no one culture can completely claim

no one culture can completely claim ice cream as its own - ice cream historians debate where it even originated. roman emperor nero supposedly had his slaves bring snow down from the mountains so that he could have it topped with fruit and honey. a king during china's seventh-century tang dynasty liked a version that was mixed with milk. and when explorer marco polo came back from china in 13 century, legend has it that he brought back a sherbet-like concoction

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม่มีใครวัฒนธรรมอย่างสมบูรณ์สามารถเรียกร้องไอศครีมเป็นของตัวเอง - ครีมอภิปรายน้ำแข็งประวัติศาสตร์ที่มันเกิดขึ้นแม้ จักรพรรดิโรมัน Nero อ้างว่าเป็นทาสของเขานำหิมะลงมาจากภูเขาเพื่อที่เขาจะได้มันราดหน้าด้วยผลไม้และน้ำผึ้ง พระมหากษัตริย์ในช่วงของจีนในศตวรรษที่เจ็ดราชวงศ์ถังชอบรุ่นที่ถูกผสมกับนมและเมื่อสำรวจ Marco Polo กลับมาจากประเทศจีนในศตวรรษที่ 13 ตำนานมีว่าที่เขานำกลับไปผสมไอศกรีมเชอร์เบทเหมือน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัฒนธรรมหนึ่งไม่สามารถเรียกร้องทั้งหมดไอศกรีมเป็นอภิปรายนักประวัติศาสตร์ตัวเอง - ไอศกรีมแม้ที่ใดก็ จักรพรรดิโรมันที่ nero คาดคะเนมีทาสของเขานำหิมะลงจากภูเขาเพื่อให้เขาสามารถมีรสผลไม้และน้ำผึ้ง พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์ถังเจ็ดศตวรรษของจีนชอบรุ่นที่ไม่ผสมกับน้ำนม และเมื่อ explorer มาร์โคโปโลกลับมาจากประเทศจีนในศตวรรษที่ 13 ตำนานมีว่าที่เขานำกลับ concoction sherbet เหมือน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่มีใครสามารถวัฒนธรรมอย่างสมบรูณ์แบบไอศครีมอ้างว่าเป็นของตัวเอง - น้ำแข็งสีครีมนักประวัติศาสตร์การ อภิปราย ที่ได้เขียนขึ้นตามแบบโรมันจักรพรรดิ Nero เป็นทาสของเขาได้นำหิมะลงมาจาก ภูเขา อย่างที่เขาทำได้อยู่ทางด้านบนสุดพร้อมด้วยผลไม้และน้ำผึ้งที่กษัตริย์ในระหว่างจีนของที่เจ็ด - ศตวรรษที่ช่วงราชวงศ์ Tang ชอบเป็นเวอร์ชั่นที่ถูกนำไปผสมกับนม.Marco Polo และเมื่อ Internet Explorer กลับมาจากจีนใน 13 ศตวรรษที่มีตำนานเล่าว่าเขากลับมาคิดและเชอร์เบทที่คล้ายกับ