โรคโลหิตจากซิกเคิลเซลล์ เป็นตัวอย่า

โรคโลหิตจากซิกเคิลเซลล์ เป็นตัวอย่างของโรคพันธุกรรมที่มีผลมาจากการเกิดมาเทชัน โดยปกติ DNA โมเลกุลใหม่ที่มีลำดับการเรียงตัวของเบสและจำนวนของเบสเหมือน DNA โมเลกุลเดิมทุกประการ แต่ในบางครั้งการจำลองตัวเองของ DNA จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้หลายลักษณะ เช่น เบสเปลี่ยนจากชนิดเดิมเป็นเบสชนิดอื่น นิวคลีโอไทด์ขาดหายไป นิวคลีโอไทด์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น หรือลำดับของนิวคลีโอไทด์เปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็น point mutation ดังภาพที่ 17-23 มีผลทำให้รหัสพันธุกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม ลำดับและชนิดของกรดอะมิโนหลังจากตำแหน่งนี้ไปจะเปลี่ยนไปด้วย สมบัติของโปรตีนหรือพอลิเพปไทด์ที่สังเคราะห์ขึ้นจึงแตกต่างไปจากเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรคโลหิตจากซิกเคิลเซลล์เป็นตัวอย่างของโรคพันธุกรรมที่มีผลมาจากการเกิดมาเทชันโดยปกติดีเอ็นเอโมเลกุลใหม่ที่มีลำดับการเรียงตัวของเบสและจำนวนของเบสเหมือนดีเอ็นเอโมเลกุลเดิมทุกประการแต่ในบางครั้งการจำลองตัวเองของดีเอ็นเอจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้หลายลักษณะเช่นเบสเปลี่ยนจากชนิดเดิมเป็นเบสชนิดอื่นนิวคลีโอไทด์ขาดหายไปนิวคลีโอไทด์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นหรือลำดับของนิวคลีโอไทด์เปลี่ยนไปการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นลำดับและชนิดของกรดอมีผลทำให้รหัสพันธุกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม 17-23 การกลายพันธุ์ดังภาพที่จุดะมิโนหลังจากตำแหน่งนี้ไปจะเปลี่ยนไปด้วยสมบัติของโปรตีนหรือพอลิเพปไทด์ที่สังเคราะห์ขึ้นจึงแตกต่างไปจากเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคโลหิตจากซิกเคิลเซลล์ โดยปกติดีเอ็นเอ ดีเอ็นเอโมเลกุลเดิมทุกประการ แต่ในบางครั้งการจำลองตัวเองของดีเอ็นเอ เช่น นิวคลีโอไทด์ขาดหายไปนิวคลีโอไทด์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นหรือลำดับของนิวคลีโอไทด์เปลี่ยนไปการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจุดกลายพันธุ์เป็นดังภาพที่ 17-23

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคโลหิตจากซิกเคิลเซลล์เป็นตัวอย่างของโรคพันธุกรรมที่มีผลมาจากการเกิดมาเทชันโดยปกติโมเลกุลใหม่ที่มีลำดับการเรียงตัวของเบสและจำนวนของเบสเหมือนโมเลกุลเดิมทุกประการแต่ในบางครั้งการจำลองตัวเองของดีเอ็นเอดีเอ็นเอจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้หลายลักษณะเช่นเบสเปลี่ยนจากชนิดเดิมเป็นเบสชนิดอื่นนิวคลีโอไทด์ขาดหายไปนิวคลีโอไทด์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นหรือลำดับของนิวคลีโอไทด์เปลี่ยนไปการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นการผ่าเหล่านี้มีผลทำให้รหัสพันธุกรรมเปลี่ยนไปจากเดิมลำดับและชนิดของกรดอะมิโนหลังจากตำแหน่งนี้ไปจะเปลี่ยนไปด้วยสมบัติของโปรตีนหรือพอลิเพปไทด์ที่สังเคราะห์ขึ้นจึงแตกต่างไปจากเดิม