นักบุญเปโตร ซีมอน เป็นชาวประมงคนหนึ่งของตำบลเบทไซดา (ลก. 5:3 ;ยน.1:44  การแปล - นักบุญเปโตร ซีมอน เป็นชาวประมงคนหนึ่งของตำบลเบทไซดา (ลก. 5:3 ;ยน.1:44  ไทย วิธีการพูด

นักบุญเปโตร ซีมอน เป็นชาวประมงคนหนึ

นักบุญเปโตร ซีมอน เป็นชาวประมงคนหนึ่งของตำบลเบทไซดา (ลก. 5:3 ;ยน.1:44 ) ต่อมาได้ย้ายมาตั้งหลักแหล่งที่เมืองคาร์เปอร์นาอุม ( มก. 1: 21,29 ) นักบุญอันดรูว์ น้องชายของท่านได้เป็นคนแนะนำให้ท่านติดตามพระเยซูเจ้า ( ยน. 1:42 ) และอาจเป็นนักบุญยอห์น แบปติสต์ที่ได้เป็นผู้ตระเตรียมจิตใจของท่าน สำหรับการพบปะครั้งสำคัญของท่านกับองค์พระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าได้ทรงเปลี่ยนชื่อท่านและทรงเรียกท่านด้วยชื่อใหม่ว่า “เปโตร” (มธ. 16: 17-19) เพื่อทำหน้าที่เป็นศิลาพื้นฐานในตัวบุคคลของท่านเองที่พระองค์จะทรงสร้างคริสตจักรไว้นักบุญเปโตร เป็นพยานบุคคลแรกๆผู้หนึ่งที่ได้แลเห็นพระคูหาว่างเปล่าของพระอาจารย์ ( ยน. 20:6 ) และได้รับการประจักษ์มาขององค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ ( ยน. 21:1-2 ) หลังจากที่พระเยซูเจ้าได้เสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว ท่านก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำบรรดาคริสตชน ( กจ. 1: 15 ; 15:7 ) ได้กล่าวสรุปข่าวดี (พระวรสาร) ( กจ. 2:14-41 ) และท่านเองเป็นคนแรกที่ได้แลเห็นความจำเป็นที่จะต้องเปิดพระศาสนจักรไปสู่คนต่างชาติ ( กจ.10-11 )ภารกิจด้านวิญญาณที่ได้รับมอบหมายมิใช่ว่าจะช่วยให้ท่านหมดจากสภาพของความเป็นคน หรือจากข้อบกพร่องต่างๆ ทางอารมณ์ก็หาไม่ (มธ.10: 41 ; 14:26,66-72; ยน. 13: 6;18:10; มธ. 14: 29-31 ) นักบุญเปาโลเองก็มิได้ลังเลใจแต่อย่างใด ที่จะพูดจาต่อว่าท่านเวลาที่พบกันที่เมืองอันติโอก ( กจ.15; กท. 2:11-14 ) เพื่อเชิญชวนท่านว่าไม่ต้องปฏิบัติตามแบบชาวยิว ในเรื่องนี้รู้สึกว่านักบุญเปโตร ยังตัดสินใจช้า และยังถือว่ากลุ่มคริสตชนซึ่งเดิมทีเป็นคนต่างศาสนา ก็ยังด้อยกว่าหรือเป็นรองกลุ่มคริสตชนที่เดิมทีเป็นชาวยิว ( กจ. 6: 1-2 ) ต่อเมื่อนักบุญ เปโตรได้มาที่กรุงโรม เมื่อนั้นแหละท่านจึงจะได้กลายเป็นอัครธรรมทูตของทุกๆคน และได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างครบถ้วนคือเป็น “ศิลาหัวมุม” ของพระศาสนจักรของพระเยซูเจ้า โดยรวมชาวยิวและคนต่างศาสนาให้เข้ามาอยู่ภายในอาคารเดียวกัน

ในไม่ช้า หลังจากนี้ กษัตริย์เฮรอดได้จำคุกนักบุญเปโตร พระองค์ได้ประหารชีวิตนักบุญยากอบ(องค์ใหญ่) และตั้งพระทัยไว้ว่าพระองค์จะทำกับนักบุญเปโตรเช่นเดียวกัน แต่พระเป็นเจ้าได้ทรงปลดปล่อยท่านอย่างมหัศจรรย์ โดยส่งเทวดาองค์หนึ่งมาช่วยท่านหนีออกจากคุก เพื่อนักบุญเปโตรจะได้ดำเนินงานแพร่ธรรมต่อไปอย่างร้อนรน ด้วยการเทศนาและทำให้คนกลับใจ หลังจากงานแพร่ธรรมได้ผลิดอกออกผลเป็นเวลา 6 ปี หัวหน้าอัครสาวกได้เดินทางไปกรุงโรม เมืองหลวงของอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่ ท่านได้เดินทางบนบกข้ามน้ำข้ามทะเล และมาถึงปอร์ต้า ปอร์ติส ใจกลางของโลกที่ไม่เชื่อถือพระเจ้า มีสัตบุรุษกลับใจจำนวนหนึ่ง ตั้งรกรากอยู่บนฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ ในการเบียดเบียนศาสนาครั้งแรก เขาทั้งหลายถูกขับไล่ออกจากกรุงเยรูซาเล็ม คริสตชนเหล่านี้ได้มาต้อนรับท่าน และนักบุญพริสซีเลียได้พาท่านไปอยู่กับครอบครัวของเธอ ซึ่งมีสมาชิกทุกคนเป็นนักบุญ ต่อมาจักรพรรดิเนโร แห่งโรม ได้สั่งทหารให้จับนักบุญเปโตรขังคุก ท่านได้ดำเนินการเทศนาต่อไปถึงแม้ว่าท่านติดอยู่ในคุก และได้ทำให้ผู้คุมกลับใจ พระเป็นเจ้าได้ทรงจัดหาน้ำให้ท่าน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการประกอบพิธีรับศีลล้างบาป โดยให้น้ำพุเป็นฟองผุดขึ้นมาจากพื้นดินในห้องขัง คริสตชนชาวโรมได้อ้อนวอนหัวหน้าอัครสาวกให้หนีออกจากคุก ในที่สุดแผนการของเขาทั้งหลายได้ประสบความสำเร็จ คนได้หย่อนท่านลงจากกำแพงคุกและท่านก็รีบเดินทางไปยังปอร์ตาคาปิน่า ขณะหลบหนี ท่านได้พบพระเยซูเจ้ากำลังแบกไม้กางเขนของพระองค์ จึงเอ่ยถามว่า “พระเจ้าข้า พระองค์เสด็จไปที่ไหน?” “เราไปโรม ถูกตรึงกางเขน อีกครั้งหนึ่ง เพื่อท่าน” นักบุญเปโตรได้เข้าใจน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ท่านต้องกลับไปโรมทนทุกข์ทรมานเพื่อฝูงแกะของท่าน ณ จุดนั้นได้มีการสร้างวัดเล็กๆหลังหนึ่ง ชื่อว่า “โควาดิส” เพื่อระลึกถึงการประจักษ์ของพระเยซูเจ้าครั้งนั้น

เมื่อกลับถึงโรม ท่านถูกขังคุกและโบยตี ในที่สุดนักบุญเปโตรได้ให้พรอำลาฝูงแกะของท่าน โดยเฉพาะนักบุญเปาโล ผู้ซึ่งกำลังจะโดนตัดศีรษะในวันเดียวกันนอกกรุงโรม แล้วทหารพาท่านขึ้นไปบนยอดเขาวาติกัน สถานที่สำหรับประหารชีวิต ท่านจะต้องตายถูกตรึงบนไม้กางเขน ท่านคิดว่าตัวท่านไม่สมควรตายแบบเดียวกับพระอาจารย์ ท่านได้ขอร้องนายทหาร ตรึงกางเขนท่านเอาศีรษะลงและเท้าชี้ฟ้า คำขอร้องของท่านได้รับอนุมัติ พระสันตะปาปาองค์แรกและผู้แทนพระคริสตเจ้าบนแผ่นดินนี้ ได้รับรางวัลชั่วนิรันดรในสวรรค์ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ในปี 67 รวมทั้งพระสันตะปาปา 31 องค์แรกต้องหลั่งโลหิตเพื่อพิทักษ์รักษาพระศาสนจักร ซึ่งเป็นหนึ่งเดียว ศักดิ์สิทธิ์ สากล และสืบต่อจากอัครสาวก

พระเยซู (Jesus) ทรงได้เปลี่ยนชื่อท่านใหม่และทรงเรียกว่า ” เปโตร ” ซึ่งแปลว่า ” ศิลา” (มธ. 16 : 17-19) ครั้งหนึ่งพระเยซูตรัสถามท่านว่า ” ท่านคิดว่าเราเป็นใคร ” และเปโตรได้ทูลว่า” พระองค์คือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเป็นเจ้า ” พระเยซูจึงตรัสว่า ” เราจะตั้งท่านเป็นหัวหน้าแทนเรา ทั้งจะมอบกุญแจอาณาจักรแห่งเมืองสวรรค์”(มธ. 16 : 15-19) สัญญลักษณ์ที่เห็นเด่นชัดในภาพคือ มือของท่านมีลูกกุญแจ

นักบุญ เปโตร เป็นพยานบุคคลแรกๆผู้หนึ่งที่ได้แลเห็นพระคูหาว่างเปล่าของพระอาจารย์ ( ยน. 20:6 ) และได้รับการประจักษ์มาขององค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ ( ลก. 23:34 )หลังจากที่พระเยซูเจ้าได้เสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว ท่านก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำบรรดาคริสตชน ( กจ. 1: 15 ; 15:7 ) ได้กล่าวสรุปข่าวดี (พระวรสาร) ( กจ. 2:14-41 ) และท่านเองเป็นคนแรกที่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเปิดพระศาสนจักรไปสู่พวกคนต่างชาติ ( กจ.10-11 ) ภ ารกิจด้านวิญญาณที่ได้รับมอบหมายมิใช่ว่าจะช่วยให้ท่านหมดจากสภาพของความเป็นคนหรือจากข้อบกพร่องต่างๆ ทางอารมณ์ก็หาไม่ ( มธ.10: 41 ; 14:26,66-72; ยน. 13: 6;18:10; มธ. 14: 29-31 ) นักบุญเปาโล (Saint Paul) เองก็มิได้ลังเลใจแต่อย่างใดที่จะพูดจาต่อว่าท่านเวลาที่พบกันที่เมืองอันติโอก (Antioch) ( กจ.15; กท. 2:11-14 ) เพื่อเชิญชวนท่านว่าไม่ต้องปฏิบัติตามแบบของพวกยิว ในเรื่องนี้รู้สึกว่านักบุญ เปโตร ยังตัดสินใจช้าและยังถือว่ากลุ่มคริสตชนซึ่งเดิมทีเป็นคนต่างศาสนาก็ยังด้อยกว่าหรือเป็นรองกลุ่มคริสตชนที่เดิมทีเป็นชาวยิว ( กจ. 6: 1-2 ) ต่อเมื่อนักบุญ เปโตร ได้มาที่กรุงโรม เมื่อนั้นแหละท่านจึงจะได้กลายเป็นอัครธรรมทูตของทุกๆ คน และได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างครบถ้วน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ต่อมาได้ย้ายมาตั้งหลักแหล่งที่เมืองคาร์เปอร์นาอุมนักบุญเปโตรซีมอนเป็นชาวประมงคนหนึ่งของตำบลเบทไซดา (ลก. 5:3; ยน.1:44) (มก 1:21,29) นักบุญอันดรูว์น้องชายของท่านได้เป็นคนแนะนำให้ท่านติดตามพระเยซูเจ้า (ยน. 1:42) และอาจเป็นนักบุญยอห์นแบปติสต์ที่ได้เป็นผู้ตระเตรียมจิตใจของท่านสำหรับการพบปะครั้งสำคัญของท่านกับองค์พระเยซูเจ้าพระเยซูเจ้าได้ทรงเปลี่ยนชื่อท่านและทรงเรียกท่านด้วยชื่อใหม่ว่า "เปโตร" (มธ. 16:17-19) เพื่อทำหน้าที่เป็นศิลาพื้นฐานในตัวบุคคลของท่านเองที่พระองค์จะทรงสร้างคริสตจักรไว้นักบุญเปโตรเปท่านก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำบรรดาคริสตชนหลังจากที่พระเยซูเจ้าได้เสด็จขึ้นสวรรค์แล้วและได้รับการประจักษ์มาขององค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ (ยน. 21:1-2) ็นพยานบุคคลแรกๆผู้หนึ่งที่ได้แลเห็นพระคูหาว่างเปล่าของพระอาจารย์ (ยน. 20:6) (กจ. 1:15; 15:7) ได้กล่าวสรุปข่าวดี (พระวรสาร) (กจ. 2:14-41) และท่านเองเป็นคนแรกที่ได้แลเห็นความจำเป็นที่จะต้องเปิดพระศาสนจักรไปสู่คนต่างชาติ (กจ.10-11) ภารกิจด้านวิญญาณที่ได้รับมอบหมายมิใช่ว่าจะช่วยให้ท่านหมดจากสภาพของความเป็นคนหรือจากข้อบกพร่องต่าง ๆ ทางอารมณ์ก็หาไม่ (มธ.10: 41; 14:26, 66-72 ยน 13:6; 18:10 มธ 14:29-31) นักบุญเปาโลเองก็มิได้ลังเลใจแต่อย่างใดที่จะพูดจาต่อว่าท่านเวลาที่พบกันที่เมืองอันติโอก (กจ.15 กท. 2:11-14) เพื่อเชิญชวนท่านว่าไม่ต้องปฏิบัติตามแบบชาวยิวในเรื่องนี้รู้สึกว่านักบุญเปโตรยังตัดสินใจช้าและยังถือว่ากลุ่มคริสตชนซึ่งเดิมทีเป็นคนต่างศาสนาก็ยังด้อยกว่าหรือเป็นรองกลุ่มคริสตชนที่เดิมทีเป็นชาวยิว (กจ. 6:1-2) ต่อเมื่อนักบุญเปโตรได้มาที่กรุงโรมเมื่อนั้นแหละท่านจึงจะได้กลายเป็นอัครธรรมทูตของทุกๆคนและได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างครบถ้วนคือเป็น "ศิลาหัวมุม" ของพระศาสนจักรของพระเยซูเจ้าโดยรวมชาวยิวและคนต่างศาสนาให้เข้ามาอยู่ภายในอาคารเดียวกัน ในไม่ช้าหลังจากนี้กษัตริย์เฮรอดได้จำคุกนักบุญเปโตรพระองค์ได้ประหารชีวิตนักบุญยากอบ(องค์ใหญ่)และตั้งพระทัยไว้ว่าพระองค์จะทำกับนักบุญเปโตรเช่นเดียวกันแต่พระเป็นเจ้าได้ทรงปลดปล่อยท่านอย่างมหัศจรรย์โดยส่งเทวดาองค์หนึ่งมาช่วยท่านหนีออกจากคุกเพื่อนักบุญเปโตรจะได้ดำเนินงานแพร่ธรรมต่อไปอย่างร้อนรนด้วยการเทศนาและทำให้คนกลับใจหลังจากงานแพร่ธรรมได้ผลิดอกออกผลเป็นเวลา 6 ปีหัวหน้าอัครสาวกได้เดินทางไปกรุงโรมเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่ท่านได้เดินทางบนบกข้ามน้ำข้ามทะเลและมาถึงปอร์ต้าปอร์ติสใจกลางของโลกที่ไม่เชื่อถือพระเจ้ามีสัตบุรุษกลับใจจำนวนหนึ่งตั้งรกรากอยู่บนฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ในการเบียดเบียนศาสนาครั้งแรกเขาทั้งหลายถูกขับไล่ออกจากกรุงเยรูซาเล็มคริสตชนเหล่านี้ได้มาต้อนรับท่านและนักบุญพริสซีเลียได้พาท่านไปอยู่กับครอบครัวของเธอซึ่งมีสมาชิกทุกคนเป็นนักบุญต่อมาจักรพรรดิเนโรแห่งโรมได้สั่งทหารให้จับนักบุญเปโตรขังคุกท่านได้ดำเนินการเทศนาต่อไปถึงแม้ว่าท่านติดอยู่ในคุกและได้ทำให้ผู้คุมกลับใจพระเป็นเจ้าได้ทรงจัดหาน้ำให้ท่านซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการประกอบพิธีรับศีลล้างบาปโดยให้น้ำพุเป็นฟองผุดขึ้นมาจากพื้นดินในห้องขังคริสตชนชาวโรมได้อ้อนวอนหัวหน้าอัครสาวกให้หนีออกจากคุกในที่สุดแผนการของเขาทั้งหลายได้ประสบความสำเร็จคนได้หย่อนท่านลงจากกำแพงคุกและท่านก็รีบเดินทางไปยังปอร์ตาคาปิน่าขณะหลบหนีท่านได้พบพระเยซูเจ้ากำลังแบกไม้กางเขนของพระองค์จึงเอ่ยถามว่า "พระเจ้าข้าพระองค์เสด็จไปที่ไหน" เพื่อระลึกถึงการประจักษ์ของพระเยซูเจ้าครั้งนั้น "เราไปโรมถูกตรึงกางเขนอีกครั้งหนึ่งเพื่อท่าน" นักบุญเปโตรได้เข้าใจน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าท่านต้องกลับไปโรมทนทุกข์ทรมานเพื่อฝูงแกะของท่านณจุดนั้นได้มีการสร้างวัดเล็กๆหลังหนึ่งชื่อว่า "โควาดิส" เมื่อกลับถึงโรมท่านถูกขังคุกและโบยตีในที่สุดนักบุญเปโตรได้ให้พรอำลาฝูงแกะของท่านโดยเฉพาะนักบุญเปาโลผู้ซึ่งกำลังจะโดนตัดศีรษะในวันเดียวกันนอกกรุงโรมแล้วทหารพาท่านขึ้นไปบนยอดเขาวาติกันสถานที่สำหรับประหารชีวิตท่านจะต้องตายถูกตรึงบนไม้กางเขนท่านคิดว่าตัวท่านไม่สมควรตายแบบเดียวกับพระอาจารย์ท่านได้ขอร้องนายทหารตรึงกางเขนท่านเอาศีรษะลงและเท้าชี้ฟ้าคำขอร้องของท่านได้รับอนุมัติพระสันตะปาปาองค์แรกและผู้แทนพระคริสตเจ้าบนแผ่นดินนี้ได้รับรางวัลชั่วนิรันดรในสวรรค์เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนในปี 67 รวมทั้งพระสันตะปาปา 31 องค์แรกต้องหลั่งโลหิตเพื่อพิทักษ์รักษาพระศาสนจักรซึ่งเป็นหนึ่งเดียวศักดิ์สิทธิ์สากลและสืบต่อจากอัครสาวก พระเยซู (พระเยซู) ทรงได้เปลี่ยนชื่อท่านใหม่และทรงเรียกว่า "เปโตร" ซึ่งแปลว่า "ศิลา" (มธ 16:17-19) "ท่านคิดว่าเราเป็นใคร"และเปโตรได้ทูลว่า"พระองค์คือพระคริสตเจ้าพระบุตรของพระเป็นเจ้า"พระเยซูจึงตรัสว่า"เราจะตั้งท่านเป็นหัวหน้าแทนเราทั้งจะมอบกุญแจอาณาจักรแห่งเมืองสวรรค์"(มธ.ครั้งหนึ่งพระเยซูตรัสถามท่านว่า 16:15-19) สัญญลักษณ์ที่เห็นเด่นชัดในภาพคือมือของท่านมีลูกกุญแจ นักบุญเปโตรเป็นพยานบุคคลแรกๆผู้หนึ่งที่ได้แลเห็นพระคูหาว่างเปล่าของพระอาจารย์ (ยน. 20:6) และได้รับการประจักษ์มาขององค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ (ลก. 23:34) หลังจากที่พระเยซูเจ้าได้เสด็จขึ้นสวรรค์แล้วท่านก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำบรรดาคริสตชน (กจ. 1:15; 15:7) ได้กล่าวสรุปข่าวดี (พระวรสาร) (กจ. 2:14-41) และท่านเองเป็นคนแรกที่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเปิดพระศาสนจักรไปสู่พวกคนต่างชาติ (กจ.10-11) ภารกิจด้านวิญญาณที่ได้รับมอบหมายมิใช่ว่าจะช่วยให้ท่านหมดจากสภาพของความเป็นคนหรือจากข้อบกพร่องต่าง ๆ ทางอารมณ์ก็หาไม่ (มธ.10: 41 14:26, 66-72 ยน 13:6; 18:10 มธ 14:29-31) นักบุญเปาโล (Saint Paul) เองก็มิได้ลังเลใจแต่อย่างใดที่จะพูดจาต่อว่าท่านเวลาที่พบกันที่เมืองอันติโอก (แอนติออก) (กจ.15 กท. 2:11-14) เพื่อเชิญชวนท่านว่าไม่ต้องปฏิบัติตามแบบของพวกยิวในเรื่องนี้รู้สึกว่านักบุญเปโตรยังตัดสินใจช้าและยังถือว่ากลุ่มคริสตชนซึ่งเดิมทีเป็นคนต่างศาสนาก็ยังด้อยกว่าหรือเป็นรองกลุ่มคริสตชนที่เดิมทีเป็นชาวยิว (กจ. 6:1-2) ต่อเมื่อนักบุญเปโตรได้มาที่กรุงโรมเมื่อนั้นแหละท่านจึงจะได้กลายเป็นอัครธรรมทูตของทุก ๆ คนและได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างครบถ้วน
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
นักบุญเปโตรซีมอนเป็นชาวประมงคนหนึ่งของตำบลเบทไซดา (ลก. 5:. 3; ยน 1:44) (มก. 1: 21,29) นักบุญอันดรูว์ (ยน. 1:42) และอาจเป็นนักบุญยอห์น "เปโตร" (ม ธ 16:. 17-19) (ยน 20:. 6) (ยน 21:. 1-2) (กจ 1: 15; 15: 7.) ได้กล่าวสรุปข่าวดี (พระวรสาร) (กจ 2: 14-41). (กจ. 10-11 หรือจากข้อบกพร่องต่างๆทางอารมณ์ก็หาไม่ (ม ธ 10:. 41; 14:. 26,66-72; ยน 13: 6; 18: 10; ม ธ 14:. 29-31) (กจ 15 กท. 2: 11-14). ในเรื่องนี้รู้สึกว่านักบุญเปโตรยังตัดสินใจช้า (กจ. 6: 1-2) ต่อเมื่อนักบุญเปโตรได้มาที่กรุงโรม "ศิลาหัวมุม" ของพระศาสนจักรของพระเยซูเจ้า หลังจากนี้กษัตริย์เฮรอดได้จำคุกนักบุญเปโตร ด้วยการเทศนาและทำให้คนกลับใจ 6 ปี ท่านได้เดินทางบนบกข้ามน้ำข้ามทะเลและมาถึงปอร์ต้าปอร์ติสใจกลางของโลกที่ไม่เชื่อถือพระเจ้ามีสัตบุรุษกลับใจจำนวนหนึ่งตั้งรกรากอยู่บนฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ในการเบียดเบียนศาสนาครั้งแรก คริสตชนเหล่านี้ได้มาต้อนรับท่าน ซึ่งมีสมาชิกทุกคนเป็นนักบุญต่อมาจักรพรรดิเนโรแห่งโรม และได้ทำให้ผู้คุมกลับใจพระเป็นเจ้าได้ทรงจัดหาน้ำให้ท่าน ขณะหลบหนี จึงเอ่ยถามว่า "พระเจ้าข้าพระองค์เสด็จไปที่ไหน?" "เราไปโรมถูกตรึงกางเขนอีกครั้งหนึ่งเพื่อท่าน" ณ ชื่อว่า "โควาดิส" ท่านถูกขังคุกและโบยตี โดยเฉพาะนักบุญเปาโล สถานที่สำหรับประหารชีวิตท่านจะต้องตายถูกตรึงบนไม้กางเขน ท่านได้ขอร้องนายทหาร คำขอร้องของท่านได้รับอนุมัติ ได้รับรางวัลชั่วนิรันดรในสวรรค์เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนในปี 67 รวมทั้งพระสันตะปาปาที่ 31 เป็นหนึ่งซึ่งเดียวศักดิ์สิทธิ์สากลและสืบต่อจากเนชั่อัครสาวกพระเยซู (พระเยซู) "เปโตร" ซึ่งแปลว่า "ศิลา" (ม ธ 16:. 17-19) ครั้งหนึ่งพระเยซูตรัสถามท่านว่า "ท่านคิดว่าเราเป็นใคร" และเปโตรได้ทูลว่า "พระองค์คือพระคริ สตเจ้าพระบุตรของพระเป็นเจ้า "พระเยซูจึงตรัสว่า" เราจะตั้งท่านเป็นหัวหน้าแทนเรา 16: 15-19) ญญสัลักษณ์ที่เห็นเด่นชัดในภาพคือมือของท่านมีลูกกุญแจนักบุญเปโตร (ยน 20:. 6) (ลก. 23:34 (กจ 1: 15; 15: 7.) ได้กล่าวสรุปข่าวดี (พระวรสาร) (กจ 2: 14-41). (กจ. 10-11) ภ ทางอารมณ์ก็หาไม่ (ม ธ 10:. 41; 14: 26,66-72; ยน 13: 6; 18:. 10; ม ธ 14:. 29-31) นักบุญเปาโล (เซนต์พอล) (ออค) (กจ 15 กท. 2: 11-14). ในเรื่องนี้รู้สึกว่านักบุญเปโตร (กจ. 6: 1-2) ต่อเมื่อนักบุญเปโตรได้มาที่กรุงโรม คน







การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
นักบุญเปโตรซีมอนเป็นชาวประมงคนหนึ่งของตำบลเบทไซดา ( ลก . 5 : 3 ; ครับ . 1:44 ) ต่อมาได้ย้ายมาตั้งหลักแหล่งที่เมืองคาร์เปอร์นาอุม ( มก . 1 : 21,29 ) นักบุญอันดรูว์น้องชายของท่านได้เป็นคนแนะนำให้ท่านติดตามพระเยซูเจ้า ( ครับ . 1 :42 ) และอาจเป็นนักบุญยอห์นแบปติสต์ที่ได้เป็นผู้ตระเตรียมจิตใจของท่านสำหรับการพบปะครั้งสำคัญของท่านกับองค์พระเยซูเจ้าพระเยซูเจ้าได้ทรงเปลี่ยนชื่อท่านและทรงเรียกท่านด้วยชื่อใหม่ว่า " เปโตร " ( มธ . 16 :17-19 ) เพื่อทำหน้าที่เป็นศิลาพื้นฐานในตัวบุคคลของท่านเองที่พระองค์จะทรงสร้างคริสตจักรไว้นักบุญเปโตรเป็นพยานบุคคลแรกๆผู้หนึ่งที่ได้แลเห็นพระคูหาว่างเปล่าของพระอาจารย์ ( ครับ . 20 :( 6 ) และได้รับการประจักษ์มาขององค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพครับ . 21:1-2 ) หลังจากที่พระเยซูเจ้าได้เสด็จขึ้นสวรรค์แล้วท่านก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำบรรดาคริสตชน ( กจ . 1 : 15 ; 15 : 7 ) ได้กล่าวสรุปข่าวดี ( พระวรสาร ) ( กจ . 2 :14-41 ) และท่านเองเป็นคนแรกที่ได้แลเห็นความจำเป็นที่จะต้องเปิดพระศาสนจักรไปสู่คนต่างชาติ ( กจ .10-11 ) ภารกิจด้านวิญญาณที่ได้รับมอบหมายมิใช่ว่าจะช่วยให้ท่านหมดจากสภาพของความเป็นคนหรือจากข้อบกพร่องต่างๆทางอารมณ์ก็หาไม่ ( มธ 10 : 41 ; 14:26,66-72 ; ครับ . 13 : 6 ; 18 : 10 ; มธ . 14 :2007 ) นักบุญเปาโลเองก็มิได้ลังเลใจแต่อย่างใดที่จะพูดจาต่อว่าท่านเวลาที่พบกันที่เมืองอันติโอก ( กจ . 15 ; กท . 2 :4-7 ) เพื่อเชิญชวนท่านว่าไม่ต้องปฏิบัติตามแบบชาวยิวในเรื่องนี้รู้สึกว่านักบุญเปโตรยังตัดสินใจช้าและยังถือว่ากลุ่มคริสตชนซึ่งเดิมทีเป็นคนต่างศาสนา( กจ .6 :1-2 ) ต่อเมื่อนักบุญเปโตรได้มาที่กรุงโรมเมื่อนั้นแหละท่านจึงจะได้กลายเป็นอัครธรรมทูตของทุกๆคนและได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างครบถ้วนคือเป็น " ศิลาหัวมุม " ของพระศาสนจักรของพระเยซูเจ้า

ในไม่ช้าหลังจากนี้กษัตริย์เฮรอดได้จำคุกนักบุญเปโตรพระองค์ได้ประหารชีวิตนักบุญยากอบ ( องค์ใหญ่ ) และตั้งพระทัยไว้ว่าพระองค์จะทำกับนักบุญเปโตรเช่นเดียวกันแต่พระเป็นเจ้าได้ทรงปลดปล่อยท่านอย่างมหัศจรรย์เพื่อนักบุญเปโตรจะได้ดำเนินงานแพร่ธรรมต่อไปอย่างร้อนรนด้วยการเทศนาและทำให้คนกลับใจหลังจากงานแพร่ธรรมได้ผลิดอกออกผลเป็นเวลาหัวหน้าอัครสาวกได้เดินทางไปกรุงโรมเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่ 6 .และมาถึงปอร์ต้าปอร์ติสใจกลางของโลกที่ไม่เชื่อถือพระเจ้ามีสัตบุรุษกลับใจจำนวนหนึ่งตั้งรกรากอยู่บนฝั่งแม่น้ำไทเบอร์ในการเบียดเบียนศาสนาครั้งแรกเขาทั้งหลายถูกขับไล่ออกจากกรุงเยรูซาเล็มและนักบุญพริสซีเลียได้พาท่านไปอยู่กับครอบครัวของเธอซึ่งมีสมาชิกทุกคนเป็นนักบุญต่อมาจักรพรรดิเนโรแห่งโรมได้สั่งทหารให้จับนักบุญเปโตรขังคุกท่านได้ดำเนินการเทศนาต่อไปถึงแม้ว่าท่านติดอยู่ในคุกพระเป็นเจ้าได้ทรงจัดหาน้ำให้ท่านซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการประกอบพิธีรับศีลล้างบาปโดยให้น้ำพุเป็นฟองผุดขึ้นมาจากพื้นดินในห้องขังคริสตชนชาวโรมได้อ้อนวอนหัวหน้าอัครสาวกให้หนีออกจากคุกคนได้หย่อนท่านลงจากกำแพงคุกและท่านก็รีบเดินทางไปยังปอร์ตาคาปิน่าขณะหลบหนีท่านได้พบพระเยซูเจ้ากำลังแบกไม้กางเขนของพระองค์จึงเอ่ยถามว่า " พระเจ้าข้าพระองค์เสด็จไปที่ไหน ?" เราไปโรมถูกตรึงกางเขนอีกครั้งหนึ่งเพื่อท่าน " นักบุญเปโตรได้เข้าใจน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าท่านต้องกลับไปโรมทนทุกข์ทรมานเพื่อฝูงแกะของท่านณจุดนั้นได้มีการสร้างวัดเล็กๆหลังหนึ่งชื่อว่า " โควาดิส "

เมื่อกลับถึงโรมท่านถูกขังคุกและโบยตีในที่สุดนักบุญเปโตรได้ให้พรอำลาฝูงแกะของท่านโดยเฉพาะนักบุญเปาโลผู้ซึ่งกำลังจะโดนตัดศีรษะในวันเดียวกันนอกกรุงโรมแล้วทหารพาท่านขึ้นไปบนยอดเขาวาติกันท่านจะต้องตายถูกตรึงบนไม้กางเขนท่านคิดว่าตัวท่านไม่สมควรตายแบบเดียวกับพระอาจารย์ท่านได้ขอร้องนายทหารตรึงกางเขนท่านเอาศีรษะลงและเท้าชี้ฟ้าคำขอร้องของท่านได้รับอนุมัติได้รับรางวัลชั่วนิรันดรในสวรรค์เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนสามารถ 67 รวมทั้งพระสันตะปาปา 31 องค์แรกต้องหลั่งโลหิตเพื่อพิทักษ์รักษาพระศาสนจักรซึ่งเป็นหนึ่งเดียวศักดิ์สิทธิ์สากลและสืบต่อจากอัครสาวก

พระเยซู ( พระเยซู ) ทรงได้เปลี่ยนชื่อท่านใหม่และทรงเรียกว่า " เปโตร " ซึ่งแปลว่า " ศิลา " ( มธ . 16 :17-19 ) ครั้งหนึ่งพระเยซูตรัสถามท่านว่า " ท่านคิดว่าเราเป็นใคร " และเปโตรได้ทูลว่า " พระองค์คือพระคริสตเจ้าพระบุตรของพระเป็นเจ้า " พระเยซูจึงตรัสว่า " เราจะตั้งท่านเป็นหัวหน้าแทนเรา16 : 15-19 ) สัญญลักษณ์ที่เห็นเด่นชัดในภาพคือมือของท่านมีลูกกุญแจ

นักบุญเปโตรเป็นพยานบุคคลแรกๆผู้หนึ่งที่ได้แลเห็นพระคูหาว่างเปล่าของพระอาจารย์ ( ครับ . 20 :6 ) และได้รับการประจักษ์มาขององค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพ ( ลก . 23 : 34 ) หลังจากที่พระเยซูเจ้าได้เสด็จขึ้นสวรรค์แล้วท่านก็ทำหน้าที่เป็นผู้นำบรรดาคริสตชน ( กจ . 1 : 15 ; 15 : 7 ) ได้กล่าวสรุปข่าวดี ( พระวรสาร ) ( กจ . 2 :14-41 ) และท่านเองเป็นคนแรกที่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเปิดพระศาสนจักรไปสู่พวกคนต่างชาติ ( กจ .10-11 ) ภารกิจด้านวิญญาณที่ได้รับมอบหมายมิใช่ว่าจะช่วยให้ท่านหมดจากสภาพของความเป็นคนหรือจากข้อบกพร่องต่างๆทางอารมณ์ก็หาไม่ ( มธ 10 : 41 ; 14:26,66-72 ; ครับ . 13 : 6 ; 18 : 10 ; มธ . 14 :2007 ) นักบุญเปาโล ( นักบุญพอล ) เองก็มิได้ลังเลใจแต่อย่างใดที่จะพูดจาต่อว่าท่านเวลาที่พบกันที่เมืองอันติโอก ( Antioch ) ( กจ . 15 ; กท . 2 :4-7 ) เพื่อเชิญชวนท่านว่าไม่ต้องปฏิบัติตามแบบของพวกยิวในเรื่องนี้รู้สึกว่านักบุญเปโตร( กจ .6 : 1-2 ) ต่อเมื่อนักบุญเปโตรได้มาที่กรุงโรมเมื่อนั้นแหละท่านจึงจะได้กลายเป็นอัครธรรมทูตของทุกๆคนและได้ทำหน้าที่ของท่านอย่างครบถ้วน
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: