IntroductionWith the need to reduce

Introduction
With the need to reduce carbon emissions, and the
dwindling reserves of crude oil, liquid fuels derived from
plant material – biofuels – are an attractive source of
energy. Moreover, in comparison with other forms of
renewable energy such as wind, tidal, and solar, liquid
biofuels allow solar energy to be stored, and also to be
used directly in existing engines and transport infrastructure.
Currently, bio-ethanol from, for example, corn
starch, sugar cane or sugar beet, and biodiesel from oil
crops such as palm and oilseed rape, are the most widely
available forms of biofuel. However, there are two major
issues over the sustainability of these first generation
biofuels [1,2]. Firstly, to provide a significant proportion of transport fuel, the growth of these crops would compete
for arable land with food crops. In 2008, the UK used
an estimated 47 billion liters of transport fuel, 53% of
which was diesel [3]. If this were met using biodiesel from
oilseed rape, it would require 17.5 Mha (Table 1), more
than half the land area of the UK. Secondly, the overall
savings in energy and greenhouse gas emissions over the
lifecycle of the biofuel may be less than anticipated; for
example for biodiesel from oilseed rape [2] and soya [1]
the input of energy required over the life-cycle is 50% of
the energy contained in the fuel.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำกับความจำเป็นเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และdwindling สำรองน้ำมันดิบ เชื้อเพลิงเหลวมาพืชวัสดุ – องไข – เป็นแหล่งน่าสนใจของประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบอื่น ๆพลังงานทดแทนเช่นลม บ่า และพลังงานแสง อาทิตย์ ของเหลวพลังงานแสงอาทิตย์ การจัดเก็บ และยังช่วยให้เชื้อเพลิงชีวภาพใช้ในเครื่องยนต์ที่มีอยู่และโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งโดยตรงปัจจุบัน ไบโอเอทานอลจาก เช่น ข้าวโพดแป้ง น้ำตาล หรือนทาน และไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชเช่นปาล์มและ oilseed rape มีกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดรูปแบบที่ว่างของเชื้อเพลิงชีวภาพ อย่างไรก็ตาม มีสองหลักปัญหาผ่านความยั่งยืนของรุ่นแรกนี้เชื้อเพลิงชีวภาพ [1, 2] ประการแรก เพื่อให้สัดส่วนสำคัญของการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง การเติบโตของพืชเหล่านี้จะแข่งขันสำหรับที่ดินเพาะปลูกกับพืชอาหาร ใช้ใน 2008 สหราชอาณาจักรลิตร 47 พันล้านโดยประมาณการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง 53% ของซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซล [3] ถ้านี้ตรงตามการใช้ไบโอดีเซลจากoilseed rape มันจะต้องมี 17.5 Mha (ตาราง 1), เพิ่มเติมกว่าครึ่งที่ดินพื้นที่ของสหราชอาณาจักร ประการที่สอง โดยรวมประหยัดพลังงานและเรือนกระจกก๊าซปล่อยผ่านการวงจรชีวิตของเชื้อเพลิงชีวภาพอาจน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับตัวอย่างไบโอดีเซลจากถั่วเหลือง [1] และ oilseed rape [2]ป้อนข้อมูลพลังงานที่ต้องผ่านวงจรชีวิตเป็น 50% ของพลังงานที่มีอยู่ในเชื้อเพลิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับความต้องการที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและสำรองลดน้อยลงของน้ำมันดิบเชื้อเพลิงเหลวที่ได้มาจากพืช- เชื้อเพลิงชีวภาพ - เป็นแหล่งที่น่าสนใจของการใช้พลังงาน นอกจากนี้ในการเปรียบเทียบกับรูปแบบอื่น ๆ ของพลังงานทดแทนเช่นลมคลื่นและพลังงานแสงอาทิตย์ของเหลวเชื้อเพลิงชีวภาพช่วยให้พลังงานแสงอาทิตย์จะถูกเก็บไว้และยังที่จะมาใช้โดยตรงในเครื่องมือที่มีอยู่และโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง. ปัจจุบันไบโอเอทานอลจากตัวอย่างเช่น ข้าวโพดแป้งน้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลหัวผักกาดและไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชเช่นปาล์มและข่มขืนoilseed เป็นกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในรูปแบบที่มีอยู่ของเชื้อเพลิงชีวภาพ แต่มีสองที่สำคัญปัญหามากกว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนของทั้งรุ่นแรกเชื้อเพลิงชีวภาพ[1,2] ประการแรกเพื่อให้มีสัดส่วนที่มีนัยสำคัญของการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงการเจริญเติบโตของพืชเหล่านี้จะแข่งขันสำหรับที่ดินทำกินกับพืชอาหาร ในปี 2008 สหราชอาณาจักรใช้ประมาณ47000000000 ลิตรของน้ำมันเชื้อเพลิงการขนส่ง 53% ของซึ่งเป็นดีเซล[3] ในกรณีนี้ได้พบการใช้ไบโอดีเซลจากข่มขืน oilseed ก็จะต้องมีหมา 17.5 (ตารางที่ 1) มากขึ้นกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่ที่ดินของสหราชอาณาจักร ประการที่สองโดยรวมเงินฝากออมทรัพย์ในการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในช่วงวงจรชีวิตของเชื้อเพลิงชีวภาพอาจจะน้อยกว่าที่คาดไว้ สำหรับตัวอย่างสำหรับไบโอดีเซลจากการข่มขืน oilseed [2] และถั่วเหลือง [1] ใส่ของพลังงานที่จำเป็นในช่วงวงจรชีวิตเป็น 50% ของพลังงานที่มีอยู่ในน้ำมันเชื้อเพลิง