The International Agency For Resear

The International Agency For Research On Cancer in its publication, “IARC Monographs On the Evaluation Of The Carcinogenic Risk To Humans – Silica, Some Silicates, Coal Dust and Paraaramid Fibrils” - Volume 68, 1997, has concluded that there is sufficient evidence of the carcinogenicity ofcrystalline silica in humans, and has, therefore, classified crystalline silica in, Group 1, Carcinogenic to Humans. The National Toxicology Program’s (“NTP’s”) Ninth Annual Report on Carcinogens 2000, lists crystalline silica (respirable) as a substance which is known to be a human carcinogen. In humans, a number of studies have found an association between lung cancer and exposure to dust containing respirable crystalline silica. In many of these studies, though not all, lung cancer risks were elevated and could not be explained by confounding factors such as cigarette smoking or arsenic or random inhalation. While the IARC
working group concluded there was sufficient evidence in humans for the carcinogenicity of inhaled crystalline silica in the
form of quartz or crystobalite, it noted that carcinogenicity in humans was not detected in all circumstances studied.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นานาชาติตัวแทนสำหรับงานวิจัยบนมะเร็งตีพิมพ์ "สารละจากการประเมินความเสี่ยงก่อมะเร็งต่อมนุษย์ – ซิลิก้า ไน ฝุ่นถ่านหิน และบาง Paraaramid Fibrils" - ปริมาณ 68, 1997 ได้สรุปว่า มีหลักฐานเพียงพอของซิลิกา ofcrystalline ก่อมะเร็งในมนุษย์ และ จึง ทยี่ผลึกซิลิกาใน กลุ่ม 1, Carcinogenic มนุษย์ โปรแกรมพิษวิทยาแห่งชาติของ ("NTP ของ") เก้าปี 2000 สารก่อมะเร็ง รายการผลึกซิลิกา (ปริมาณฝุ่น) เป็นสารที่เป็น สารก่อมะเร็งในมนุษย์ ในมนุษย์ จำนวนของการศึกษาได้พบความสัมพันธ์ระหว่างมะเร็งปอดและการสัมผัสฝุ่นละอองที่ประกอบด้วยปริมาณฝุ่นซิลิกาผลึก ในการศึกษาเหล่านี้ แต่ไม่ทั้งหมด ความเสี่ยงมะเร็งปอดถูกยกระดับ และไม่สามารถอธิบาย โดยรบกวนปัจจัยเช่นการสูบบุหรี่ หรือสารหนู หรือสุ่มดม ในขณะสารคณะทำงานสรุปมีหลักฐานเพียงพอในมนุษย์สำหรับการก่อมะเร็งของซิลิกาผลึกดมในการแบบฟอร์มของควอตซ์หรือ crystobalite มันตั้งข้อสังเกตว่า ก่อมะเร็งในมนุษย์ไม่พบในทุกกรณีศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็งในสิ่งพิมพ์ของ "IARC Monographs ในการประเมินความเสี่ยงสารก่อมะเร็งในมนุษย์ - ซิลิกาบางซิลิเกถ่านหินฝุ่นและ Paraaramid ซ่าน" - ปริมาณ 68, ปี 1997 ได้ข้อสรุปว่ามีหลักฐานเพียงพอของ สารก่อมะเร็งซิลิกา ofcrystalline ในมนุษย์และมีจึงจัดซิลิกาในกลุ่มที่ 1, สารก่อมะเร็งในมนุษย์ ( "NTP ของ") เก้ารายงานประจำปีของโปรแกรมพิษวิทยาแห่งชาติเกี่ยวกับสารก่อมะเร็งปี 2000 แสดงรายการผลึกซิลิกา (ทางเดินหายใจ) เป็นสารซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ในมนุษย์จำนวนของการศึกษาได้พบความสัมพันธ์ระหว่างโรคมะเร็งปอดและการสัมผัสกับฝุ่นละอองที่มีซิลิกาทางเดินหายใจได้ ในหลายการศึกษาเหล่านี้แม้ว่าจะไม่ได้ทั้งหมดความเสี่ยงโรคมะเร็งปอดได้รับการยกระดับและไม่สามารถอธิบายได้ด้วยปัจจัยเช่นการสูบบุหรี่หรือสารหนูหรือสูดดมแบบสุ่ม ในขณะที่ IARC
คณะทำงานได้ข้อสรุปว่ามีหลักฐานเพียงพอในมนุษย์สำหรับสารก่อมะเร็งของซิลิกาสูดดมในส่วน
รูปแบบของควอทซ์หรือ crystobalite ก็ตั้งข้อสังเกตว่าสารก่อมะเร็งในมนุษย์ไม่ได้ถูกตรวจพบในทุกสถานการณ์การศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยโรคมะเร็งในสิ่งพิมพ์ของ " ร่วมกับเอกสารในการประเมินความเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งในมนุษย์–ซิลิกาซิลิเกตบางฝุ่นถ่านหินและ paraaramid ไฟบริล " เล่ม 68 , 1997 , สรุปได้ว่ามีหลักฐานเพียงพอในการ ofcrystalline ซิลิกาในมนุษย์ และจึงได้จำแนกผลึกซิลิกา ในกลุ่มที่ 1 ก่อมะเร็งในมนุษย์ พิษวิทยาแห่งชาติของโปรแกรม ( " ntp " ) รายงานประจำปีที่เก้าในสารก่อมะเร็ง 2000 รายการผลึกซิลิกา ( หายใจ ) เป็นสารซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ในมนุษย์มีการศึกษาพบความสัมพันธ์ระหว่างโรคมะเร็งปอดและการหายใจเอาฝุ่นที่มีผลึกซิลิกา หลายของการศึกษาเหล่านี้ แม้ไม่ใช่ทั้งหมด ความเสี่ยงมะเร็งปอดได้สูง และไม่สามารถอธิบายได้ด้วยปัจจัยอยู่นอกเหนือการควบคุม เช่น การสูบบุหรี่ หรือสารหนู หรือ สุ่ม การสูดดม ในขณะที่ร่วมกับคณะทำงานได้มีหลักฐานเพียงพอในมนุษย์เพื่อสูดดมสารก่อมะเร็งของผลึกซิลิก้าในรูปแบบของควอทซ์ หรือ crystobalite มันระบุไว้ว่า เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ คือ ตรวจไม่พบในทุกสถานการณ์ที่ศึกษา