The increasing complexity of financ

The increasing complexity of financial reporting requirements, especially accounting standards, leads many countries to consider moving to simpler reporting requirements for small and medium enterprises (SMEs) in order to reduce reporting burdens. In response to such concern, the International Accounting Standards Board (IASB) also released the IFRS for SMEs, an international accounting standard intended for SMEs worldwide. In Thailand, SMEs are required by law to prepare and publish general purpose financial statements for statutory reporting, but the Thai financial reporting framework is complex. Thus, it would be beneficial for Thai SMEs if their reporting burdens were reduced. The IFRS for SMEs might be considered as an alternative set of accounting standards in Thailand, so its suitability to Thai SMEs is worth evaluating.
This present study examines SME reporting in Thailand to ascertain its features and to evaluate its costs and benefits to SME stakeholders. Both qualitative and quantitative approaches are adopted in the study. Semi-structured interviews of SMEs, users and other stakeholders are conducted and the data are analysed using Strauss and Corbin’s grounded theory approach. A questionnaire survey of directors or managers of SMEs and a review of SME financial statements are also undertaken. Univariate and multivariate data analysis is carried out with these two data sets.
Overall, the interview and survey research concludes that SMEs in Thailand prepare and publish their financial reporting largely in order to meet legal requirements. They rely on their accountants in fulfilling these reporting obligations. For SME directors, costs of reporting are not considered to be an undue burden. Tax authorities, entities’ managements and lenders, in order, are perceived to be the most important users. However, it appears that the financial information in SME financial is unable to meet the needs of these main users. Preparation of financial statements with tax motivation, limited disclosures and out-of-date information are identified as the main weaknesses in SME financial statements. The analysis of SME financial statements shows that: the majority of SMEs engage in simple business transactions and non-compliance with mandatory accounting standards exists among many SMEs. SME stakeholders generally support using simpler accounting standards for SMEs. The IFRS for SMEs seems to be too complicated for many Thai SMEs and inconsistency with tax rules is an issue. The findings of this study are of interest to standard setters and other SME stakeholders in Thailand and other countries. The study also provides implications for SMEs, their accountants and their stakeholders.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความซับซ้อนเพิ่มขึ้นความต้องรายงานทางการเงิน บัญชีมาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายประเทศพิจารณาย้ายต้องง่ายกว่ารายงานสำหรับวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) เพื่อลดภาระการรายงาน เพื่อตอบสนองต่อความกังวลดังกล่าว การนานาชาติบัญชีมาตรฐาน Board (IASB) ยังออก IFRS ที่สำหรับ SMEs มาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศไว้สำหรับ SMEs ทั่วโลก ในประเทศไทย SMEs จำเป็นตามกฎหมายเพื่อจัดทำ และเผยแพร่ทั่วไปงบการเงินสำหรับการรายงานตามกฎหมาย แต่กรอบการรายงานทางการเงินไทยมีความซับซ้อน ดังนั้น มันจะเป็นประโยชน์สำหรับ SMEs ไทยถ้ามีลดภาระการรายงาน IFRS สำหรับ SMEs อาจถือว่าเป็นชุดมาตรฐานบัญชีในประเทศไทย เป็นทางเลือกเพื่อความเหมาะสมของ SMEs ไทยให้มีมูลค่าประเมินการศึกษานี้นำเสนอตรวจสอบ SME ในประเทศไทย เพื่อตรวจด้วย และรายงาน เพื่อประเมินต้นทุนและผลประโยชน์กับ SME เสียของ วิธีทั้งเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณนำมาใช้ในการศึกษา ดำเนินการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง ของ SMEs ผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ และข้อมูลที่ analysed ใช้สโทรสและของ Corbin วิธีทฤษฎีป่นเล็กน้อย การสำรวจแบบสอบถามกรรมการหรือผู้จัดการของ SMEs และตรวจสอบงบการเงิน SME ยังทำ วิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร Univariate และ multivariate จะดำเนินกับชุดข้อมูลเหล่านี้สองโดยรวม การสัมภาษณ์และการสำรวจวิจัยสรุปว่า SMEs ในประเทศไทยเตรียมความพร้อม และเผยแพร่การรายงานทางการเงินส่วนใหญ่เพื่อตอบสนองความต้องการทางกฎหมาย พวกเขาอาศัยบัญชีของพวกเขาในการดำเนินการตามพันธกรณีเหล่านี้รายงาน กรรมการบรรษัท รายงานต้นทุนจะไม่ถือเป็นภาระไม่ครบกำหนดชำระ ภาษีหน่วยงาน เอนทิตีของทีมงานบริหาร และผู้ให้ กู้ ลำดับ ถือว่าเป็น ผู้ที่สำคัญที่สุด อย่างไรก็ตาม มันปรากฏว่าข้อมูลทางการเงินในการเงิน SME ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้หลักเหล่านี้ จัดเตรียมงบการเงินมีแรงจูงใจของภาษี จำกัดเปิดเผย และข้อมูลที่ล้าสมัยจะระบุเป็นจุดอ่อนหลักในงบการเงิน SME การวิเคราะห์งบการเงิน SME แสดงที่: ส่วนใหญ่ของ SMEs ที่เข้าร่วมในธุรกรรมทางธุรกิจ และไม่มีการปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีบังคับอยู่ระหว่าง SMEs จำนวนมาก เสีย SME โดยทั่วไปสนับสนุนการใช้มาตรฐานทางบัญชีที่ง่ายกว่าสำหรับ SMEs IFRS สำหรับ SMEs น่าจะซับซ้อนเกินไปสำหรับ SMEs ในไทย และไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบภาษีเป็นประเด็น ผลการวิจัยของการศึกษานี้น่าสนใจมาตรฐาน setters เสีย SME ในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ได้ การศึกษายังมีผลกระทบสำหรับ SMEs นักบัญชี และผู้มีส่วนได้เสีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของความต้องการการรายงานทางการเงินโดยเฉพาะมาตรฐานการบัญชีที่นำไปสู่หลายประเทศที่จะต้องพิจารณาความต้องการที่จะย้ายไปรายงานง่ายสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อลดภาระการรายงาน เพื่อตอบสนองต่อความกังวลดังกล่าวการบัญชีระหว่างประเทศคณะกรรมการมาตรฐาน (IASB) ยังปล่อย IFRS สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นมาตรฐานการบัญชีสากลที่มีไว้สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ทั่วโลก ในประเทศไทยผู้ประกอบการ SMEs ต้องตามกฎหมายเพื่อเตรียมความพร้อมและเผยแพร่ทั่วไปงบการเงินสำหรับการรายงานตามกฎหมาย แต่กรอบการรายงานทางการเงินไทยมีความซับซ้อน ดังนั้นมันจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ไทยถ้าภาระการรายงานของพวกเขาลดลง IFRS สำหรับ SMEs อาจถือได้ว่าเป็นชุดที่ทางเลือกของมาตรฐานการบัญชีในประเทศไทยเพื่อความเหมาะสมในการ SMEs ไทยมีมูลค่าการประเมิน.
การศึกษาครั้งนี้นำเสนอการตรวจสอบรายงาน SME ในประเทศไทยเพื่อยืนยันคุณสมบัติและการประเมินค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ของตนผู้มีส่วนได้เสีย SME ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับในการศึกษา การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างของ SMEs ผู้ใช้และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ที่จะดำเนินการและข้อมูลที่มีการวิเคราะห์โดยใช้สเตราส์และคอร์ของวิธีทฤษฎี การสำรวจแบบสอบถามกรรมการหรือผู้จัดการของ SMEs และการทบทวนงบการเงิน SME มีการดำเนินการยัง univariate และการวิเคราะห์ข้อมูลหลายตัวแปรจะดำเนินการกับทั้งสองชุดข้อมูล.
โดยรวม, การสัมภาษณ์และการวิจัยเชิงสำรวจสรุปว่าผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศไทยจัดทำและเผยแพร่การรายงานทางการเงินของพวกเขาส่วนใหญ่เพื่อตอบสนองความต้องการทางกฎหมาย พวกเขาพึ่งพาบัญชีของพวกเขาในการปฏิบัติตามภาระหน้าที่รายงานเหล่านี้ กรรมการ SME ค่าใช้จ่ายของการรายงานที่ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นภาระเกินควร เจ้าหน้าที่ภาษีผู้บริหารหน่วยงานและผู้ให้กู้ในการสั่งซื้อมีการรับรู้ที่จะเป็นผู้ใช้ที่สำคัญที่สุด แต่ปรากฏว่าข้อมูลทางการเงินในทางการเงิน SME ไม่สามารถที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้หลักเหล่านี้ การจัดทำงบการเงินที่มีแรงจูงใจภาษีการเปิดเผยข้อมูลที่ จำกัด และออกจากข้อมูลที่ทันสมัยได้รับการระบุว่าเป็นจุดอ่อนที่สำคัญในงบการเงิน SME การวิเคราะห์งบการเงิน SME แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ผู้ประกอบการ SMEs มีส่วนร่วมในการทำธุรกรรมทางธุรกิจที่เรียบง่ายและการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีที่บังคับใช้อยู่ในหมู่ผู้ประกอบการ SMEs จำนวนมาก ผู้มีส่วนได้เสีย SME ทั่วไปสนับสนุนการใช้มาตรฐานการบัญชีที่ง่ายสำหรับผู้ประกอบการ SMEs IFRS สำหรับ SMEs ดูเหมือนว่าจะซับซ้อนเกินไปสำหรับ SMEs ไทยจำนวนมากและไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบภาษีเป็นปัญหา ผลการศึกษาครั้งนี้เป็นที่สนใจของ setters มาตรฐาน SME และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ การศึกษายังให้ผลกระทบต่อผู้ประกอบการ SMEs บัญชีของพวกเขาและผู้มีส่วนได้เสียของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเพิ่มความซับซ้อนของการรายงานทางการเงินและความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรฐานการบัญชี ทำให้หลายประเทศต้องพิจารณาย้ายไปง่ายกว่าการรายงานความต้องการของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( SMEs ) เพื่อลดภาระการรายงาน . ในการตอบสนองต่อปัญหาดังกล่าว มาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศคณะกรรมการ ( IASB ) ก็ปล่อย IFRS สำหรับธุรกิจมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศมีวัตถุประสงค์สำหรับธุรกิจทั่วโลก ในประเทศไทย , ธุรกิจต้องตามกฎหมายเพื่อเตรียมความพร้อมและเผยแพร่งบการเงินวัตถุประสงค์ทั่วไปสำหรับการรายงานตามกฎหมาย แต่ไทยมีกรอบการรายงานทางการเงินที่ซับซ้อน ดังนั้น , มันจะเป็นประโยชน์ต่อ SMEs ไทย ถ้ารายงานภาระลดลงIFRS สำหรับ SMEs อาจจะถือว่าเป็นทางเลือกชุดของมาตรฐานการบัญชีไทย ดังนั้นจึงเหมาะสมกับ SMEs ไทยมีมูลค่าประเมิน .
การศึกษานี้ตรวจสอบสินเชื่อรายงานในประเทศไทย เพื่อให้มีคุณลักษณะ และประเมินต้นทุนและประโยชน์กับ SME ผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการในการศึกษา การสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างของบริษัทฯผู้ใช้และผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆดำเนินการและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ สเตราส์ คอร์บินเป็นสายดินและแนวคิดทฤษฎี เป็นแบบสอบถามของกรรมการหรือผู้จัดการของ SMEs และทบทวน โดยงบการเงินจะยังแลก 2 การวิเคราะห์ข้อมูลหลายตัวแปรและข้อมูลทั้งสองชุดข้อมูล .
โดยรวมสัมภาษณ์และการวิจัยเชิงสำรวจพบว่า ผู้ประกอบการไทยเตรียมความพร้อมและเผยแพร่รายงานทางการเงินของพวกเขาส่วนใหญ่เพื่อตอบสนองความต้องการทางกฎหมาย พวกเขาพึ่งพานักบัญชีของตนเองในการตอบสนองเหล่านี้รายงานหน้าที่ สำหรับผู้บริหาร SMEs , ค่าใช้จ่ายของรายงานจะไม่ถือเป็นภาระเกินควร . เจ้าหน้าที่ภาษีนิติบุคคล ' ผู้บริหารและผู้ให้กู้ ในการสั่งซื้อมีการรับรู้ที่จะเป็นผู้ใช้ที่สำคัญที่สุด แต่ปรากฏว่าข้อมูลทางการเงินในธุรกิจการเงิน ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้หลักเหล่านี้ จัดทำงบการเงิน ด้วยแรงจูงใจภาษี , การเปิดเผยข้อมูล จำกัด และจากข้อมูลวันที่ถูกระบุว่าเป็นจุดอ่อนหลักของ SME งบการเงิน การวิเคราะห์งบการเงินของธุรกิจพบว่าส่วนใหญ่ของ SMEs ที่ประกอบธุรกรรมทางธุรกิจที่ง่ายและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีข้อบังคับที่มีอยู่ระหว่าง SMEs มากมาย โดยผู้มีส่วนได้เสียโดยทั่วไปสนับสนุนการใช้ง่ายกว่ามาตรฐานการบัญชีสำหรับ SMEs IFRS สำหรับ SMEs ดูเหมือนจะซับซ้อนเกินไปสำหรับ SMEs ไทยจํานวนมากและสอดคล้องกับกฎระเบียบภาษีที่เป็นปัญหา