The origin of this holiday for the

The origin of this holiday for the expression of love really isn't romantic at all -- at least not in the traditional sense. Father Frank O'Gara of Whitefriars Street Church in Dublin, Ireland, tells the real story of the man behind the holiday -- St. Valentine.

"He was a Roman Priest at a time when there was an emperor called Claudias who persecuted the church at that particular time," Father O'Gara explains. " He also had an edict that prohibited the marriage of young people. This was based on the hypothesis that unmarried soldiers fought better than married soldiers because married soldiers might be afraid of what might happen to them or their wives or families if they died."

"I think we must bear in mind that it was a very permissive society in which Valentine lived," says Father O'Gara. "Polygamy would have been much more popular than just one woman and one man living together. And yet some of them seemed to be attracted to Christian faith. But obviously the church thought that marriage was very sacred between one man and one woman for their life and that it was to be encouraged. And so it immediately presented the problem to the Christian church of what to do about this."

"The idea of encouraging them to marry within the Christian church was what Valentine was about. And he secretly married them because of the edict."

Valentine was eventually caught, imprisoned and tortured for performing marriage ceremonies against command of Emperor Claudius the second. There are legends surrounding Valentine's actions while in prison.

"One of the men who was to judge him in line with the Roman law at the time was a man called Asterius, whose daughter was blind. He was supposed to have prayed with and healed the young girl with such astonishing effect that Asterius himself became Christian as a result."

In the year 269 AD, Valentine was sentenced to a three part execution of a beating, stoning, and finally decapitation all because of his stand for Christian marriage. The story goes that the last words he wrote were in a note to Asterius' daughter. He inspired today's romantic missives by signing it, "from your Valentine."

"What Valentine means to me as a priest," explains Father O'Gara, "is that there comes a time where you have to lay your life upon the line for what you believe. And with the power of the Holy Spirit we can do that -- even to the point of death."

Valentine's martyrdom has not gone unnoticed by the general public. In fact, Whitefriars Street Church is one of three churches that claim to house the remains of Valentine. Today, many people make the pilgrimage to the church to honor the courage and memory of this Christian saint.

"Valentine has come to be known as the patron saint of lovers. Before you enter into a Christian marriage you want some sense of God in your life -- some great need of God in your life. And we know, particularly in the modern world, many people are meeting God through his Son, Jesus Christ."

"If Valentine were here today, he would say to married couples that there comes a time where you're going to have to suffer. It's not going to be easy to maintain your commitment and your vows in marriage. Don't be surprised if the 'gushing' love that you have for someone changes to something less "gushing" but maybe much more mature. And the question is, is that young person ready for that?"

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ต้นกำเนิดของวันหยุดนี้สำหรับการแสดงออกของความรักจริง ๆ ไม่โรแมนติกเลย - น้อยไม่ในความรู้สึกดั้งเดิม Frank O'Gara พ่อโบสถ์ถนน Whitefriars ในดับลิน ไอร์แลนด์ บอกเรื่องราวจริงของคนอยู่เบื้องหลังฮอลิเดย์ - วาเลนไทน์"เขาเป็นบาทหลวงโรมันในเวลาเมื่อมี จักรพรรดิเรียกว่า Claudias ที่ถูกแกล้งคริสตจักรในเวลาเฉพาะ, " พ่อ O'Gara อธิบาย "เขายังได้มีพระบรมราชโองการที่ห้ามการแต่งงานของคนหนุ่มสาว ซึ่งตามสมมติฐานที่ทหารยังสู้ดีกว่าทหารแต่งงานเพราะแต่งงานทหารอาจกลัวอาจเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาหรือภรรยาของเขา หรือครอบครัวถ้าพวกเขา ""ผมคิดว่า เราต้องแบกรับในใจว่ามันเป็นสังคม permissive มากที่วาเลนไทน์อยู่ กล่าวว่า พ่อ O'Gara "สามีจะได้รับนิยมมากขึ้นกว่าผู้หญิงหนึ่งและผู้ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ร่วมกัน และยัง บางส่วนของพวกเขาดูเหมือนจะดึงดูดความเชื่อคริสเตียน แต่เห็นได้ชัดว่าศาสนจักรคิดว่า สมรสศักดิ์สิทธิ์มากระหว่างชายหนึ่งและหญิงหนึ่งสำหรับชีวิตของพวกเขา และที่ สนับสนุนให้มี และ เพื่อที่จะนำเสนอปัญหาโบสถ์ของคริสเตียนอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที""ความคิดของการกระตุ้นให้พวกเขาจะแต่งงานในโบสถ์คริสต์เป็นวาเลนไทน์ที่ถูกเกี่ยวกับ และเขาแอบแต่งงานนั้นเนื่องจากพระราชกฤษฎีกานี้"วาเลนไทน์สุดจับ ถูกจำคุก และทรมานการทำพิธีแต่งงานกับคำสั่งของจักรพรรดิ Claudius ที่สอง มีตำนานรอบวาเลนไทน์การกระทำขณะอยู่ในเรือนจำ"คนที่จะตัดสินเขาสอดคล้องกับกฎหมายโรมันในเวลา อย่างใดอย่างหนึ่งได้ว่า Asterius ลูกสาวเป็นคนตาบอด เขาควรจะได้อธิษฐานด้วย และหายได้ก็เด็กสาว ด้วยเช่นผลน่าอัศจรรย์ว่า Asterius เองเป็น คริสเตียนเป็นผล"ในปี 269 AD วาเลนไทน์ตัดสินประหารการดำเนินการส่วนที่สามของการเต้น อัม และในที่สุด decapitation ทั้งหมดเนื่องจากเขายืนแต่งงานคริสเตียน เรื่องที่ไปว่า คำสุดท้ายที่เขาเขียนอยู่ในหมายเหตุที่ลูกสาวของ Asterius เขาเป็นแรงบันดาลใจวันนี้โรแมนติก missives ลงนาม "จากวาเลนไทน์ของคุณ""วาเลนไทน์ความหมายคืออะไรผมเป็นนักบวช อธิบายพ่อ O'Gara "มีที่มาเวลาที่คุณจะต้องวางชีวิตเมื่อบรรทัดสำหรับสิ่งที่คุณเชื่อมั่น และอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราสามารถทำอย่างนั้น - แม้จะสิ้นพระชนม์"ทุกข์ทรมานวาเลนไทน์ไม่ไปสังเกต โดยประชาชนทั่วไป ในความเป็นจริง โบสถ์ถนน Whitefriars เป็นหนึ่งในสามโบสถ์ที่เรียกร้องให้บ้านซากของวาเลนไทน์ วันนี้ คนทำแสวงบุญเกียรติกล้าหาญและหน่วยความจำของเซนต์นี้คริสเตียนคริสตจักร"วาเลนไทน์ได้มาเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของคนรัก ก่อนที่คุณเข้าสู่การแต่งงานคริสเตียน คุณต้องความรู้สึกบางอย่างของพระเจ้าในชีวิตของคุณ - บางดีความต้องการของพระเจ้าในชีวิตของคุณ และเรารู้ว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกสมัยใหม่ หลายคนมีการประชุมพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์""ถ้าวันวาเลนไทน์นี่วันนี้ เขาจะพูดกับคู่สมรสที่ มีมาเป็นเวลาที่คุณจะได้รับ มันจะง่ายต่อการรักษาสัตย์สาบานในการแต่งงานและความมุ่งมั่นของคุณ ไม่แปลกถ้ารัก 'gushing' ที่คุณมีสำหรับคนเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างน้อยกว่า "พุ่ง" แต่อาจจะมากขึ้นเป็นผู้ใหญ่ และคำถาม คือ เป็นคนหนุ่มสาวที่พร้อมสำหรับการที่"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่มาของวันหยุดนี้สำหรับการแสดงออกของความรักจริงๆไม่โรแมนติกเลย - อย่างน้อยไม่ได้อยู่ในความรู้สึกแบบดั้งเดิม แฟรงก์ O'Gara พ่อของคริสตจักร Whitefriars ถนนในดับลินไอร์แลนด์บอกเล่าเรื่องราวที่แท้จริงของคนที่อยู่เบื้องหลังวันหยุด. - วาเลนไทน์"เขาเป็นบาทหลวงโรมันในช่วงเวลาที่มีการเรียกจักรพรรดิ Claudias ที่ข่มเหงคริสตจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ "O'Gara พ่ออธิบาย "นอกจากนี้เขายังมีคำสั่งห้ามการแต่งงานของคนหนุ่มสาว. นี้มีพื้นฐานอยู่บนสมมติฐานที่ว่าทหารยังไม่ได้แต่งงานต่อสู้ที่ดีกว่าทหารแต่งงานเพราะทหารแต่งงานอาจจะกลัวของสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับพวกเขาหรือภรรยาหรือครอบครัวของพวกเขาหากพวกเขาเสียชีวิต." "ผมคิดว่าเราต้องจำไว้ว่ามันเป็นสังคมที่อนุญาตมากในการที่อาศัยอยู่วาเลนไทน์" พ่อ O'Gara กล่าวว่า "มีภรรยาหลายคนจะได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่งและเป็นหนึ่งในการใช้ชีวิตมนุษย์ด้วยกัน. และยังบางส่วนของพวกเขาดูเหมือนจะดึงดูดให้ความเชื่อของคริสเตียน. แต่เห็นได้ชัดว่าคริสตจักรคิดว่าการแต่งงานเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากระหว่างชายคนหนึ่งและหญิงหนึ่งสำหรับชีวิตของพวกเขา และนั่นก็คือการได้รับการสนับสนุน. และเพื่อให้ได้ทันทีที่นำเสนอปัญหาไปคริสตจักรของสิ่งที่จะทำอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้. "" ความคิดของการส่งเสริมให้พวกเขาที่จะแต่งงานในโบสถ์ในคริสต์ศาสนาเป็นสิ่งที่วาเลนไทน์เป็นเรื่องเกี่ยวกับ. และเขาแอบแต่งงานกับพวกเขา เพราะการประกาศ. "วาเลนไทน์ถูกจับได้ในที่สุดถูกคุมขังและทรมานสำหรับการดำเนินการพิธีแต่งงานกับคำสั่งของจักรพรรดิคาร์ดินัลที่สอง มีตำนานรอบการกระทำวาเลนไทน์ขณะที่อยู่ในคุกมี. "หนึ่งในคนที่เป็นที่จะตัดสินเขาในสอดคล้องกับกฎหมายโรมันในเวลานั้นเป็นคนที่เรียกว่า Asterius ลูกสาวเป็นคนตาบอด. เขาควรจะได้อธิษฐานด้วยและหาย เด็กสาวคนหนึ่งที่มีผลกระทบที่น่าอัศจรรย์เช่นว่าตัวเองกลายเป็น Asterius คริสเตียนเป็นผล. "ในปี269 AD วาเลนไทน์ถูกตัดสินให้การดำเนินการสามส่วนหนึ่งของการเต้นบ้านเมืองและในที่สุดก็เพราะศีรษะของขาของเขาสำหรับการแต่งงานที่นับถือศาสนาคริสต์ เรื่องที่จะไปว่าคำพูดสุดท้ายที่เขาเขียนอยู่ในจดหมายถึงลูกสาว Asterius 'a เขาเป็นแรงบันดาลใจทุกข์ทนแสนโรแมนติกของวันนี้ด้วยการลงนามมัน "จากวาเลนไทน์ของคุณ." "สิ่งที่วาเลนไทน์หมายถึงฉันเป็นพระสงฆ์" อธิบาย O'Gara พ่อ "คือว่ามีมาถึงเวลาที่คุณจะต้องวางชีวิตของคุณมาเติมบรรทัดสำหรับ . สิ่งที่คุณเชื่อและด้วยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เราสามารถทำเช่นนั้น - แม้ถึงจุดแห่งความตาย ". ทรมานวาเลนไทน์ไม่ได้ไปสังเกตของประชาชนโดยทั่วไป ในความเป็นจริง Whitefriars ถนนคริสตจักรเป็นหนึ่งในสามคริสตจักรที่อ้างว่าบ้านยังคงเป็นของวาเลนไทน์ วันนี้หลายคนให้เดินทางไปยังคริสตจักรที่จะให้เกียรติความกล้าหาญและความทรงจำของนี้คริสเตียนนักบุญ. "วาเลนไทน์ได้มาเป็นที่รู้จักกันเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของคนรัก. ก่อนที่จะเข้าสู่การแต่งงานคริสเตียนคุณต้องการความรู้สึกของพระเจ้าบางอย่างในของคุณ ชีวิต -.. บางคนต้องการที่ดีของพระเจ้าในชีวิตของคุณและเรารู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกสมัยใหม่หลายคนมีการประชุมพระเจ้าผ่านทางพระบุตรของพระองค์พระเยซูคริสต์"" ถ้าวาเลนไทน์อยู่ที่นี่ในวันนี้เขาจะพูดกับคู่สมรสที่มี มาถึงเวลาที่คุณจะต้องทนทุกข์. ก็ไม่ได้ไปจะง่ายต่อการรักษาความมุ่งมั่นของคุณและคำสาบานของคุณในการแต่งงาน. ไม่ต้องแปลกใจถ้า 'พุ่ง' ความรักที่คุณมีใครสักคนที่จะเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างน้อย " พุ่ง "แต่อาจจะมากขึ้นเป็นผู้ใหญ่. และคำถามคือเป็นคนหนุ่มสาวที่พร้อมสำหรับการที่?"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดเริ่มต้นของวันหยุดนี้สำหรับการแสดงออกของความรักก็ไม่ใช่โรแมนติกทั้งหมด -- อย่างน้อยไม่ได้อยู่ในความรู้สึกแบบดั้งเดิม พ่อแฟรงค์ o'gara ของ whitefriars Church Street ในดับลิน , ไอร์แลนด์ บอกเรื่องราวที่แท้จริงของคนหลังวันหยุด -- นักบุญวาเลนไทน์" เขาเป็นนักบวชโรมัน ในเวลาเมื่อมีจักรพรรดิเรียก claudias ใครข่มเหงคริสตจักรในเวลาที่เฉพาะเจาะจง " พ่อ o'gara อธิบาย” นอกจากนี้เขายังได้รับคำสั่งว่าห้ามการแต่งงานของคนหนุ่มสาว นี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าทหารโสดดีกว่าแต่งงาน เพราะสู้กับทหารทหารแต่งงานอาจจะกลัวในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับพวกเขาหรือภรรยาหรือครอบครัวถ้าพวกเขาตาย " ." ผมคิดว่าเราต้องจำไว้ว่ามันเป็นสังคมดื้อมากๆที่วาเลนไทน์อยู่ กล่าวว่า พ่อ o'gara ” การมีภรรยาหลายคนจะได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าเพียงหนึ่งหญิงและหนึ่งชายที่อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่บางส่วนของพวกเขาดูเหมือนจะดึงดูดให้คริสเตียนศรัทธา แต่เห็นได้ชัดว่าโบสถ์คิดว่าการแต่งงานเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ระหว่างชายคนหนึ่งและผู้หญิงหนึ่งสำหรับชีวิตของพวกเขา และมันก็จะได้รับการส่งเสริม และทันทีนำเสนอปัญหาให้ คริสเตียน คริสตจักร สิ่งที่ต้องทำเกี่ยวกับเรื่องนี้ . "" ความคิดของการส่งเสริมให้พวกเขาแต่งงานในโบสถ์คริสเตียน แล้ววันวาเลนไทน์คือเกี่ยวกับ และเขาแอบแต่งงานกับเขาเพราะ พรบ. "วาเลนไทน์ถูกจับขังและทรมานในที่สุด , ร่วมพิธีกับคำสั่งของจักรพรรดิ Claudius การแต่งงานที่สอง มีรอบการกระทำตำนานวาเลนไทน์ ขณะที่อยู่ในคุก" คนที่ถูกตัดสินให้สอดคล้องกับกฎหมายของโรมันที่เป็นผู้ชายเรียกว่า asterius ลูกสาวที่ตาบอด เขาควรจะอธิษฐานและรักษาเด็กสาวอย่างน่าอัศจรรย์ ผลที่ asterius ตัวเองกลายเป็นคริสเตียนเป็นผล .ในปีค.ศ. 269 , วาเลนไทน์ถูกพิพากษาถึงสามส่วนการเต้น เมายา และสุดท้าย การตัดศีรษะเพราะยืนของเขาสำหรับการแต่งงานคริสเตียน เรื่องมีอยู่ว่า คำสุดท้ายที่เขาเขียนในจดหมายถึงลูกสาว asterius ' เขาเป็นแรงบันดาลใจ missives โรแมนติกของวันนี้ โดยลงนาม " จากวาเลนไทน์ของคุณ" แล้ววาเลนไทน์ หมายความว่า ฉันเป็นนักบวช , อธิบายว่า " พ่อ o'gara " มันถึงเวลาที่คุณต้องวางชีวิตบนบรรทัดสำหรับสิ่งที่คุณเชื่อ และด้วยพลังของพระวิญญาณที่เราสามารถทำได้ . . . แม้จุดของความตาย”วาเลนไทน์ของความทุกข์ทรมานไม่ได้ไปสังเกตโดยสาธารณะทั่วไป ในความเป็นจริง , คริสตจักร whitefriars Street เป็นหนึ่งในสามโบสถ์ที่อ้างว่าบ้านซากของวันวาเลนไทน์ วันนี้หลายคน ทำให้ผู้แสวงบุญไปยังโบสถ์เพื่อเกียรติความกล้าหาญและหน่วยความจำของนักบุญคริสเตียน ." วาเลนไทน์มาเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของคนรัก ก่อนที่คุณจะใส่ลงไปในการแต่งงานคริสเตียนคุณต้องการความรู้สึกบางอย่างของพระเจ้าในชีวิตของคุณ -- ความต้องการมากของพระเจ้าในชีวิตของคุณ และเรารู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกสมัยใหม่ หลายคนพบพระเจ้าผ่าน ลูกชายของเขา พระเยซูคริสต์ . "" ถ้า วาเลนไทน์ มาวันนี้ เขาจะพูดกับคู่สมรสว่า ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องประสบ มันไม่ง่ายที่จะรักษาความมุ่งมั่น และคำสาบานในพิธีแต่งงาน ไม่ต้องแปลกใจถ้ารัก ' พุ่ง ' ที่คุณมีการเปลี่ยนแปลงคนน้อยกว่า " ไหล " แต่บางทีผู้ใหญ่จริงๆ และคำถามก็คือ เป็นเด็กหนุ่ม พร้อมที่