AbstractIntroductionDifficulties in

Abstract

Introduction

Difficulties in word-level reading skills are prevalent in Brazilian schools and may deter children from gaining the knowledge obtained through reading and academic achievement. Music education has emerged as a potential method to improve reading skills because due to a common neurobiological substratum.

Objective

To evaluate the effectiveness of music education for the improvement of reading skills and academic achievement among children (eight to 10 years of age) with reading difficulties.

Method

235 children with reading difficulties in 10 schools participated in a five-month, randomized clinical trial in cluster (RCT) in an impoverished zone within the city of São Paulo to test the effects of music education intervention while assessing reading skills and academic achievement during the school year. Five schools were chosen randomly to incorporate music classes (n = 114), and five served as controls (n = 121). Two different methods of analysis were used to evaluate the effectiveness of the intervention: The standard method was intention-to-treat (ITT), and the other was the Complier Average Causal Effect (CACE) estimation method, which took compliance status into account.

Results

The ITT analyses were not very promising; only one marginal effect existed for the rate of correct real words read per minute. Indeed, considering ITT, improvements were observed in the secondary outcomes (slope of Portuguese = 0.21 [p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อแนะนำปัญหาในทักษะการอ่านระดับคำแพร่หลายในโรงเรียนบราซิล และอาจขัดขวางเด็กจากความรู้ที่ได้อ่าน และศึกษาสำเร็จ การศึกษาดนตรีกลายเป็นวิธีการเพื่อปรับปรุงทักษะการอ่านเนื่องจากการที่ฐาน neurobiological ทั่วไปวัตถุประสงค์การประเมินประสิทธิภาพของการศึกษาดนตรีเพื่อปรับปรุงการอ่านทักษะและศึกษาสำเร็จในเด็ก (8 อายุ 10 ปี) ด้วยความยากลำบากในการอ่านวิธีเด็ก 235 อ่านปัญหาใน 10 โรงเรียนเข้าร่วมทดลองทางการแพทย์ เดือนห้า สุ่มในคลัสเตอร์ (RCT) ในเขตที่ยากในการเมืองของเซาเปาโลเพื่อทดสอบผลกระทบของการแทรกแซงการศึกษาดนตรีในขณะประเมินอ่านทักษะและความสำเร็จด้านการศึกษาระหว่างปีการศึกษา โรงเรียนห้าถูกสุ่มเลือกให้เรียนดนตรี (n = 114), และ 5 เป็นตัวควบคุม (n = 121) ใช้ 2 วิธีการวิเคราะห์เพื่อประเมินประสิทธิภาพของ: วิธีการมาตรฐานความตั้งใจในการรักษา (มิ), และอื่น ๆ วิธีการประเมินบริษัท Complier เฉลี่ยเชิงสาเหตุผล (CACE) ซึ่งคำนึงตามสถานะการผลลัพธ์ไม่ได้วิเคราะห์ถ้อยสัญญามาก ผลกำไรที่เดียวอยู่ราคาคำจริงถูกต้องอ่านต่อนาที จริง มิ พิจารณาปรับปรุงข้อสังเกตในผลรอง (ความลาดชันของโปรตุเกส = 0.21 [p < 0.001] และความลาดชันของคณิตศาสตร์ = 0.25 [p < 0.001]) สำหรับการประเมิน CACE (เช่น บริษัท complier เด็กกับเด็กไม่ใช่บริษัท complier), ข้อสังเกตผลแนวโน้มมากขึ้นในแง่ของอัตราของคำที่ถูกต้องอ่านต่อนาที [β = 13.98, p < 0.001] และการรับรู้คำโครงสร้างประโยค [β = 19.72, p < 0.001] ตลอดจนผลรอง (สำเร็จการศึกษาในโปรตุเกส [β = 0.77, p < 0.0001] และคณิตศาสตร์ [β = 0.49, p < 0.001] ตลอดปีการศึกษา)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อบทนำความยากลำบากในทักษะการอ่านคำระดับเป็นที่แพร่หลายในโรงเรียนบราซิลและอาจเป็นอุปสรรคเด็กจากการดึงดูดความรู้ที่ได้รับผ่านการอ่านและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การศึกษาดนตรีได้กลายเป็นวิธีการที่มีศักยภาพในการปรับปรุงทักษะการอ่านเพราะเนื่องจากมีรากฐาน neurobiological ทั่วไป. วัตถุประสงค์การประเมินประสิทธิภาพของการศึกษาดนตรีเพื่อการพัฒนาทักษะการอ่านและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในหมู่เด็ก (แปดถึง 10 ปี) ที่มีปัญหาการอ่าน . วิธีที่235 เด็กที่มีความยากลำบากในการอ่าน 10 โรงเรียนเข้าร่วมในห้าเดือนทดลองทางคลินิกแบบสุ่มในคลัสเตอร์ (RCT) ในเขตยากจนในเมืองเซาเปาโลเพื่อทดสอบผลกระทบของการแทรกแซงการศึกษาดนตรีในขณะที่การประเมินทักษะการอ่านและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในช่วงปีที่โรงเรียน ห้าโรงเรียนได้รับการสุ่มเลือกที่จะรวมการเรียนดนตรี (n = 114) และห้าทำหน้าที่เป็นตัวควบคุม (n = 121) สองวิธีที่แตกต่างกันของการวิเคราะห์ถูกนำมาใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของการแทรกแซงที่: วิธีการมาตรฐานเป็นความตั้งใจที่จะรักษา (ITT) และอื่น ๆ ที่เป็นสาเหตุเรียบเรียงเฉลี่ยผล (CACE) วิธีการประมาณค่าที่เอาสถานะความสอดคล้องเข้าบัญชีผลลัพธ์การวิเคราะห์ ITT ไม่ได้มีแนวโน้มมาก; เพียงหนึ่งผลร่อแร่มีอยู่สำหรับอัตราการคำจริงที่ถูกต้องอ่านต่อนาที อันที่จริงเมื่อพิจารณา ITT การปรับปรุงพบในผลรอง (ความลาดเอียงของโปรตุเกส = 0.21 [p <0.001] และความลาดเอียงของคณิตศาสตร์ = 0.25 [p <0.001]) ในฐานะที่เป็นสำหรับการประมาณ CACE (เช่นเด็กเรียบเรียงเมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้เรียบเรียง) ผลกระทบที่มีแนวโน้มมากขึ้นถูกตั้งข้อสังเกตในแง่ของอัตราการคำที่ถูกต้องอ่านต่อนาที [β = 13.98, p <0.001] และการรับรู้เสียง [β = 19.72, P <0.001] เช่นเดียวกับผลรอง (ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในภาษาโปรตุเกส [β = 0.77, p <0.0001] และคณิตศาสตร์ [β = 0.49, p <0.001] ตลอดปีการศึกษา)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อแนะนำความยากลำบากในการอ่านเป็นคำที่แพร่หลายในบราซิลระดับโรงเรียนและอาจขัดขวางเด็กจากการดึงดูดความรู้ที่ได้ผ่านการอ่านและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การศึกษาดนตรีได้กลายเป็นวิธีที่มีศักยภาพ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน เพราะเนื่องจากเป็นทั่วไป neurobiological ชั้นล่าง .วัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิผลของการศึกษาดนตรีเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก ( 8 ถึง 10 ปี ) กับ อ่านยากวิธีเด็กที่มีปัญหาในการอ่าน 235 10 โรงเรียนเข้าร่วมในห้าเดือน และการทดลองทางคลินิกในกลุ่ม ( Razorflame ) ในเขตยากจนในเมืองเซาเปาลูเพื่อทดสอบผลกระทบของการแทรกแซงการศึกษาดนตรีในขณะที่การประเมินทักษะการอ่านและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในโรงเรียน 5 โรงเรียน มีการสุ่มเลือกเพื่อรวมชั้นเรียนดนตรี ( N   =   114 ) , และ 5 ทำหน้าที่ควบคุม ( N =    121 ) สองวิธีที่แตกต่างกันของการวิเคราะห์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ประสิทธิผลของการแทรกแซง : วิธีมาตรฐานคือความตั้งใจที่จะรักษา ( ITT ) , และอื่น ๆ เป็นผู้เรียบเรียงมีสาเหตุผล ( cace ) วิธีประมาณที่ยึดตามสถานะในบัญชี .ผลลัพธ์ที่รู้จักวิเคราะห์ไม่ได้มีแนวโน้มมาก เดียวส่วนผลมีอัตราที่ถูกต้องจริง คำอ่าน ต่อ นาที แน่นอน เมื่อพิจารณาจาก ITT การปรับปรุงที่พบในผลระดับความชันของโปรตุเกส  =   0.21 [ P < 0.001 ) และความลาดชันของคณิตศาสตร์  =   0.25 [ P < 0.001 ] ) สำหรับการประมาณค่า cace ( เช่น เด็กไม่เด็กผู้เรียบเรียงและผู้เรียบเรียง ) , ลักษณะพิเศษของสัญญาเพิ่มเติมพบว่าในแง่ของอัตราของคำที่ถูกต้องอ่านต่อนาที [ β  =   13.98 , P < 0.001 ) และระบบเสียงความตระหนัก [ β  =  เช่่าราคาพิเศษ , p < 0.001 ] รวมทั้งผลระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในภาษาโปรตุเกส [ β  =   0.77 , p < 0.0001 ) และคณิตศาสตร์ [  β  = 0.49 , p < 0.001 ] ตลอดทั้งปีของโรงเรียน )