There were more important commissio

There were more important commissions in 1949–1950 including the Dahlstrom Residence, Googie's Coffee House and the UPA Studios in Burbank. During 1950 he was part of a group exhibition of sixteen California architects at Scripps College in Claremont, California, and in 1951 his work was included in Harris and Bonenberg's influential guidebook A Guide to Contemporary Architecture in Southern California (Watling, 1951).[22] Lautner obtained his architectural license in 1952 and in February House and Home published the genre-defining Douglas Haskell article "Googie Architecture", which included two Shulman photographs of the Los Angeles restaurant[23] accompanied by an article on the Foster and Carling houses and L'Horizon apartments.[24]

From the late 1940s until his death, Lautner worked primarily on designing domestic residences. His early work was on a relatively modest scale but in later years, as his reputation grew and his client base became more affluent, his design projects became increasingly grand, culminating in the palatial 25,000 sq ft (2,300 m2) Arango residence in Acapulco, Mexico. This project, along with his appointment as Olympic Architect for the 1984 Summer Olympic Games in Los Angeles, were among the highlights of his later career.

After many years of chronic illness Elizabeth Lautner died in 1978; in 1982 Lautner married her caretaker, Francesca. Lautner's last years were also marred by declining health and loss of mobility. In the last few years of his life he was unable to work, and his practice survived thanks to the unflagging support of his client James Goldstein and Lautner's associate Helena Arahuete. On Lautner's death in 1994, Arahuete took over the practice, which continues in business to the present today.

In recent years Lautner's work has undergone a significant critical reappraisal with the 1999 publication of Alan Hess and Alan Weintraub's "The Architecture of John Lautner" (Rizzoli), and a 2008 exhibit at the Hammer Museum curated by architect Frank Escher and architectural historian Nicholas Olsberg. In 2009 Lautner was the subject of a documentary feature film direct by Murray Grigor, Infinite Space: The Architecture of John Lautner.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีคณะกรรมการสำคัญใน 1949-1950 รวมถึงเดอะ Dahlstrom เรสซิเดนซ์ Googie ของร้าน และ สตูดิโอ UPA ใน Burbank ในช่วงปี 1950 เขาได้เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการกลุ่มของสถาปนิกระดับสิบหกรัฐแคลิฟอร์เนียที่ Scripps College ในแคลร์มอนท์ แคลิฟอร์เนีย และในปีค.ศ. งานของเขาถูกรวมอยู่ในห้องและของ Bonenberg มีอิทธิพลคู่มือคู่มือ A การสถาปัตยกรรมร่วมสมัยในแคลิฟอร์เนียภาคใต้ (Watling, 1951)[22] เลาต์เนอร์ได้รับใบอนุญาตของสถาปัตยกรรมใน 1952 และในเดือนกุมภาพันธ์ บ้านและบ้านประกาศกำหนดประเภท Haskell ดักลาสบทความ "สถาปัตยกรรม Googie" ซึ่งรวมสอง Shulman ภาพอาหารลอสแอนเจลิส [23] พร้อม ด้วยบทความในบ้านฟอสเตอร์และคาร์ลิงและอพาร์ L'Horizon[24]จาก 2483 จนตาย เลาต์เนอร์ทำงานเป็นหลักในการออกแบบประเทศเรสซิเดนซ์ งานแรกของเขาได้ ในระดับที่ค่อนข้างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ ใน ปีต่อมา การเติบโตของเขาชื่อเสียง และฐานลูกค้าของเขาได้กลายเป็นมากขึ้นแต่ละ โครงการออกแบบของเขากลายเป็นแกรนด์มาก จบในเดอะเรสซิเดนซ์ Arango สอยกว่า 25000 ตารางฟุต (2300 m2) ใน Acapulco เม็กซิโก โครงการนี้ ด้วยการนัดหมายเขาเป็นสถาปนิกโอลิมปิคสำหรับ 1984 โอลิมปิกฤดูร้อนใน Los Angeles ระหว่างจุดเด่นของอาชีพของเขาในภายหลังได้หลังจากหลายปีของการเจ็บป่วยเรื้อรัง เลาต์เนอร์เอลิซาเบธที่เสียชีวิตในปี 1978 ในปี 1982 เลาต์เนอร์แต่งงานของเธอผู้ดูแล ฟรานเชสกา ปีสุดท้ายของเลาต์เนอร์ยังถูก marred โดยลดลงสุขภาพและสูญเสียการเคลื่อนไหว ในไม่กี่ปีที่ผ่านมาของชีวิตเขาไม่สามารถทำงาน และการฝึกของเขารอดชีวิตสนับสนุน unflagging ของไคลเอ็นต์ของเขา James Goldstein และของเลาต์เนอร์เชื่อมโยง Arahuete เฮเลนา ในความตายของเลาต์เนอร์ในปี 1994, Arahuete เอาไปปฏิบัติ การดำเนินธุรกิจปัจจุบันวันนี้ในปีที่ผ่านมา งานของเลาต์เนอร์ได้เปลี่ยนเป็น reappraisal สำคัญอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการประกาศปี 1999 ของ Alan Hess และ Alan ว่า Weintraub "สถาปัตยกรรมของจอห์นเลาต์เนอร์" (Rizzoli), และ 2008 งานนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ค้อน curated โดยสถาปนิก Frank Escher และนักประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรม Olsberg นิโคลัส ในปี 2009 เลาต์เนอร์ได้เรื่องเป็นภาพยนตร์สารคดีโดยตรงโดยเมอร์เรย์ Grigor พื้นที่อนันต์: สถาปัตยกรรมที่ของจอห์นเลาต์เนอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีค่าคอมมิชชั่นที่สำคัญมากอยู่ใน 1949-1950 รวมทั้ง Dahlstrom Residence, Googie ของ Coffee House และ UPA สตูดิโอในเบอร์แบงก์ ในช่วง 1950 เขาเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการกลุ่มสิบหกสถาปนิกแคลิฟอร์เนียที่ดีบุกวิทยาลัยแคลร์แคลิฟอร์เนียและในปี 1951 ผลงานของเขาถูกรวมอยู่ในแฮร์ริสและ Bonenberg มีอิทธิพลหนังสือคู่มือสถาปัตยกรรมร่วมสมัยในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ (เบลล์วัต, 1951). [22 ] Lautner รับใบอนุญาตสถาปัตยกรรมของเขาในปี 1952 และอยู่ในบ้านเดือนกุมภาพันธ์และหน้าแรกที่ตีพิมพ์บทความดักลาส Haskell ประเภทกำหนด "ออกแบบและ googie" ซึ่งรวมถึงสองภาพชูลของร้านอาหาร Los Angeles [23] พร้อมกับบทความเกี่ยวกับฟอสเตอร์และคาร์ลิงบ้าน และอพาร์ตเมนต์ L'Horizon. [24] จากปลายปี 1940 จนกระทั่งเขาตาย Lautner ทำงานเป็นหลักในการออกแบบที่อยู่อาศัยในประเทศ งานแรกของเขาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ในปีต่อมาเป็นชื่อเสียงของเขาเติบโตขึ้นและฐานลูกค้าของเขากลายเป็นที่ร่ำรวยมากขึ้นโครงการออกแบบของเขากลายเป็นที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นสูงสุดในพระราชวัง 25,000 ตารางฟุต (2,300 m2) ที่อยู่อาศัย Arango ใน Acapulco, เม็กซิโก . โครงการนี้พร้อมกับรับการแต่งตั้งเป็นสถาปนิกโอลิมปิก 1984 กีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนใน Los Angeles, ในหมู่ไฮไลท์ของการทำงานต่อ ๆ มาหลังจากหลายปีของการเจ็บป่วยเรื้อรังลิซาเบ ธ Lautner เสียชีวิตในปี 1978; ในปี 1982 Lautner แต่งงานกับผู้ดูแลฟรานเธอ ปี Lautner สุดท้ายก็เฉียดสุขภาพที่ลดลงและการสูญเสียของการเคลื่อนไหว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในชีวิตของเขาเขาก็ไม่สามารถที่จะทำงานและการปฏิบัติของเขารอดชีวิตมาได้ขอบคุณที่สนับสนุนคลายของลูกความของเขาเจมส์โกลด์สตีนและ Lautner ของ บริษัท ร่วมเฮเลนา Arahuete การตาย Lautner ในปี 1994 Arahuete เอาไปปฏิบัติซึ่งยังคงอยู่ในธุรกิจมาจนถึงปัจจุบันในวันนี้ในปีที่ผ่านมาการทำงาน Lautner ได้รับการประเมินราคาใหม่ที่สำคัญอย่างมีนัยสำคัญกับปี 1999 การประกาศของอลันเฮสส์และอลันเวนเทราบ์ "สถาปัตยกรรมของจอห์น Lautner" ( ริซโซลี) และจัดแสดง 2008 ที่พิพิธภัณฑ์ค้อน curated โดยสถาปนิกแฟรงก์ Escher และประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมนิโคลัสออลสเบิร์ก ในปี 2009 Lautner เป็นเรื่องของภาพยนตร์สารคดีสารคดีโดยตรงโดยเมอร์เรกริกอร์อวกาศไม่มีที่สิ้นสุด: สถาปัตยกรรมของจอห์น Lautner

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีคณะกรรมการที่สำคัญในปี 1949 – 1950 รวมถึง dahlstrom เรสซิเดนซ์ อ็อบ กาแฟบ้านและ UPA สตูดิโอในเบอร์แบงค์ ในช่วงปี 1950 เขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนิทรรศการสิบหกแคลิฟอร์เนียสถาปนิกที่วิทยาลัยสคริปส์ ใน แคลร์มอนต์ รัฐแคลิฟอร์เนียใน 2494 และงานของเขาถูกรวมอยู่ใน แฮร์ริส และ bonenberg มีอิทธิพลคู่มือคู่มือสถาปัตยกรรมร่วมสมัยในแคลิฟอร์เนียภาคใต้ ( วอทลิง , 1951 ) [ 22 ] Lautner ได้รับใบอนุญาตสถาปัตยกรรมของเขาในปี 1952 และในเดือนกุมภาพันธ์ของบ้านและเผยแพร่ประเภทกำหนดดักลาส บทความ " ฮาสเคลอ็อบสถาปัตยกรรม "ซึ่งรวมถึงสอง Shulman ภาพถ่ายของ Los Angeles ร้านอาหาร [ 23 ] มาพร้อมกับบทความในบ้านอุปถัมภ์ และคาร์ลิ่ง และ l'horizon อพาร์ทเมนท์ [ 24 ]

จากปลาย 1940 จนกว่าเขาจะตาย ทำงานเป็นหลักในการออกแบบ เรสเนอร์ ในประเทศ งานแรกของเขาคือ ในระดับที่ค่อนข้างเรียบง่าย แต่ปีต่อมา เป็นชื่อเสียงของเขาเติบโตและฐานลูกค้าของเขากลายเป็นที่ร่ำรวยมากโครงการออกแบบของเขากลายเป็นแกรนด์มากขึ้น culminating ในหรูหรา 25 , 000 ตารางฟุต ( 2 , 300 ตารางเมตร ) arango เรสซิเดนซ์ใน Acapulco , เม็กซิโก โครงการนี้ พร้อมกับแต่งตั้งเขาเป็นสถาปนิกโอลิมปิกฤดูร้อน 1984 การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกใน Los Angeles , อยู่ในหมู่ไฮไลท์ของอาชีพของเขาในภายหลัง

หลังจากหลายปีของการเจ็บป่วยเรื้อรัง ซาเนอร์เสียชีวิตในปี 1978 ;ในปี 1982 Lautner แต่งงานแล เธอ ก็ ปีสุดท้ายของ Lautner ถูก marred โดยลดลงสุขภาพและการสูญเสียของการเคลื่อนไหว ในไม่กี่ปีสุดท้ายของชีวิตของเขาที่เขาไม่สามารถที่จะทำงานและการปฏิบัติของเขารอดขอบคุณในการสนับสนุนการของลูกค้าของเขา เจมส์ โกลด์เนอร์ของพันธมิตรและเฮเลนา arahuete . บนเนอร์เสียชีวิตในปี 1994 arahuete ยึดปฏิบัติซึ่งต่อไปในธุรกิจจนถึงวันนี้

ในปีล่าสุด Lautner ทำงานได้รับการวิจารณ์การพิจารณากับ 1999 สิ่งพิมพ์ของอลัน เฮสส์และ " อลัน Weintraub สถาปัตยกรรมของจอห์น ลอทเนอร์ " ( ริซโซลี ) และ 2008 จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ค้อน curated โดยสถาปนิกแฟรงก์เชอร์ และนักประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมนิโคลัส Olsberg .ใน 2009 Lautner เป็นเรื่องของภาพยนตร์สารคดีโดยตรง โดย เมอร์เรย์ grigor อนันต์ , พื้นที่ : สถาปัตยกรรมของจอห์น Lautner .