2.4.2 ลักษณะทางปฐพีวิทยา
ลักษณะทางปฐพีวิทยาของพื้นที่ศึกษาประกอบไปด้วยชุดดินทั้งหมด 16 ชนิด โดยชุดดินที่มีพื้นที่มากที่สุดในพื้นที่ศึกษา คือ ชุดดินเสนา (Sena Series: Se) โดยมีพื้นที่ประมาณ 1,368 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 20 ของพื้นที่ศึกษา ซึ่งสามารถพบมากในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชุดดินเสนาจัดอยู่ในกลุ่มชุดดินที่ 11 ซึ่งนอกเหนือจากชุดดินเสนาแล้ว ในพื้นที่ศึกษายังพบ ชุดดินธัญบุรี (Thanya Buri: Tan) และชุดดินรังสิต (Rangsit: Rs) ซึ่งลักษณะและสมบัติของดิน เป็นกลุ่มดินเปรี้ยวจัดลึกปานกลางที่เกิดจากตะกอนน้ำทะเล ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมาก การระบายน้ำเลว ความอุดมสมบูรณ์ต่ำ โดยดินจะเป็นกรดจัดมากหรือเป็นดินเปรี้ยวจัดลึกปานกลางในช่วงความลึก 50-100 ซม. จากผิวดิน เกิดการตรึงของธาตุอาหารและมีสารที่เป็นพิษต่อพืชที่ปลูก มีโครงสร้างดินแน่นทึบ ดินแห้งแข็งและแตกระแหง ทำให้ไถพรวนยาก คุณภาพน้ำเป็นกรดจัดมาก ขาดแคลนแหล่งน้ำจืด และน้ำท่วมขังในฤดูฝน ทำความเสียหายกับพืชที่ไม่ชอบน้ำ
ชุดดินอยุธยา (Ayutthaya series: Ay) เป็นชุดดินที่มากรองลงจากชุดดินเสนามีพื้นที่ประมาณ 1,026 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 15 ของพื้นที่ศึกษา สามารถพบได้ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครปฐม และปทุมธานี จัดอยู่ในกลุ่มชุดดินที่ 2 โดยมีชุดดินบางเขน (Bang Khen Series: Bn) ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 519 ตารางกิโลเมตรในบริเวณพื้นที่ศึกษา สามารถพบได้มากในจังหวัดนครปฐม เป็นดินในกลุ่มชุดดินเดียวกัน โดยมีลักษณะและสมบัติของดิน เป็นดินกลุ่มดินเหนียวลึกมาก ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมาก อาจพบจุดประสีเหลืองฟางข้าวของสารประกอบกำมะถันลึกกว่า 100 ซม. จากผิวดิน การระบายน้ำเลว ความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง ดินเป็นกรดจัดมาก ทำให้เกิดการตรึงธาตุอาหารและปลดปล่อยสารที่เป็นพิษต่อพืช โครงสร้างแน่นทึบ ดินแห้งแข็งและแตกระแหง ทำให้ไถพรวนยาก คุณภาพน้ำเป็นกรดจัดมาก ขาดแคลนแหล่งน้ำจืด และน้ำท่วมขังในฤดูฝน ทำความเสียหายกับพืชที่ไม่ชอบน้ำ
ชุดดินบางเลน (Bang Len Series: Bl) เป็นชุดดินที่สามารถพบได้ในทั้ง 4 จังหวัดในพื้นที่ศึกษา โดยมีพื้นที่ประมาณ 416 ตารางกิโลเมตร จัดอยู่ในกลุ่มชุดดินที่ 3 ซึ่งมีชุดดินบางกอก (Bangkok Series: Bk) ที่พบมากในจังหวัดสมุทรสาคร และชุดดินฉะเชิงเทรา (Chachoengsao Series: Cc) ซึ่งมีลักษณะและสมบัติของดินเป็นดินกลุ่มดินเหนียวลึกมากที่เกิดจากตะกอนน้ำกร่อย อาจพบชั้นดินเลนของตะกอนน้ำทะเลที่ไม่มีศักยภาพก่อให้เกิดเป็นดินกรดกำมะถันภายในความลึก 150 ซม. จากผิวดิน ปฏิกิริยาดินเป็นกลางถึงเป็นด่าง การระบายน้ำเลว ความอุดมสมบูรณ์ปานกลางถึงสูง โครงสร้างแน่นทึบ ดินแห้งแข็งและแตกระแหง ทำให้ไถพรวนยาก บางพื้นที่อาจพบชั้นดินเลนที่มีเกลือสะสมอยู่ในดินล่าง และน้ำท่วมขังในฤดูฝน ทำความเสียหายกับพืชที่ไม่ชอบน้ำ
และกลุ่มชุดดินที่มี จำนวนชุดดินมากที่สุดในพื้นที่ศึกษาคือ ดินในกลุ่มชุดดินที่ 4 ซึ่งได้แก่ ชุดดินราชบุรี (Ratdhaburi: Rb) ชุดดินสิงห์บุรี (Sing Buri: Sin) ชุดดินท่าเรือ (Tha Rua Series: Tr) ชุดดินบางปะอิน (Bang Pa-in series: Bin) ชุดดินสระบุรี (Sarabur serirs: Sb) และชุดดินธนบุรี (Thon Buri series: Tb) ซึ่งเป็นดินกลุ่มดินเหนียวลึกมากที่เกิดจากตะกอนลำน้ำที่มีอายุยังน้อย ปฏิกิริยาดินเป็นกลางถึงเป็นด่าง การระบายน้ำค่อนข้างเลว ความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง โครงสร้างแน่นทึบ ดินแห้งแข็งและแตกระแหง ทำให้ไถพรวนยาก ขาดแคลนน้ำ และน้ำท่วมขังในฤดูฝน ทำความเสียหายกับพืชที่ไม่ชอบน้ำ
นอกจากนั้นยังมีดินที่จัดอยู่ในกลุ่มชุดดินในพื้นที่ดอน เขตดินแห้ง ได้แก่ ชุดดินกำแพงแสน (Kamphaeng Saen Series: Ks) เป็นชุดดินที่พบมากที่สุดในจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 576 ตารางกิโลเมตร ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มชุดดินที่ 33 และชุดดินท่าม่วง (Tha Muang: Tm) โดยลักษณะและสมบัติของชุดดินกำแพงแสน เป็นดินลึก ดินบนเป็นดินร่วนปนทรายแป้งหรือดินร่วน ปฏิกิริยาดินเป็นด่างอ่อน มี pH ประมาณ 8.0 ดินล่างเป็นดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง พบเกล็ดแร่ไมกาตลอดหน้าตัดของดินและมวลสารพวกปูนสะสมปะปนอยู่ในดินชั้นล่างปฏิกิริยาดินเป็นกลางถึงด่างอ่อน มี pH ประมาณ 7.0-8.0 ส่วนชุดดินท่าม่วงเกิดจากตะกอนน้ำพา มีการระบายน้ำ ดีปานกลางถึงดี เป็นดินลึก ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงกรดเล็กน้อย (pH 5.5-6.5) ดินตอนล่างมีลักษณะเนื้อดินและสีไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับตะกอนที่น้ำพามาทับถมในแต่ละปี