต้นเป็นกังหันลม 1.25 เมกะวัตต์ที่พัฒนาโดยพาลเมอร์พัท [3] ในสหรัฐอเมริกากังหันลมยักษ์ซึ่งเป็น 53 เมตร (175 ฟุต) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางได้รับการติดตั้งในเพนซิลรอบ 1940 และให้ความสำคัญทั้งสองใบมีดที่มีระบบการควบคุมระดับเสียงไฮโดรลิค