The elephant kraal of Ayutthaya is

The elephant kraal of Ayutthaya is an unusual structure that was used during the 16th century Ayutthaya kingdom to entrap wild elephants for the Thai army. In fact, an elephant entrapment ceremony commenced within the kraal, and was attended by the kings of the era. This kraal is the only one left in Thailand.
Elephants were once an invaluable commodity used for war, transportation service, and product export to India and Persia. Elephants from wild herds were captured by men riding tame elephants who used bamboo poles with leather nooses to ensnare the giant beasts. The captured elephants were herded into the kraal through a funnel in the back wall, and were separated for either domestic use or for exporting. The last round-up of wild elephants in Thailand was in 1903.
The kraal is surrounded by a wooden gate with pillars that are easily moved as needed. Inside the gate is a huge brick wall enclosing large wooden pillars driven deep into the ground to log in the elephants. In the center of the kraal is the temple housing the image of the elephant-headed Hindu God, Ganesha.
Nearby there is an elephant farm, where elephants are presently bred and trained.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หมู่บ้านช้างของอยุธยาจะเป็นโครงสร้างที่ผิดปกติที่ใช้ในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 16 อาณาจักรอยุธยาต่อช้างป่าสำหรับกองทัพไทย ในความเป็นจริง การพิธี entrapment ช้างเริ่มดำเนินการภายในหมู่บ้าน กกษัตริย์แห่งเข้าร่วม หมู่บ้านนี้เป็นไทยซ้ายในเดียวช้างถูกครั้งเดียวสินค้าล้ำค่าที่ใช้ในสงคราม บริการ และสินค้าส่งออกไปยังอินเดียและเปอร์เซีย ช้างจากป่าฝูงถูกจับ โดยคนขี่ช้างที่เป็นสัตว์ป่าที่ใช้ไม้ไผ่กับหนัง nooses ต่อสัตว์ยักษ์ ช้างจับได้ herded ในหมู่บ้านผ่านปล่องในผนังด้านหลัง และถูกแยกออก สำหรับใช้ภายในประเทศ หรือส่งออก ปัดเศษขึ้นสุดท้ายของช้างป่าในประเทศไทยอยู่ใน 1903หมู่บ้านล้อมรอบ ด้วยประตูไม้มีเสาที่กำลังเดินตาม ภายในประตูมีกำแพงอิฐขนาดใหญ่ล้อมเสาไม้ขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนลึกเข้าไปในพื้นดินเพื่อเข้าสู่ระบบในช้าง ในหมู่บ้านมีวัดที่อยู่อาศัยภาพของหัวช้างฮินดูพระเจ้า กาเนชาในบริเวณใกล้เคียงมีเป็นฟาร์มช้างการ ที่ช้างปัจจุบัน bred และผ่านการฝึกอบรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หมู่บ้านช้างอยุธยาเป็นโครงสร้างที่ผิดปกติที่ถูกใช้ในช่วงศตวรรษที่ 16 อาณาจักรอยุธยาที่จะดักจับช้างป่าสำหรับกองทัพไทย ในความเป็นจริงพิธีดักช้างเริ่มภายในหมู่บ้านและมีผู้เข้าร่วมโดยกษัตริย์ในยุคนั้น หมู่บ้านนี้เป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในประเทศไทย.
ช้างครั้งหนึ่งเคยเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทรงคุณค่าที่ใช้สำหรับการทำสงคราม, บริการการขนส่งและการส่งออกสินค้าไปยังอินเดียและเปอร์เซีย ช้างจากฝูงวัวป่าถูกจับโดยคนขี่ช้างเชื่องที่ใช้เสาไม้ไผ่ที่มีขึงหนังที่จะดักจับสัตว์ยักษ์ ช้างถูกจับต้อนเข้าไปในหมู่บ้านผ่านช่องทางในผนังด้านหลังและถูกแยกออกจากกันสำหรับทั้งการใช้งานในประเทศหรือสำหรับการส่งออก สุดท้ายรอบขึ้นจากช้างป่าในประเทศไทยในปี 1903.
หมู่บ้านล้อมรอบด้วยประตูไม้ที่มีเสาหลักที่มีการเคลื่อนย้ายได้ง่ายตามต้องการ ภายในประตูเป็นผนังอิฐขนาดใหญ่ล้อมรอบเสาไม้ขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยลึกลงไปในพื้นดินที่จะเข้าสู่ระบบในช้าง ในใจกลางของหมู่บ้านเป็นที่อยู่อาศัยวัดภาพของหัวช้างพระเจ้าในศาสนาฮินดูพระพิฆเนศวร.
ใกล้เคียงมีฟาร์มช้างที่ช้างเป็นพันธุ์ในปัจจุบันและการฝึกอบรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หมู่บ้านช้างที่อยุธยาเป็นปกติโครงสร้างที่ถูกใช้ในช่วงศตวรรษที่ 16 จังหวัด เพื่อจับช้างป่าให้กับทหารไทย ในความเป็นจริง , ช้างเล็ก พิธีเริ่ม ภายในหมู่บ้าน และได้เข้าร่วมโดยกษัตริย์แห่งยุค หมู่บ้านนี้มีเพียงคนเดียวในประเทศไทย
ช้างเคยเป็นสินค้าที่มีใช้ในสงคราม , บริการขนส่งและผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไปยังอินเดียและเปอร์เซีย จากฝูงช้างป่าที่ถูกจับโดยคนขี่ช้างเชื่อง ที่ใช้เสาไม้ไผ่กับหนังห่วงที่จะดักสัตว์ยักษ์ จับช้างถูกต้อนเข้าหมู่บ้านผ่านช่องทางในผนังด้านหลังและถูกแยกออกจากกันเพื่อให้ใช้ภายในประเทศ หรือเพื่อการส่งออก รอบสุดท้ายของช้างป่าในประเทศไทยในปี 1903 .
มีหมู่บ้านล้อมรอบด้วยประตูไม้กับเสาที่เคลื่อนย้ายได้ง่ายตามต้องการ ภายในประตูมีขนาดใหญ่ผนังอิฐล้อมเสาไม้ขนาดใหญ่ซึ่งลึกเข้าไปในพื้นดินเพื่อเข้าสู่ระบบในช้าง ในศูนย์กลางของหมู่บ้านเป็นวัดบ้านรูปช้างหัวเทพเจ้าฮินดู พระพิฆเนศ
ใกล้เคียงมีช้างช้างฟาร์ม ซึ่งปัจจุบันพันธุ์และการฝึกฝน