Can Japan become world's 2nd bigges

Can Japan become world's 2nd biggest economy again?
HIROSHI MURAYAMA, Nikkei senior staff writer
TOKYO -- What are the chances of Japan overtaking China in terms of gross domestic products in U.S. dollars in the near future? Well, first of all it is important to consider what the overall effect on the global economy would be, and who, if anyone, would benefit.

In 2015, Japan's GDP stood $4 trillion while China's was about $11 trillion. For the situation to be reversed, the yuan would need to go through a period of excessive depreciation and the yen would need to appreciate. But such a situation would likely throw global financial markets into further confusion and potentially lead to a global economic crisis.

Although most would see this as less than desirable, it is well worth considering what might happen if the worst came to the worst.


Looking at the yuan's effective exchange rate is a useful way of putting the currency's outlook into perspective. The index describes the changes of the yuan's value relative to not only the U.S. dollar but also the euro and other major currencies as a whole. It is the weighted average of its exchange rate changes against a basket of other currencies calculated using factors such as the volume of trade.

Taking the yuan's EER announced by the Bank for International Settlements for 2010, as 100, the currency rose to 131.08 in November 2015. In other words, the yuan appreciated over 30% against other currencies from its 2010 level.

The yen and other major currencies have considerably depreciated against the dollar during the same period. The euro is now quoted at around 0.92 per dollar, compared with 0.75 in December 2010, while the yen has plunged in value to around 117 from 81, representing falls of 20% and 40% against the dollar, respectively.

In contrast, the yuan has appreciated slightly against the dollar. As a result, its value against the yen and euro has gone up markedly.

The yen, for example, has depreciated to 17.9 per yuan from 12.5 at the end of 2010.

This puts China in a tricky position in terms of exports to the eurozone and Japan. For the country to regain its export competitiveness of 2010, the yuan needs to depreciate by around 20-30% against major currencies.

The Chinese government began late last year to tolerate gradual falls in the value of the yuan while holding off a dramatic plunge by resorting to dollar-selling and yuan-buying interventions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สามารถญี่ปุ่นเป็น เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก 2 อีกหรือไม่ฮิโรชิมูรายามะ นักเขียนเจ้าหน้าที่อาวุโสนิกเกอิโตเกียว - โอกาสของญี่ปุ่นแซงจีนในแง่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศดอลลาร์ในอนาคตคืออะไร ดี แรกของทั้งหมดที่สำคัญ คือการพิจารณาสิ่ง ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวมจะเป็น ที่ ถ้าใคร จะได้รับประโยชน์ ใน 2015 ญี่ปุ่น GDP ยืน $4 แสนล้านในขณะที่ของจีนคือ ประมาณ $11 ล้านล้าน สำหรับสถานการณ์ที่จะกลับรายการ หยวนจะต้องผ่านระยะเวลาค่าเสื่อมราคามากเกินไป และเยนจะต้องชื่นชม แต่สถานการณ์ดังกล่าวจะมีแนวโน้มโยนตลาดเงินทั่วโลกในความสับสนต่อ และอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจโลก แม้ว่าส่วนใหญ่จะเห็นเป็นน้อย กว่าที่ต้อง มันเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา สิ่งที่จะเกิดหากมาร้ายร้าย กำลังของหยวนอัตราแลกเปลี่ยนที่มีประสิทธิภาพเป็นประโยชน์การวางของสกุลเงินใน outlook ในการมุมมอง ดัชนีอธิบายการเปลี่ยนแปลงของค่าของหยวนสัมพันธ์ไม่เฉพาะ ดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังยูโร และเงินสกุลหลักอื่น ๆ ทั้งหมด ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของอัตราแลกเปลี่ยนของกับตะกร้าสกุลเงินอื่น ๆ ที่คำนวณโดยใช้ปัจจัยต่าง ๆ เช่นปริมาณการค้าได้ การประกาศ โดยธนาคารสำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศสำหรับ 2010, 100 เท่าที่ตัวของหยวนสกุลกุหลาบการ 131.08 ใน 2558 พฤศจิกายน ในคำอื่น ๆ หยวนนิยมกว่า 30% เทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ จากระดับ 2010 เยน และเงินสกุลหลักอื่น ๆ มีมากเสื่อมต่อดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะนี้ได้ยกที่ยูโรรอบ 0.92 ต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 0.75 ใน 2010 ธันวาคม ขณะเยนได้กระโจนเข้าในการประมาณ 117 จาก 81 แสดงตก 20% และ 40% เทียบกับดอลลาร์ ตามลำดับ คมชัด หยวนมีนิยมเล็กน้อยเทียบกับดอลลาร์ เป็นผล มูลค่าเยนและยูโรได้ไปขึ้นอย่างเด่นชัด เยน เช่น มีการคิดค่าเสื่อมราคา 17.9 ต่อหยวนจาก 12.5 ที่สิ้นปี 2010 ซึ่งทำให้จีนในตำแหน่งที่ยุ่งยากในแง่ของการส่งออกไปยังยุโรปและญี่ปุ่น ประเทศเพื่อให้มีศักยภาพในการแข่งขันส่งออกของ 2010 หยวนต้องคิดค่าเสื่อมราคาประมาณ 20-30% เทียบกับสกุลเงินหลัก รัฐบาลจีนเริ่มปลายปีอดทนค่อย ๆ ตกในค่าของหยวนในขณะที่ถือปิดลงอย่างมากโดย resorting การแทรกแซงการ ขายดอลลาร์ และ ซื้อหยวน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ญี่ปุ่นอาจกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดครั้งที่ 2
ของโลกอีกครั้งหรือไม่ฮิโรชิMurayama,
นิกเกอิเจ้าหน้าที่อาวุโสนักเขียนโตเกียว- อะไรคือโอกาสของญี่ปุ่นแซงจีนในแง่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในอนาคตอันใกล้? ดีแรกของทั้งหมดมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องพิจารณาว่าผลกระทบโดยรวมต่อเศรษฐกิจโลกจะเป็นใครถ้าใครจะได้รับประโยชน์. ในปี 2015 จีดีพีของญี่ปุ่นยืน 4000000000000 $ ในขณะที่จีนเป็นเรื่องเกี่ยวกับ $ 11000000000000 สำหรับสถานการณ์ที่จะกลับหยวนจะต้องผ่านช่วงเวลาของการคิดค่าเสื่อมราคามากเกินไปและเงินเยนจะต้องชื่นชม แต่สถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะโยนตลาดการเงินทั่วโลกเข้าสู่ความสับสนต่อไปและอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจโลก. ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่จะเห็นว่านี่เป็นน้อยกว่าที่พึงประสงค์มันเป็นอย่างดีมูลค่าการพิจารณาสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้หากที่เลวร้ายที่สุดมาถึงที่เลวร้ายที่สุด. มองไปที่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนที่มีประสิทธิภาพเป็นวิธีที่มีประโยชน์ของการวางแนวโน้มของสกุลเงินในมุมมอง ดัชนีอธิบายการเปลี่ยนแปลงของญาติค่าเงินหยวนที่จะไม่เพียง แต่เงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังเงินยูโรและสกุลเงินหลักอื่น ๆ ในฐานะที่เป็น มันเป็นค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอื่น ๆ คำนวณโดยใช้ปัจจัยต่างๆเช่นปริมาณการค้า. การ EER หยวนที่ประกาศโดยธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศสำหรับปี 2010 เป็น 100 สกุลเงินที่เพิ่มขึ้นเป็น 131.08 ในเดือนพฤศจิกายน 2015 ในคำอื่น ๆ หยวนแข็งค่าขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในปี 2010 ระดับ. เยนและสกุลเงินหลักอื่น ๆ ได้คิดค่าเสื่อมราคาอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน เงินยูโรจะยกมาในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 0.92 ต่อดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 0.75 ในเดือนธันวาคม 2010 ในขณะที่เงินเยนได้ลดลงในมูลค่าประมาณ 117 จาก 81 คิดเป็นน้ำตก 20% และ 40% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ตามลำดับ. ในทางตรงกันข้ามหยวน ได้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เป็นผลให้ความคุ้มค่ากับเงินเยนและเงินยูโรได้ไปขึ้นอย่างเห็นได้ชัด. เยนตัวอย่างเช่นมีการตัดค่าเสื่อมราคา 17.9 หยวนต่อจาก 12.5 ในช่วงปลายปี 2010 ซึ่งจะทำให้ประเทศจีนในตำแหน่งที่หากินในแง่ของการส่งออกไปยังยูโรโซน และญี่ปุ่น สำหรับประเทศที่จะฟื้นความสามารถในการแข่งขันการส่งออกของปี 2010 หยวนความต้องการที่จะลดลงประมาณ 20-30% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก. รัฐบาลจีนเริ่มปลายปีที่แล้วที่จะทนต่อการตกอย่างค่อยเป็นค่อยไปในค่าของเงินหยวนในขณะที่ถือออกจากน้ำได้อย่างน่าทึ่ง หันไปดอลลาร์ในการขายและการแทรกแซงหยวนซื้อ