Period of fragmentation[edit]Duke B

Period of fragmentation[edit]
Duke Bolesław III the Wrymouth, who reigned from 1102 to 1138, tried to end the repeated struggles between various claimants by setting the government of Poland on a more formal footing. In his testament, he divided his lands into five Duchies and distributed them among his sons.

To ensure unity, he established the senioral principle, which stated that the eldest member of the dynasty should be High Duke and have supreme power over the other Dukes. The High Duke ruled, in addition to the Duchy he inherited, over the indivisible senioral part, a vast strip of land running north-south down the middle of Poland, with Kraków as the chief city. The High Duke's prerogatives also included control over Pomerania, a fief of the Holy Roman Empire.


Church in Poland, 12th-13th century.
While the senorial part always fell to that member of the Dynasty that happened to be senior, the other four Duchies were inherited in the usual way among the descendants of Boleslaw's sons. These provisions were soon broken, however, with the various Dukes trying to gain the position of High Duke for themselves, regardless of actual seniority. The provisions, meant to ensure unity fragmented the country even further and resulted in a decline of monarchical power. Poland even came under the influence of the Přemyslid kings of Bohemia, whose dynasty died out before they could gain a stable foothold in Poland.

The accession of the Piast Duke Władysław I the Elbow-high ended the power struggle amongst the Polish nobility. He united the various principalities of the Kingdom of Poland, and in 1320 he was crowned King. His son Casimir III the Great greatly strengthened the Polish state in both foreign and domestic affairs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระยะเรียง [แก้ไข]ดุ๊ค Bolesław III Wrymouth ที่ reigned จาก 1102 การ 1138 พยายามจบการต่อสู้ซ้ำระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยการตั้งรัฐบาลของประเทศโปแลนด์ในหลักอย่างเป็นทางการมากขึ้น ในพระคัมภีร์ของเขา เขาแบ่งที่ดินเขาชีเออร์เนสตีนห้า และได้ถูกกระจายบุตรเพื่อความสามัคคี เขาสร้างหลัก senioral ซึ่งระบุว่า สมาชิกราชวงศ์คนควรดยุ สูง และมีอำนาจสูงสุดเหนือดุ๊คอื่น ๆ ดุ๊คสูงปกครอง นอกจากดัชชีเขาสืบทอด กว่าส่วน senioral indivisible ป่าที่ดินทำเหนือใต้ลงตรงกลางของประเทศโปแลนด์ กับคราคูฟเป็นหัวเมืองใหญ่ ของดุ๊กสูง prerogatives รวมควบคุมพอเมอเรเนีย กำหนดศักดินาของจักรวรรดิโรมันศักดิ์สิทธิ์คริสตจักรในประเทศโปแลนด์ ศตวรรษที่ 12-13ในขณะที่ส่วน senorial จะตกให้สมาชิกราชวงศ์ที่เกิดขึ้นจะอาวุโส อื่น ๆ 4 ชีเออร์เนสตีนสืบทอดด้วยวิธีปกติในหมู่ลูกหลานของบุตรของ Boleslaw บทบัญญัตินี้ได้เร็ว ๆ นี้เสีย อย่างไรก็ตาม กับดุ๊คต่าง ๆ ที่พยายามเข้าตำแหน่งของดุ๊กสูงด้วยตนเอง ไม่อาวุโสจริง บทบัญญัติ หมายถึง ให้ประเทศยิ่งกระจัดกระจาย และผลในการลดลงของพลังงาน monarchical โปแลนด์ได้มาภายใต้อิทธิพลของกษัตริย์ Přemyslid ของโบฮีเมีย ราชวงศ์ที่ตายออกก่อนที่พวกเขาสามารถได้รับ foothold ที่มั่นคงในประเทศโปแลนด์การภาคยานุวัติของ Władysław วิทยาลัยมิดเวสเทินดุ๊ก ฉันสูงศอกสิ้นสุดการต่อสู้อำนาจท่ามกลางขุนนางโปแลนด์ เขาสหราชรัฐต่าง ๆ ของราชอาณาจักรโปแลนด์ และใน 1320 เขามีมงกุฎกษัตริย์ บุตร Casimir III ดีอย่างมากความเข้มแข็งรัฐโปแลนด์ในกิจการภายในประเทศ และต่างประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระยะเวลาของการกระจาย [แก้ไข]
ดยุคBolesław III Wrymouth ที่ทรงครองราชย์ 1102-1138 พยายามที่จะยุติการต่อสู้ระหว่างผู้เรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยการตั้งค่าต่างๆของรัฐบาลโปแลนด์บนเกาะเป็นทางการมากขึ้น ในพินัยกรรมของเขาเขาแบ่งดินแดนของเขาเป็นห้า Duchies และจัดจำหน่ายพวกเขาในหมู่ลูกหลานของเขา. เพื่อให้แน่ใจว่ามีความเป็นเอกภาพเขาเป็นที่ยอมรับในหลักการ senioral ที่ระบุว่าสมาชิกคนโตของราชวงศ์ที่ควรจะเป็นดยุคและมีอำนาจสูงสุดในช่วงยุคอื่น ๆ ดยุคสูงปกครองนอกเหนือไปจากขุนนางเขาได้รับมรดกที่เป็นส่วนหนึ่ง senioral แบ่งแยกเป็นแถบใหญ่ของดินแดนเหนือใต้ลงตรงกลางของโปแลนด์กับคราคูฟเป็นเมืองที่หัวหน้า สิทธิดยุคมัธยมยังรวมถึงการควบคุมเมอราเนียศักดินาของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์. คริสตจักรในโปแลนด์ศตวรรษที่ 12 13. ในขณะที่ส่วนหนึ่ง Senorial มักจะลดลงไปได้เป็นสมาชิกของราชวงศ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นอาวุโสอีกสี่ Duchies อยู่ ได้รับการถ่ายทอดในทางปกติในหมู่ลูกหลานของลูกหลานของลาว บทบัญญัติเหล่านี้ถูกทำลายในเร็ว ๆ นี้ แต่กับดุ๊กต่างๆพยายามที่จะได้รับตำแหน่งของดยุคสูงสำหรับตัวเองโดยไม่คำนึงถึงความอาวุโสที่เกิดขึ้นจริง บทบัญญัติหมายถึงความสามัคคีเพื่อให้แน่ใจว่าการแยกส่วนของประเทศให้ดียิ่งขึ้นและส่งผลในการลดลงของการใช้พลังงานกษัตริย์สมัยใหม่ โปแลนด์แม้จะมาอยู่ภายใต้อิทธิพลของพระมหากษัตริย์แห่งโบฮีเมียPřemyslidซึ่งราชวงศ์เสียชีวิตออกมาก่อนที่พวกเขาจะได้รับตั้งหลักมั่นคงในโปแลนด์. การเพิ่มขึ้นของดยุค Piast Władysławข้อศอกฉันสูงสิ้นสุดวันที่ต่อสู้แย่งชิงอำนาจในหมู่ไฮโซโปแลนด์ เขาพร้อมใจอาณาเขตต่างๆของอาณาจักรโปแลนด์และใน 1320 เขาได้รับการสวมมงกุฎกษัตริย์ ลูกชายของเขาเมียร์ iii มหาราชมากความเข้มแข็งรัฐโปแลนด์ทั้งในต่างประเทศและในประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระยะเวลาของการแก้ไข ]
ดุ๊กโบลส์ł aw III wrymouth ผู้ครอบครองจากเราเพื่อให้พยายามที่จะสิ้นสุดการต่อสู้ระหว่างประเทศต่างๆ ซ้ำโดยการตั้งค่าของรัฐบาลโปแลนด์บนฐานรากที่เป็นทางการมากขึ้น ในพินัยกรรมของเขา เขาแบ่งที่ดินออกเป็น 5 กลุ่มดัชชีและแจกจ่ายพวกเขาในหมู่ลูกหลานของเขา

เพื่อให้เอกภาพ เขาก่อตั้ง senioral หลัก ,ที่ระบุว่าสมาชิกคนโตของราชวงศ์ควรจะดยุคสูงและมีอำนาจสูงสุดเหนือวิดีโอเกมอื่น ๆ ดยุคสูงปกครองโดยขุนนางเขาสืบทอดมากกว่าส่วน senioral แบ่งแยก , แถบกว้างของที่ดินวิ่งเหนือใต้ลงตรงกลางของโปแลนด์กับกรากุฟเป็นเมืองที่หัวหน้า สูงของดยุค prerogatives รวมทั้งควบคุมปอมเมอเรเนียน ,มีที่ดินตามศักดินาของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์


โบสถ์ในโปแลนด์ 12th-13th ศตวรรษ .
ในขณะที่ senorial ส่วนหนึ่งเสมอตกลงกับสมาชิกของราชวงศ์ที่เป็นรุ่นพี่อีกสี่สาธารณรัฐฝรั่งเศสได้สืบทอดในทางปกติในหมู่ลูกหลานของ boleslaw ของบุตรชาย บทบัญญัติเหล่านี้ได้ในเร็ว ๆ นี้เสีย แต่กับเจ้านายต่าง ๆพยายามที่จะได้รับตำแหน่งดยุคสูงเองไม่ว่าจริงอาวุโส บทบัญญัติ ตั้งใจให้แตกความสามัคคี ประเทศแม้แต่เพิ่มเติม และผลในการลดลงของกษัตริย์ อำนาจ โปแลนด์ยังมาภายใต้อิทธิพลของ P ř emyslid กษัตริย์แห่งโบฮีเมียซึ่งราชวงศ์ตายออกก่อนที่พวกเขาสามารถตั้งหลักได้มั่นคง

ในโปแลนด์การภาคยานุวัติของดยุค เพียสท์ W ł adys ł AW ผมศอกสูงสิ้นสุดการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจในหมู่ชาวโปแลนด์คนชั้นสูง เขายูไนเต็ดในอาณาเขตต่างๆของราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ และจะทรงราชาภิเษกเป็นกษัตริย์ ลูกชายของเขา Casimir III ดีเข้มแข็งอย่างมาก รัฐโปแลนด์ในกิจการทั้งในและต่างประเทศ